Skip to main content

มองตุรกีแล้วมามองไทย

สัปดาห์ที่ผ่านมากรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของวุฒิสภา ได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศตุรกีในด้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ


 


ประเทศตุรกีที่เรารู้จักทางด้านฝีมือการเล่นฟุตบอลจนเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกนั้น มีประชากรประมาณ ๗๐ ล้านคน ประเทศนี้ส่วนใหญนับถือศาสนาอิสลาม ประมาณ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นศาสนา คริสต์ และศาสนาอื่นๆ   ประเทศนี้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่สองทวีป คือเอเซีย และยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมืองท่าที่สำคัญที่สุดคือเมืองอิสตัลบูลที่เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ในสองทวีป


 


พื้นที่ส่วนใหญ่ของตุรกีถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์อยู่ในทวีปเอเซีย  แต่ประเทศนี้เข้าร่วมทำสงครามกับทวีปยุโรปตั้งแต่สมัยโบราณจึงถูกจัดให้อยู่ในทวีปยุโรป  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนทำสงครามโลก ถูกประเทศรัสเซียขนานนามว่า คนป่วยของยุโรป  ประเทศนี้จึงถือเป็นประเทศในยุโรปจากประวัติศาสตร์  


 


ตุรกีรอการเข้าเป็นสมาชิกประเทศสหภาพยุโรป ( อียู) มาหลายปี เพราะพลเมืองมีถึง ๗๐ ล้านคน ถ้าเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป จะเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของอียู  นั่นหมายถึงสมาชิกในรัฐสภาจะมากตามจำนวนประชากร ทำให้ตุรกีโดนกีดกันจากสมาชิกอียูในปัจจุบัน  เพราะเขากลัวบทบาทของตุรกีมาก และคนตุรกีจะมีอิสระในการไปไหนมาไหนในยุโรปได้ง่ายโดยไม่ต้องขอวีซ่า  การทำงานในต่างประเทศจะมีมากขึ้น ทำให้คนตุรกีทำงานในยุโรปสะดวกขึ้น


 


จากการดูงานพบว่าประเทศนี้เคยอนุญาตให้ตั้งบ่อนคาสิโนได้ แต่ต้องปิดไปเพราะมีเหตุการณ์ที่พลเมืองตุรกีไปเล่นการพนันแล้วฆ่าตัวตาย และก่ออาชญากรรมมาก   จนรัฐบาลต้องปิดคาสิโน ไม่อนุญาติให้เล่นการพนันในประเทศอีก ใครจะเล่นให้ไปเล่นในประเทศใกล้เคียง เช่น โรมาเนีย เป็นต้น!   นับว่าเป็นตัวอย่างของความล้มเหลวของประเทศที่ปล่อยให้มีบ่อนคาสิโน


 


ประการต่อมา ตัวอย่างที่เห็นในเรื่องของความขัดแย้งทางศาสนาก็คือ ในอดีตประเทศตุรกี เคยมีการทำการรบกันระหว่างผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามกับศาสนาคริสต์   การทำสงครามนั้นมีร่องรอยจากการที่โบสถ์คริสในสมัยจักรพรรดิ์ คอนสเตนติน โดนทำลายจากผู้นำราชวงค์ออตโตมันผู้ซึ่งศรัทธาในศาสนาอิสลาม  มีการโบกปูนปิดรูปเคารพต่างๆ เพราะศาสนาอิสลามไม่ให้เคารพรูปสักการะที่มนุษย์สร้างขึ้น  เขาให้เคารพพระเจ้าเท่านั้น


 


เมื่อมาถึงผู้นำประเทศชาวเตริ์ก ชื่อ เทมา อัตตาเตริ์ก  ประธานาธิบดีคนแรกของตุกี ได้ประกาศรัฐธรรมนูญไม่ให้นำศาสนามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในตุรกี   นั่นเป็นการยุติการรบราฆ่าฟันในตุรกี เนื่องจากความขัดแย้งของศาสนา  แม้แต่ประเทศสิงคโปร์ก็ได้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้รัฐธรรมนูญของประเทศตุรกีเป็นแบบ เพราะไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งของความเชื่อทางศาสนา  เพราะประเทศสิงคโปร์มีทั้งผู้นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาซิกข์  ศาสนาฮินดู


 


เราได้ยินคำว่ายังเตริ์ก หมายถึงนายทหารหนุ่ม ผู้มีความคิดสมัยใหม่ มีจากทหารหนุ่มของตุรกีนั้นเอง  คราวใดที่ผู้นำประเทศนำศาสนามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ยังเตริ์กก็จะพร้อมที่จะ    ปฎิวัติ เพื่อให้ประเทศอยู่ในความสงบ   แม้แต่นายกรัฐมนตรีของตุรกีต้องถูกเว้นวรรคทางการเมืองเนื่องจากคำพูดหาเสียงที่กล่าวว่า โบสถ์ เป็นเหมือนหมวกทหาร ป้อมเหมือนปลายปืน  เพราะฉะนั้นเรื่องของศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง จะทำให้คนในประเทศขัดแย้งกันได้ ถ้าเขียนรัฐธรรมนูญทำให้มีข้อขัดแย้งทางศาสนา 


 


มองโลกให้กว้าง มองประวัติศาสตร์ให้ลึก แล้วเราก็จะได้บทเรียนหลายอย่างให้รัฐบาลนำมาใช้ในการบริหารประเทศให้สงบสุข


 


ผมขอเล่าถึงการแปรรูปการท่าเรือของประเทศตุรกี ล่าสุดเขามีการนำท่าเรือ ท่าเรือมาแปรรูป โดยให้ต่างชาติไปลงทุนทำธุรกิจการท่าเรือ  เขามีนโยบายที่แยบยล โดยให้ประมูลทีละท่าเรือ และไม่ให้ผูกขาดการบริหารท่าเรือ   ใครได้ท่าเรือไปหนึ่งท่า ท่าเรือที่สองต้องเปิดโอกาสให้เจ้าอื่นก่อนหรือมีข้อกำหนดไม่ให้มีการผูกขาดการท่าเรือ ที่สำคัญระบบนำร่องการเดินเรือยังเป็นของรัฐ และมีองค์กรกำกับดูแลท่าเรือไม่ให้มีการผูกขาด 


 


ดูแล้วอยากให้รัฐมนตรีทั้งหลายของประเทศเราได้ยั้งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักเหมือนเขาบ้าง   วุฒิสภาอุตส่าห์กลั่นกรองกฎหมาย ล็อคใส่กุญแจไม่ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ไปขายหุ้นให้ต่างชาติมากกว่า ๕๐ เปอร์เซ็นต์  ผู้บริหารการท่าเรือยังอุตส่าห์เอาท่าเรือของประเทศไปให้ต่างชาติเช่า ไป ท่าแบบรีบร้อนลุกลี้ลุกรน


 


แบบนี้จะไม่ให้มีข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงได้อย่างไร?


 


ผมเรียนว่ายิ่งเดินทางไปดูงานต่างประเทศเท่าไร  เราจะยิ่งรักประเทศมากขึ้นเท่านั้น ท่านเชื่อหรือไม่ พอเครื่องบินลงจอดที่เมืองไทย พวกเราแทบจะกราบแผ่นดินแม่ ซึ่งบรรพบุรุษได้รักษาให้แก่เรา หวงแหนไว้ให้พวกเรา  โดยเฉพาะอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ได้ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศในการดำรงชีพ  ไม่มีกษัตรย์หรือราชินีพระองค์ไหนที่รักและเสียสละเท่าพระองค์ท่าน


 


ในวันแม่แห่งชาติ ๑๒ สิงหา ขอปวงชนชาวไทยร่วมกันน้อมรำลึก และร่วมกันทำคุณความดีต่อแม่ของเราเพื่อเป็นราชสดุดีโดยทั่วหน้ากัน