Skip to main content

ชาวนาคนสุดท้าย : ใต้เงาสวนลำไย

คอลัมน์/ชุมชน

 

1


 


อ้ายคำป๊อก ชายวัยกลางคนร่างเตี้ยป้อมป๊อกล๊อก สมคำสร้อยห้อยท้ายชื่อตามคำเรียกขานของผู้คนในละแวกบ้านหนองสมณะใต้ ยืนอยู่ในสวนลำไยหลังบ้าน หลังกินข้าวงายอิ่มนั่งเรียงเม็ดข้าวในท้องดีแล้ว อ้ายคำป๊อกกับเมียเตรียมออกมาลุยงานเก็บลำไยต่อจากเมื่อเช้า  แดดยามสายสอดแสงลอดส่องลงมาแตะต้องพื้นดินเป็นวงเป็นทางวับวับไหวไหวตามลมพัดโยกยอดลำไย วันนี้แดดดีบ่มีฝน ลำไย 40 กว่าต้นสูงสล้างเหนือหลังคาบ้านเบียดตัวอัดแน่นในเนื้อที่ไร่กว่า บ้านปูนชั้นเดียวของอ้ายคำป๊อกเป็นส่วนหนึ่งของสวนลำไย หรืออาจกล่าวอีกทีได้ว่า ชีวิตของอ้ายคำป๊อกตกอยู่ใต้เงาสวนลำไยคงไม่ผิดนัก


 


ทั้งวันทั้งปี อ้ายคำป๊อกต้องคอยเฝ้าดูแลเอาใจใส่ประคบประหงมสวนลำไยให้ป่งใบดี บานช่อดอกหลาย ติดหน่วยงาม อาจมีบางครั้งอยู่หรอกต้องพลัดพรากจากไปกับพรรคพวกเจ้าหมู่เร่หาของเก่าทั่วภาคเหนือ เสาะหาซื้อเอาจำพวกตู้เย็น ตู้แช่ของสด เครื่องทำน้ำแข็งที่หลุดเสียใช้การบ่ได้ ขนเอามาแกะแยกชิ้นส่วนชั่งกิโลขาย ของเหล่านี้มีอลูมิเนียมและขดลวดทองแดงนักหลายได้ราคาดีแบ่งปันกันกินได้หลายตังค์ต่อเที่ยว


 


อย่างว่าแหละ นั่นมันเพียงการจากพรากชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานวันนักต้องบ่ายหน้าคืนมายังสวนลำไยดังเดิม ดูสิคนข้างบ้านลำไยออกช่อดกงาม สวนนั้นเจ้าของเอาใจใส่หน่วยใหญ่แท้ใหญ่ว่า มีหรืออ้ายคำป๊อกจะบ่รีบกลับมาก้มหน้าก้มตาเร่งบำรุงต้นให้อุดมสมบูรณ์ ยิ่งหลายปีมานี้ชาวสวนสามารถบังคับให้ลำไยติดช่อดอกได้นอกฤดูตามการกะเก็งเอาของแต่ละเจ้าว่าจะให้ออกในเดือนไหนของปีอ้ายคำป๊อกยิ่งบ่อาจกระดิกตัวออกไปไกลเกินได้เลย ปีนี้เช่นกัน ลำไยให้หน่วยผลตามธรรมชาติแทบทุกสวนทีเดียว หวังใจลึก ๆ ขอให้มันได้ราคาดีสักเที่ยวสินะ หนี้สิน ธกส. เป็นแสนคงได้ผ่อนมือผ่อนตีนส่งคืนพอเบาใจลงเสียบ้าง


           


2


 


อ้ายคำป๊อกแบกเกิ๋นเข้าหาลำไยต้นที่อยู่ใกล้กับฟากฝั่งห้องนอน เกิ๋นทำจากไม้ไผ่ซางทั้งลำเลือกเอาที่แก่จัดเจาะรูด้านข้างให้ทะลุถึงกัน เหลาไม้เป็นซี่ขนาดพอดีรูสอดเข้าไปจากโคนต้นจนสุดปลาย ซี่เกิ๋นเป็นที่จับที่เหยียบเวลาป่ายปีนขึ้นเก็บหน่วยเก็บผล สวนลำไยของใครอายุมากน้อยกี่ปีดูได้จากจำนวนซี่ของเกิ๋นที่ต้องใช้ขึ้นกันอีกทางหนึ่งนี่แหละ สวนอ้ายคำป๊อกอายุ 15 ปีต้องใช้เกิ๋นขนาด 20 ซี่จึงพอดี


 


ก่อนขึ้นเก็บลำไยต้องปักตีนเกิ๋นให้มั่นคงกับพื้นดิน พาดส่วนปลายเข้ากับง่ามกิ่งลำไย ออกแรงขย่มเกิ๋นดูสองสามที ได้ที่แล้วเอาไม้ง่ามมาค้ำยันซี่เกิ๋นอีกสามสี่จุด บริเวณส่วนกลางค่อนไปทางปลายเกิ๋นป้องกันบ่ให้มันหักผัวะลงมา ในขณะรองรับแรงคนป่ายปีนเคลื่อนไหวทำงาน


 


อ้ายคำป๊อกแหงนมองยอดลำไยอีกหนเรียกความมั่นใจ ไต่ขึ้นซี่เกิ๋นพร้อมกับตะกร้าพลาสติก  สีแดงก้นลึกมีเชือกยาวผูก ถึงยอดที่หมายตาเอาไว้แล้วผูกเชือกตะกร้าเข้ากับซี่เกิ๋น เอื้อมมือหักกิ่งลำไยใกล้มือใส่ตะกร้า กิ่งใดไกลเกินใช้ไม้ขอยาวขนาดวาเกี่ยวมาเด็ดหัก  อ้ายคำป๊อกดิ้นไหวยวบยาบอยู่ปลายไม้    ได้กิ่งพวงลำไยดกงามนึกยิ้มในใจ  หลายกิ่งหน่วยบ่งามมันชวนให้หงุดหงิดหัวเสีย


 


ตะกร้าแดงมีลำไยเต็มเกือบล้น อ้ายคำป๊อกแก้ปมเชือกที่ผูกไว้ออก  หย่อนตะกร้าหนักอึ้งลงไป ผ่อนคลายเชือกแช่มช้า ตะโกนเรียกเมียให้ออกมารับต่อช่วงต่อมือ เมียอ้ายคำป๊อกละงานเด็ดคัดขนาดลำไยเอาไว้   เร่งสาวเท้ามาตามคำเรียกเอิ้น เทลำไยใส่เข่งไม้ไผ่สานสองใบซึ่งตั้งวางอยู่ใกล้ตีนเกิ๋น เสร็จแล้วอ้ายคำป๊อกดึงเชือกเอาตะกร้าว่างเปล่ากลับขึ้นไปใหม่ รอจนลำไยเต็มเข่งแล้วเมียอ้ายคำป๊อกแบกเข่งไปเทกองรวมกันในโรงรถก่อนกลับมารับลำไยจากอ้ายคำป๊อกอีก


 


ผัวขึ้นเก็บอยู่บนต้นบนเกิ๋น เมียรอเท รอแบกเข่งอยู่ด้านล่าง จนกว่าลำไยอยู่พ้นมือเอื้อมคว้า ไกลสุดช่วงไม้ขอเกาะเกี่ยวถึง หรือกระทั่งลำไยหมดแล้ว บ่เหลือให้เก็บ อ้ายคำป๊อกจึงได้ไต่ลงมา แบกย้ายเกิ๋นไปปักหลักขึ้นกิ่งใหม่ ต้นใหม่ 


 


3


 


นับรวมวันนี้ สิบเอ็ดวันเข้ามาแล้วที่ทั้งคู่อยู่ในสวนลำไย  


 


วันแรกจ้างคนงานปกากะญอจากอำเภอดอยเต่าฟากฝั่งเชียงใหม่ถึงสิบคนมาขึ้นเก็บและคัดลำไย  หวังให้งานเสร็จเร็วได้เงินงาม บ่ได้เรื่อง บ่ได้ดั่งใจ เมียอ้ายคำป๊อกถอดใจ เด็กหนุ่มสาวจากดงดอยสิบคนทำงานบ่คล่องเท่าใด ถึงพวกเขาจะบอกว่าล้วนแล้วแต่ผ่านงานสวนลำไยมานับไม่ถ้วนก็ตามที อ้ายคำป๊อกต้องคอยช่วยแบกย้ายเกิ๋นให้เสียทุกครั้ง พวกเขาพาดเกิ๋นสูงหนักบ่เป็น จะไม่ช่วยรึ หากเด็กหนุ่มพลัดพลาดตกมาแขนขาหัก ดีบ่ดีถึงตายได้เดือดร้อนกันยกใหญ่


 


ส่วนบรรดาเด็กสาวนั้นเล่าคัดเกรดลำไยบ่ได้ขนาดพอดีกับที่เมียอ้ายคำป๊อกทำให้ดูเป็นตัวอย่าง คู่ผัวเมียเลยจ้างพวกเขาแค่วันเดียว ครั้นจะหาเอาคนอื่นมาแทนก็บ่มี คนงานในหมู่บ้านล้วนรับงานสวนอื่นหมดแล้ว  หายากหาเย็นเขียมแท้เขียมว่า ต้องออกแรงสองคนผัวเมียช่วยกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา


 


ได้กองลำไยมากพอแล้ว คู่ทุกข์คู่ยากนั่งบนก้อมบ่ใกล้บ่ไกลกันอยู่ในโรงรถที่ตอนนี้กันพื้นที่ครึ่งหนึ่งสำหรับงานคัดลำไย ถอยรถปิกอัพออกไปให้ท้ายมันพ้นโผล่โรงเก็บ ก้อมหรือม้านั่งขนาดเล็กทำจากเศษไม้สามชิ้น สองชิ้นแรกเป็นตีนก้อมวางตั้งขึ้น เอาแผ่นไม้วางทับลงไปเป็นที่นั่ง ตอกตีตะปูยึดหัวท้ายแผ่นไม้กับตีนก้อมให้แน่นหนาเป็นอันใช้ได้ เปิดวิทยุฟังเพลงแก้เหงาง่อม สองคนผัวเมียบ่ค่อยพูดจาอู้กันเท่าใดนักเวลาทำงาน


 


เด็ดดึงเอาใบทิ้งไปกองด้านหลังที่นั่งเสียก่อน เด็ดก้านให้ยาวพอดีเผื่อมัด  ปลิดลูกเล็กบ่ได้ขนาดออก เหลือแต่หน่วยใหญ่พวงงามคัดเกรด แยกเป็นกองตามขนาดหน่วยลูก    กองเบอร์ 1 หน่วยใหญ่สุดราคาดีแต่มีน้อยนักเต็มที กองเบอร์ 2 เล็กลงมาอีกอีกหน่อย ส่วนกองเบอร์ 3 หน่วยน้อยที่สุดสำหรับการมัดปุ๊ก สุดท้ายเป็นอีร่วง อันได้แก่บรรดาหน่วยเล็กเกินไป หน่วยเท่ามะแคว้งมะเขือพวง บรรดาหน่วยใหญ่งามที่หลุดร่วงระหว่างการหักกิ่งบนต้น ใส่เข่ง เทกอง ล้วนคัดแยกเป็นอีร่วงเช่นกัน 


 


ลำไยหมดหน้าหมดกองแล้ววนกลับไปสู่การขึ้นเก็บอีกรอบ อีกรอบ และอีกหลายรอบ


 


4


 


ผัวเมียหยุดเอาแฮงกินน้ำเสียหน่อย ยั้งพักกินข้าวตอนชั่วครู่ชั่วอึดใจ ก่อนหันหน้าเข้าหางานอีก จนบ่ายแก่ตะวันสาดแสงแทงย้อนเข้ามาทางฟากตะวันตกบ้านนั่นแหละ จึงเปลี่ยนมือเปลี่ยนตีนสู่การมัดปุ๊ก อ้ายคำป๊อกกับเมียช่วยกันรวบเอาลำไยจากกองมารวมให้เป็นพวงเป็นปุ๊กขนาดพอดีมือกำ เด็ดก้านเสมอกันเสียหน่อย  ใช้หนังยางมัดก้านให้แน่น มัดจนหมดกองครบทุกเบอร์  เสร็จแล้วเป็นขั้นตอนใส่ตะกร้าพลาสติกขนาดใหญ่หลากสีเรียกกันติดปากว่ากระซัง   


 


อ้ายคำป๊อกเรียงปุ๊กลำไยใส่กระซัง ส่วนเมียแยกตัวไปรับลูกน้อยที่โรงเรียนและเลยไปหาซื้อของกินที่กาดแลงบ้านไร่ดง เอาปุ๊กลำไยเบอร์ 1-2 รองก้นกระซังก่อน ตรงกลางเอาอีร่วงหน่วยใหญ่งามประมาณหนึ่งกิโลใส่ตาม สุดท้ายแต่งหน้ากระซังด้วยปุ๊กลำไยเบอร์ 1 ล้วน ๆ ให้หน่วยผลเรียงตัวเรียบร้อยแลดูสวยสมงามตา ส่วนปุ๊กเบอร์ 3 แยกใส่กระซังอื่นต่างหาก อีร่วงที่เหลือใส่รวมกระสอบฟางเตรียมเข้าเครื่องร่อน


 


วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการมัดปุ๊กขาย ใช่ว่าลำไยหมดสวนหมดต้นแล้วแต่อย่างใด งานนี้มันให้ราคางามพอคุ้มค่าเหนื่อยดีนักหนา ได้ตกวันละ 800 – 1,000 บาท บ่ต้องแบ่งให้ใคร ทุกบาททุกสตางค์เข้ากระเป๋าตัวเองทั้งหมด เบอร์ 1-2 กิโลละ 10 บาท เบอร์ 3 เขาให้ 4 บาท อีร่วง 50 สตางค์ต่อโล ขึ้นอยู่กับว่าเก็บได้มากน้อยเพียงใด หน่วยผลใหญ่งามแค่ไหน


 


ลำพังสองคนสองแฮง บ่มีคนช่วยคนจ้างมันไปบ่รอด ลำไยมัดปุ๊กเป็นงานละเอียดหลายขั้นตอนย่อยตีนย่อยมือ คนอิดอ่อนเกินไป ลำไยแตกหล่นร่วงทุกวัน ทั้งที่ใส่ปุ๋ยให้น้ำอัดฮอร์โมนบำรุงอย่างดีแล้ว อ้ายคำป๊อกกับเมียเลยจำต้องตัดใจว่า จะเริ่มเก็บรูดเป็นอีร่วงให้หมดตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ลำไยอีร่วงมันได้งานมาก เร็วดี ไม่เสียเวลา ราคาต่ำกว่ามัดปุ๊กหน่อยยังดีกว่าปล่อยให้มันหล่นร่วงเน่าเสียต่อหน้าต่อตา


 


ลำไยเบอร์ 1,2 จำนวน 4 กระซังกับอีร่วงอีก 10 กิโลกรัมพร้อมแล้วในกระบะรถปิกอัพคันเก่ง รออีกหน่อยก่อน อย่าเพิ่งไป ให้แลงลงค่ำมืดกว่านี้ค่อยเอาไปส่งล้งจุดรับซื้อที่บ้านแม่อาว เมื่อวานตะวาส่งเร็วกว่าใครอื่น คนงานประจำล้งเลยเปิดหน้ากระซังตรวจดูขนาดหน่วยผลลำไยเสียละเอียดยิบ หาเรื่องกดเกรดกดราคาต่ำลง


 


สู้ไปมันตอนค่ำ ๆ คนรอขายมีมาก คนงานตรวจเกรดต้องเร่งทำงานให้ทันเวลามัน ย่อมมีพลั้งเผลอให้ลำไยรอดหูรอดตาไม่น้อยทีเดียว หากวันนี้ยังเป็นอย่างเก่า พรุ่งนี้คงต้องขายให้ล้งใหม่ เปลี่ยนไปเรื่อยเหมือนคนบ้าไล่จับเงาตัวเองในสวนลำไยที่แดดส่องลงมารำไร มันจะได้อะไรขึ้นมานอกเสียจากความเหนื่อยอ่อน   หากอะไรต่อมิอะไรมันดีกว่านี้แล้วอ้ายคำป๊อกคงไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก          อ้ายคำป๊อกรู้สึกขุ่นเคืองอึดอัดในอกใจบ่รู้หาย


 


5


 


เมื่อเริ่มต้นคิดเรื่องใดขึ้นมาแล้ว อีกหลากเรื่องราวประดังเข้ามาให้ครุ่นคิด ขณะกอบเก็บใบลำไยไปทิ้งตามโคนต้น คิดเอาเถอะลำไยดีงามปานใดไปถึงที่มันเหมือนแบกผีเข้าป่าช้าต้องเผาทิ้งอย่างเดียว บ่มีทางอื่นใดให้เลือก บ่ขายมันเน่าคากระซัง ใครรับผิดชอบกันเล่า เกรดบ่ได้ขนาดบ้างล่ะ สีบ่งาม ผิวบ่สวย ใส่กระซังบ่พอดี สารพัดข้ออ้าง ราคารับซื้อตามป้ายประกาศเปลี่ยนแปลงตามใจเจ้าของเงินทุน  คนสวนมีแต่มองตาปริบๆ


 


ยังไม่นับรวมว่าต้องใส่ลำไยมัดปุ๊กลงในกระซังให้หนักถึง 23 กิโลกรัมรวมน้ำหนักกระซังด้วย พอถึงที่ล้งหักออก 3 กิโลเหลือ 20 ทั้งที่กระซังเปล่าหนักเพียง 2 กิโลครึ่งเท่านั้น แทนที่จะหักเพียงครึ่งกิโลก็พอ เท่ากับว่าล้งได้ลำไยจากชาวสวนไปแบบมือเปล่ากระซังละครึ่งกิโล คิดดูว่าในแต่ละวันล้งรับซื้อกี่ร้อยกี่พันกระซัง ล้งที่ไหน ๆ ก็อย่างเดียวกัน


 


ข้างฝ่ายรัฐบาลซ้ำมาประกาศนโยบายบ่จำนำลำไย บ่แทรกแซงราคา บ่ประกันราคา ให้กลไกตลาดทำงานแทน มันช่างแย่กว่าปีก่อนเป็นแต๊เป็นว่า ปีที่แล้วโกงกินเงินช่วยเหลือราคาลำไยแหลกรานชาวสวนยังว่าได้เงินพอติดไม้ติดมือกับเขาบ้าง เลวร้ายที่สุดราคายังอยู่ที่กิโลสิบกว่าบาท มาปีนี้ราคาบ่ถึงสิบบาทเสียด้วยซ้ำ ยังมีหน้าบ่ช่วยชาวสวนอีก


 


แล้วหมู่เฮาคนสวนล่ะ วันวันก้มหน้าก้มตาอยู่แต่ในสวนลำไย บ่ได้ออกไปไหน เช้ามาเข้าสวน ค่ำลงหมดแรงหัวซุกเข้าที่นอน บ่ได้ดูทีวี บ่ฮู้ความเป็นไปบ้านเมือง ต่างคนต่างมัวยุ่งอยู่กับสวนตัวเก่า ใครเจ็บไข้ได้ป่วยบ่ได้ไปเยี่ยม จะเอาอย่างใดดีหนา เฮาจะทำจะยะอย่างไรดี อ้ายคำคิดแล้วคิดเล่าคิดบ่ถึงคิดบ่ตก  เฮาจะยะจะใด เฮาจะยะจะใดดี


 


6


 


อ้ายคำป๊อกกอบใบลำไยกองสุดท้ายทิ้ง เมียกับลูกสาวคนเล็กกลับมาถึงบ้านแล้ว ลูกสาวตรงเข้าหาทีวี เมียเอาของกินเก็บในตู้กับข้าว ตะวันตกดินลับสวนลับฟ้ามืดค่ำมองบ่เห็นลายมือตัวเอง ได้เวลาดีแล้วอ้ายคำป๊อกขึ้นรถประจำที่นั่งคนขับ สตาร์ทรถ เปิดไฟหน้า แสงไฟสาดส่องพุ่งตรงเข้าหาแนวต้นลำไยที่ยืนต้นสงบนิ่งในความมืด อ้ายคำป๊อกตะโกนบอกเมียว่าจะเอาลำไยไปส่งเน้อ ใส่เกียร์ถอยค่อยขยับรถออกสู่ถนนใหญ่หน้าบ้าน แสงไฟหน้ารถละลาจากสวนลำไย  เมื่อตั้งหลักตั้งลำรถเข้าที่เข้าทางอ้ายคำป๊อกเหยียบคลัทช์เข้าเกียร์ เหยียบตีนค้างไว้ หันไปดูในบ้านแวบหนึ่ง


 


ลูกสาวคนเล็กนั่งบนตักแม่ดูทีวีด้วยกันในห้องโถงซึ่งตอนนี้มันเป็นเพียงจุดเดียวที่มีแสงสว่างเรืองอยู่ท่ามกลางยามมืดค่ำ ฟากฟ้าคืนเดือนดับไร้ดวงดาว เมฆฝนทาทาบ สวนลำไยตระหง่านง้ำ กดทับตัวบ้านให้ดูเล็กกระจ้อย ลูกเมียเหมือนดูคนหลงทางในดงหนาป่ากว้าง มีเสือร้ายดักหน้าแยกเขี้ยวรอตะปบกิน สองคนเบิกตาค้าง บ่ไหวติง


 


มอเตอร์ไซค์แผดเสียงสวนทางมา อ้ายคำหันหน้าคืน มือเกาะกุมพวงมาลัยแน่น เพ่งมองไปเบื้องหน้า ปล่อยตีนซ้ายจากแป้นคลัทช์ ถ่ายน้ำหนักไปที่เท้าขวากดลงบนคันเร่ง รถบรรทุกลำไยค่อยเคลื่อนจากบ้าน ลูกเมีย และสวนลำไย


 


รถแล่นมาถึงสามแยกที่ตัดกับถนนหลวง อ้ายคำป๊อกชะลอรถ เปิดไฟเลี้ยวขวา รอข้ามไปหาถนนหลวง ล้งรับซื้อลำไยอยู่บ่ไกลตา เห็นไฟพราวสว่างไสวอยู่นั่น ที่สามแยกมีป้ายไม้มะค่าขนาดใหญ่ปักตรึง มันถูกแกะสลักเป็นตัวหนังสือสละสลวย เป็นคำอวยพรแด่ทุกผู้คนผ่านทาง


 


"ขอให้โชคดี "