ธรรมศาสตร์อุจาดทัศน์สถาน
คอลัมน์/ชุมชน
1
มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในรอบหลายปีบริเวณพื้นที่สนามฟุตบอล และรอบ ๆ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์
ในสนามฟุตบอลมีการปูหญ้าใหม่เขียวขจีน่ามอง มีการรื้อ "ซุ้ม" ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบที่อยู่รอบสนามฟุตบอลออกไปแล้วสร้างซุ้มที่นั่งใหม่เป็นรูปโดมสวยงามขึ้นมาแทนตามจุดต่าง ๆ รอบสนาม (แต่อาจไม่มีใครไปนั่งเพราะนั่งได้ไม่กี่คน มันไม่ได้เป็นลานกว้างที่คนที่ไม่รู้จักกันสามารถนั่งโต๊ะใกล้กันได้เหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นจะแอบฟังคนที่โต๊ะข้าง ๆ พูด จะนั่งเหล่คนที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ ก็ไม่ได้) ทั้งยังมีการยกต้นไม้ใหญ่ ๆ มาปลูกเป็นแถวเป็นแนวดูแล้วสบายตา
โดยภาพรวมแล้ว การบูรณะปรับปรุงพื้นที่ของธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ในครั้งนี้ช่วยให้พื้นที่ดูดีขึ้นพอสมควร
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นภาพ "อุจาด" ที่เกิดขึ้นหลังการบูรณะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของธรรมศาสตร์ก็คือ "ลานจอดรถ" ที่อยู่หน้าตึกโดม
ผมไม่รู้ว่ามีรถของใครบ้างไปจอดอยู่ตรงนั้น อาจจะเป็นรถของอภิสิทธิ์ชน แต่รถใครก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่เต็มนั้นช่างเป็นภาพที่น่าเกลียดอย่างมาก และตัดกันอย่างรุนแรงกับตึกโดมสีเหลืองเก่าแก่และเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
ลานจอดรถมีขนาดกว้างขวางพอสมควรเพราะได้เฉือนเอาซุ้มที่นั่งของ "เด็กช้าง" รวมทั้งพื้นที่ที่เคยเป็นสนามหญ้า ที่ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนเย็น ๆ จะมีนักศึกษาใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นสนามฟุตบอล แต่ตอนนี้มันหายไปแล้วโดยสิ้นเชิงและกลายเป็นลานจอดรถขึ้นมาแทนที่
ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะทำให้มีที่จอดรถมากพอกับจำนวนรถที่เข้าออกในธรรมศาสตร์หรือจำนวนรถของคนในธรรมศาสตร์ ดังนั้นแทนที่จะสร้างลานจอดรถเพิ่ม น่าจะหาหนทางอื่นที่เข้าท่ามากกว่า เช่น ส่งเสริมให้อาจารย์นั่งรถเมล์ หรือรถแท็กซี่มาสอน หรือให้เงินค่าเดินทางแก่อาจารย์มากขึ้น ฯลฯ
หรือถ้าอยากจะที่จอดรถเพิ่มขึ้นมาอีกจริง ๆ ผมก็อยากจะเสนอความคิดเห็นควรจะเปลี่ยน "ลานปรีดี" เป็นลานจอดรถเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป หรือไม่ก็สร้างตึกให้รถจอดแบบที่จุฬาฯ เคยทำก็ได้
ถ้าว่ากันจริง ๆ แล้วจำนวนคนทั้งหมดในธรรมศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา นักการภารโรง เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ตลอดจนคณาจารย์ จะมีซักกี่คนที่มีรถ เมื่อเทียบอัตราส่วนกันก็น่าจะน้อยมาก การให้ความสำคัญกับที่จอดรถเพื่อคนจำนวนไม่มาก จึงน่าจะต้องมีการตั้งคำถามดัง ๆ กับวิธีคิดของผู้มีอำนาจ
สำหรับผม ลานจอดรถหน้าตึกโดมที่มีรถจอดอยู่เต็มคือภาพอุจาดบาดตาที่เกิดขึ้นหลังการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
2
ถ้าว่าไปแล้ว การจัดการพื้นที่ในธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์หลายจุดมีความอัปลักษณ์ อีเหละเขละ ขละ ไร้รสนิยม กระทั่งไร้ประโยชน์
เป็นต้นว่า ที่หน้าคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งมี "กำแพงพระนคร" งอกเงยออกมาจากพื้นหญ้าสีเขียว และ "กำแพงพระนคร" ยังยื่นล้ำเข้าไปอย่างน่าเกลียดและกีดขวางทางเดินใต้อาคารของตึกอเนกประสงค์ 2 อันเป็นส่วนของโรงอาหารที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่
ไม่จำเป็นต้องเรียนมาทางด้านศิลปะก็พอมองออกว่าฝีมือในการสร้าง "กำแพงเก่า" ขึ้นมา "ใหม่" นั้นห่วยอย่างยิ่ง ผมอดขำไม่ได้ที่ "ช่าง" พยายามทำให้เห็นร่องรอยความเก่าด้วยการทำให้เกิดรอยกะเทาะออกของผนังที่ฉาบด้วยปูนจนเห็นก้อนอิฐสีแดงที่อยู่ข้างในโผล่ออกมา เพราะดูยังไงมันก็ไม่เก่า ดูยังไงมันก็ผิดที่ผิดทาง ผิดบริบทอย่างน่าอาย และคนที่เดินผ่านไปมาไม่มีใครสนใจกำแพงที่ว่านี้แม้แต่น้อย นอกจากนี้ต้องเดินเลี่ยงเพราะกลัวจะเดินชน
พื้นที่หน้าคณะรัฐศาสตร์ซึ่งก่อนหน้านี่เคยมีนักศึกษา "ตั้งโกลด์ แบ่งทีม เตะบอลพลาสติก" จึงเสียเปล่าไปโดยหาประโยชน์อันใดมิได้เลย นอกจากช่วยสนองตอบความต้องการทางไสยศาสตร์ของบางคน
อีกจุดหนึ่งที่ไม่น่ามองก็คือบริเวณ "สนามมวย" ซึ่งอยู่ใกล้ตึกกิจกรรม เข้าใจว่าธรรมศาสตร์มีเนื้อที่แคบ การจัดสรรปันส่วนเนื้อที่ให้กับกิจกรรมต่าง ๆ จึงต้องแบ่ง ๆ กันไป แต่ สนามมวยซึ่งมีคนไป "ซ้อมมวยโชว์อวดความเป็นชาย" ข้างทางที่นักศึกษาใช้สัญจรไปมาระหว่างตึกคณะนิติศาสตร์กับตึกอื่น ๆ นั้นขวางหู ขวางตาอย่างยิ่ง
"ลานปรีดี" และ "หน้าหอสมุดกลาง" ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่พื้นที่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า
ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบลานปรีดี แต่มันดูแล้วไร้ระเบียบสิ้นดี ทุกอย่างเอียงตะแคงไปหมด รูปปั้นของท่านปรีดี นั่งเอียง ๆ หันข้างให้ตึกโดม (หันหลังให้วัดพระแก้ว) อัฒจันทร์ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็เอียง ส่วนต้นไม้ก็งอกงามอยู่ระเกะระกะ
เมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ค่อนข้างมากของ "ลานปรีดี" การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ถือว่าเกิดขึ้นน้อย การจัดพื้นที่ก็ไร้รสนิยม แทบไม่ค่อยมีนักศึกษาธรรมศาสตร์ไปนั่งแถวลานปรีดีเพราะมันไม่น่านั่ง
ที่หน้า "หอสมุดกลาง" สวนหย่อมอันสวยงามสามารถชดเชยกับการไม่มีประโยชน์เชิงใช้สอยของพื้นที่ได้ หรืออย่างน้อยก็มีประโยชน์ตรงที่นักศึกษานิยมสวมชุดครุยไปถ่ายรูป แต่น่าเสียดายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูญเปล่าไปโดยไม่เกิดมรรคผลอะไรทั้งสิ้น เพราะซุ้มดอกเฟื่องฟ้าหลากสีที่สูงท่วมหัวบดบังทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาไปเสียหมด
เทียบไม่ได้เลยกับตอนที่ยังมีต้นสนสูงที่ปลูกเป็นแถวสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยก่อน
3
กลับมาที่เรื่องลานจอดรถ อันที่จริง อีกด้านหนึ่งของสนามฟุตบอล คนที่ยังจำได้ ลานจอดรถใกล้กับหอประชุมใหญ่ ก็ "ได้มา" จากการ "กลับกลอกหลอกลวง" เปลี่ยนสนามบาสเก็ตบอลเป็นลานจอดรถโดยไม่มีความรู้สึกผิดหรือละอายแก่ใจแม้แต่น้อยของผู้มีอำนาจ
ดังนั้น ในตอนนี้ ทั้งสองด้านของสนามฟุตบอลจึงถูกปิดด้วยลานจอดรถ ลานจอดรถของอภิสิทธิ์ชนคนจำนวนน้อยในธรรมศาสตร์ คนจำนวนน้อยที่เสียงดังเกินตัว
เป็นเรื่องที่น่าสนใจดีเหมือนกันที่ในด้านหนึ่งพวกเสรีนิยม ซึ่งเทิดทูนระบอบประชาธิปไตยกลับทำตัวเป็นเหมือนพวกศักดินาที่มีสิทธิ์มีเสียงมีที่มีทางเหนือคนอื่น น่าสนใจดีเหมือนกันที่พวกเสรีนิยมกลับชมชอบความไม่เท่าเทียมและการมีลำดับชั้น
"ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง พื้นที่มีน้อยก็ช่าง ขอกูมีที่จอดรถสะดวกสบายไว้ก่อนเป็นใช้ได้"
เป็นที่รู้กันดีว่าธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์มีเนื้อที่แคบ ถนนหนทางต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยจึงอาจมีขนาดไม่กว้างมากนัก แต่การมีเนื้อที่แคบ ถนนไม่กว้าง ไม่น่าจะเกี่ยวกับกับวิธีคิดที่ให้ความสำคัญกับคนใช้รถมากกว่าคนเดินเท้า ถนนในธรรมศาสตร์ออกแบบไว้สำหรับให้รถวิ่งไม่ใช่ให้คนเดินเท้า ถนนที่ใกล้ลานปรีดีเป็นตัวอย่างที่ดีของการไม่ให้ความสำคัญกับคนเดินเท้า อันน่าจะสะท้อนวิธีคิดของพวกกะฎุมพีใหม่
4
ค่าที่ชอบพูดกันเหลือเกินว่า "ธรรมศาสตร์เต็มไปด้วยเสรีภาพทุกตารางนิ้ว"
เพื่อไม่ให้คำว่า "ธรรมศาสตร์เต็มไปด้วยเสรีภาพทุกตารางนิ้ว" เป็นเพียงลมปากที่ไร้ความหมาย ผมจึงคิดว่าทัศนียภาพที่อุจาดบาดตา อย่างเช่น ลานจอดรถหน้าตึกโดมที่ถูกเนรมิตขึ้นมาราวกับใช้ไสยศาสตร์ จำต้องได้รับการตอกย้ำ ตอกย้ำเพื่อแสดงถึงการมีเสรีภาพ เสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ วิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปสู่การทบทวน ทบทวนเพื่อให้ความอุจาดปลาสนาการไปจากธรรมศาสตร์ ดินแดนซึ่งมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว