Skip to main content

คอรัปชั่นที่โรมาเนีย

 


ผมนำท่านสู่ประเทศตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวถึงประเทศที่เคยให้เสรีในการเปิดคาสิโน แล้วทำให้คนในประเทศฆ่าตัวตาย  ก่อให้เกิดอาชญากรรม  และทำให้เกิดปัญหาสังคมขึ้นมาเยอะจนทำให้ต้องปิดคาสิโนไป


 


สัปดาห์นี้ นำท่านมายังประเทศโรมาเนีย  ซึ่งปัจจุบันยังมีบ่อนคาสิโนในหลายเมือง เช่นที่เมืองหลวงบูคาเรส และเมืองตากอากาศมามาย่า 


 


บ่อนคาสิโนในโรมาเนียมีทั้งแบบตู้ แบบโต๊ะ หรือแบบเกมออนไลน์  มีทั้งแบบครบวงจร หลายรูปแบบ และแบบย่อ  แต่ต้องเรียนว่าบ่อนที่นี่ไม่เหมือนที่ลาสเวกัส  ที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ คือสถานบันเทิงครบวงจร


 


คือ มีตั้งแต่โชว์บนเวที การละเล่นดนตรี บันเทิง มวย มายากล ร้านค้า และสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งผับ บาร์ ไนท์คลับทุกรูปแบบ  แบบที่โรมาเนีย  เขาเป็นประเทศที่เพิ่งผ่านการปฏิวัติโดยประชาชน ในปี ค.ศ. ๑๙๘๙  ก็เลยค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา  เนื่องจากประเทศนี้ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ


 


ผมเขียนเล่าเช่นนี้ก็เพราะประเทศนี้เคยมีผู้นำประเทศ ที่นำประเทศเข้าสู่ภาวะล้มละลายเนื่องจากใช้จ่ายเงินของประเทศอย่างฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดการคอรัปชั่น โดยพรรคพวก ญาติพี่น้อง จนกระทั่งประชาชนทั้งประเทศลุกฮือกันขับไล่  จนกระทั่งโดนประหารชีวิตโดยคำสั่งศาลของประเทศโรมาเนีย ในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๘๙ นั้นเอง


 


ผู้นำประเทศที่ผมกล่าวถึงคือ เชา เช็ค คู อดีตประธานาธิบดีของโรมาเนีย  ประเทศนี้มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย เช่น ถ่านหิน น้ำมัน แร่ธาตุอื่นๆ  มีภูมิประเทศติดกับทะเลดำ ที่เหมาะสมในการเดินเรือ  แต่เพราะปัญหาคอรัปชั่นทำให้ประเทศนี้ประสบปัญหาเศรษฐกิจจนถึงปัจจุบัน


 


ในอดีต ท่านเชา เช็ค คู ได้แต่งตั้งพรรคพวกเข้าบริหารกิจการรัฐวิสาหกิจของประเทศ จนกระทั่งรัฐวิสาหกิจของประเทศกว่า  ๔๐๐ แห่งประสบภาวะล้มละลาย  ในจำนวนรัฐวิสาหกิจทั้งสิ้น ๑,๐๐๐ แห่ง  เรียกได้ว่าโกงกินกันอย่างมโหฬาร   ปัจจุบัน ก็เลยต้องประกาศหาต่างชาติเข้าเทคโอเวอร์ หรือซื้อกิจการเหล่านี้  แต่ก็มีปัญหาเพราะกิจการที่เหลือมีแต่หนี้ล้นพ้นตัวทั้งสิ้น  ยากที่ต่างชาติจะสนใจซื้อ เพราะไม่คุ้มการลงทุน


 


จากการบอกเล่า พบว่า ลูกชายของท่านเชา เช็ค คู ได้กู้เงินจากต่างประเทศเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าปรมาณู ๕ แห่ง ปรากฎว่าโรงไฟฟ้าสร้างได้เพียงแห่งเดียว เพราะเงินที่กู้มา เขานำไปเล่นคาสิโน จนไม่มีปัญญาใช้หนี้ !? 


 


อนุสรณ์ที่ท่านเชา เช็ค คู สร้างเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูก็คือ อาคารรัฐสภา ที่เขาเรียกว่า วังของประชาชน คือ people palace  ไม่มีใครรู้ว่างบประมาณในการก่อสร้างมากแค่ไหน เพราะคนของรัฐบาลนำโดยท่าน เชา เช็ค คู ใช้อย่างเมามัน


 


เป็นอาคารราชการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และใหญ่เป็นที่สองของโลก!  รองมาจาก อาคารเพนตากอนในสหรัฐอเมริกา  ปรากฎว่าท่านเชา เช็ค คูสร้างไม่เสร็จ  เพราะโดนประชาชนร่วมกันเดินขบวนขับไล่เสียก่อน  แต่ยอมรับว่า อาคารหลังนี้สร้างได้อลังการมาก ผมเองไม่เคยเห็นอาคารไหนที่ใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้มาก่อน


 


ได้ฟังมาว่า ท่านเชา เช็ค คูไปดูแบบมาจากอาคารรัฐสภาของประเทศเกาหลี ก็เลยอยากจะสร้างให้ใหญ่กว่า  ลืมคิดไปว่า ประชาชนเขาลำบาก เขายังยากจน ไม่มีแม้กระทั่งอาหาร ไม่มีงานทำ   แต่ข้าราชการระดับสูงกลับหลงระเริงกับอำนาจ กลัวว่าจะโดนปลด   ก็เลยไม่บอกความจริงกับท่านเชา เช็ค คูให้ทราบถึงความจริงว่าประชาชนเขาลำบากยากจนขนาดไหน


 


ที่สำคัญเขามีกรมโฆษณาชวนเชื่อ ปิดปาก ปิดข่าว ไม่ให้วิจารณ์รัฐบาล  รัฐบาลก็เลยไม่สามารถรู้ถึงสภาพที่แท้จริงของประชาชน และปัญหาที่ใหญ่หลวงของประเทศ  จนกระทั่งมีบาทหลวงชื่อ       โทเคส ได้วิจารณ์รัฐบาลอย่างรุนแรงว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำให้ประชาชนยากจนเนื่องจากคอรัปชั่น  เหตุการณ์มาบานปลายเนื่องจากรัฐบาลประกาศขับบาทหลวงคนนี้และครอบครัวออกนอกประเทศ    จนกระทั่งมีการประท้วง เดินขบวนอย่างกว้างขวางทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองบูคาเรส โดยที่ท่าน เชาเช็ค คูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงขนาดที่คนต้องการขับไล่เขาออกจากตำแหน่ง  จนกระทั่งเขาและภรรยาโดนจับขณะหลบหนี  และโดนประหารชีวิตทั้งคู่ในปี ค.ศ. ๑๙๘๙ นั่นเอง


 


ดูประเทศเขาแล้ว มามองในเมืองไทย  ประเทศของเรายังมีรัฐบาลที่เราสามารถวิจารณ์ได้ ตรวจสอบได้มากกว่าที่โรมาเนีย  ปัญหาคอรัปชั่นของเราน้อยกว่าที่โน่น   แต่ถ้ารัฐบาลถือว่ามีเสียงข้างมาก ปิดหูปิดตา  ไม่ให้อิสระแก่สื่อเมื่อไร ไม่รับฟังปัญหาของประชาชนเมื่อไร เผด็จการ จะกลับมา  


 


เพราะประวัติศาสตร์ทั่วโลกเขามีเอาไว้เตือนให้ทราบว่า ถ้ารัฐบาลใดไม่รับฟังคำวิจารณ์ รัฐบาลนั้นจะหลงทาง   และจะกลายเป็น ทรราชไป ในที่สุด !


 


ขอภาวนาอย่าให้ประเทศไทยต้องกลับไปอยู่ในสภาพเช่นนั้นเลย  เราเลยภาวะเช่นนั้นมานานหลายสิบปีแล้ว