Skip to main content

รถซิ่งกับพื้นที่ของวัยรุ่น

คอลัมน์/ชุมชน

 


 


เรื่องการแข่งรถซิ่งของวัยรุ่นที่เป็นกระแสตอนนี้ มีการถกเถียงโต้แย้งกันในวงกว้างเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว  


 


บ้างเสนอให้ห้ามมีการแข่งรถซิ่งโดยเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของวัยรุ่น เพื่อการประหยัดน้ำมัน ลดการตาย สร้างความเป็นระเบียบให้กับถนนหนทาง  บ้างเสนอให้มีการสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับแข่งรถโดยมีระบบการดูแลความปลอดภัย   บ้างเสนอให้จำกัดเวลาออกนอกบ้านของวัยรุ่นเพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ


 


ไม่ว่าข้อสรุปเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร  แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการอภิปรายถกเถียง แลกเปลี่ยนกันในเรื่องวัยรุ่นที่แข่งรถซิ่ง  ทุกความคิดเห็นไม่มีใครถูกใครผิด การเริ่มต้นพูดคุยกันเป็นมิติที่ดีในการจัดการปัญหา


 


การริเริ่มของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ  ที่รับฟังเสียงของวัยรุ่นนักแข่งรถ สะท้อนถึงการเปิดใจรับฟังเสียงของผู้ที่ต้องมีวิถีการดำเนินชีวิตเช่นนี้  แม้ว่าจะเป็นเสียงของเยาวชนไม่กี่คนก็ตาม   (เยาวชนไม่กี่คนเสนอแค่นี้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต  แต่นายกคนเดียวคิดนโยบายออกมาเป็นว่าเล่น ผู้คนต่างชื่นชมและยินดี)  แต่สังคมก็ต้องขยับขยายการพูดคุยต่อจากนี้ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เกี่ยวข้องในหลายๆ ส่วน ที่ไม่เพียงฟังเสียงของใครคนใดคนหนึ่ง  ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ลดความขัดแย้งและสร้างความสมานฉันท์ซึ่งกันและกัน


 


แม้ว่าภาพการแข่งบนถนนหลวงจะเป็นอันตราย  และแน่นอนว่าทำให้รถวิ่งทั่วไปไม่ปลอดภัยสำหรับการแข่งขันประลองความเร็วเพราะไม่มีสิ่งป้องกันอันตรายเหมือนสนามแข่งรถ  ตรงกันข้ามมีเสาไฟฟ้า ต้นไม้  และฟุตบาทซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้  การแข่งเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันก่อความรำคาญให้กับวัยรุ่น


 


สำหรับประเด็นเรื่องรถซิ่ง  เวลาที่พูดถึงเรื่องรถซิ่ง  คนจะมองแค่ว่าเด็กขี่รถวุ่นวาย กวนเมืองมองแต่ด้านลบ แต่การมีพื้นที่สำหรับให้เด็กทำกิจกรรมกลับมีน้อย ต่อไปเราต้องทำให้เด็กได้คิด วิเคราะห์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและร่วมรับผิดชอบกับสิ่งที่จะตามมาภายหลัง


 


ทั้งนี้การจัดพื้นที่เฉพาะให้วัยรุ่นแข่งรถซิ่งอาจต้องมองจากฐานความคิดที่ต้องการเปิดพื้นที่ทางสังคมให้กับวัยรุ่นอย่างเป็นกระบวนการ


 


แต่….ทุกวันนี้พื้นที่วัยรุ่นมีไม่พอหรืออย่างไรจึงต้องเปิดพื้นที่ให้อีก ?


 


วัยรุ่นไทยในสังคมปัจจุบันถูกจัดหมวดหมู่แบ่งประเภทระหว่างเด็กดี  เด็กไม่ดี  คนที่เป็นเด็กที่สังคมมองว่าดีจะได้รับการยกย่องชื่นชม  เช่น แข่งกีฬา ประกวดร้องเพลง เต้นแดนเซอร์ และถูกสนับสนุนให้มีพื้นที่มากขึ้นๆ  ส่วนคนที่ถูกมองว่าไม่ดี  เช่นรวมกลุ่มกันแข่งรถ เที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้ากลับถูกมองอย่างไร้ค่า  ถูกตีตราจากสังคมและบดทับพื้นที่ทางสังคมของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้


 


ดังนั้น  การรวมกลุ่มจึงสามารถแสดงตัวตนและพื้นที่ทางสังคม เนื่องจากการรวมกลุ่มมีกิจกรรมให้ทำ  ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี การเล่นเกม การเที่ยว การแต่งตัว ฟังเพลง เต้นรำ งานเลี้ยง การจัดค่าย การประกอบอาชีพ  ล้วนเป็นการแสดงตัวตนในสังคม และมีพื้นที่ของตนเอง พื้นที่ที่มีความเข้าใจ จริงใจ รักและเคารพกัน และรองรับความเป็นธรรมชาติ ความสร้างสรรค์ของวัยรุ่น


 


ทว่า  ทุกวันนี้พื้นที่ที่กลุ่มวัยรุ่นจะแสดงตัวตนออกมามีไม่มาก ไม่มีสวนสาธารณะพอเพียง ไม่มีพื้นที่เล่นดนตรี สเกตบอร์ด  ศูนย์ทำกิจกรรมต่างๆ  แต่กลับมีพื้นที่ เช่น ผับ เธค มากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่วัยรุ่นจะเข้าไปใช้บริการเพื่อแสดงตัวตนและแสวงหาสังคมของคนที่เข้าใจและ ยอมรับกัน  ล้วนแต่เป็นพื้นที่ที่สังคมไม่อยากให้วัยรุ่นเข้าไปเกี่ยวข้อง


 


รูปธรรมการเปิดพื้นที่ทางสังคมในต่างประเทศเกี่ยวกับการชกมวยบนถนนหรือสตรีทไฟเตอร์นั้น แต่เดิมถูกมองว่าไม่ดี เป็นการส่งเสริมให้คนทำร้ายกันแต่ภายหลังได้ยกระดับมาไว้บนดินดำเนินการแบบถูกต้อง มีระบบชัดเจนจนทำให้ช่วยลดปัญหาการทะเลาะวิวาทกันได้อย่างดี และช่วยสร้างพื้นที่ให้กับผู้ที่ชกด้วย


 


อนึ่ง ภายใต้การถกเถียงกันเรื่องรถซิ่งผ่านมุมมอง ประสบการณ์และความเชื่อของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่การมองจากฐานการสร้างพื้นที่ทางสังคมให้กับวัยรุ่น เป็นเรื่องที่ท้าทายกระบวนทัศน์ของสังคมไทย  เพราะการสร้างพื้นที่ทางสังคมทำให้เกิดการจัดการปัญหาแบบ "ส่งเสริม" เป็นทางเลือกใหม่ที่ให้โอกาสและยอมรับในการปรับพฤติกรรมเป็นการเริ่มต้นที่ดี


 


แม้ใครจะมองว่าการเสนอให้มีพื้นที่เฉพาะในการแข่งรถซิ่งจะเกาไม่ถูกที่คัน แต่ถ้าเริ่มเกาไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องคงจะเกาถูกที่ในเร็ววัน และยังดีปล่อยให้ปัญหาผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย