Skip to main content

เมื่อผู้ใหญ่จะกำหนดค่านิยมให้เด็กและเยาวชนพึงประสงค์

 



 


 "ไอ้ห่า มึงดูดเรียบร้อยรึยังวะ  เร็วๆ  เดี๋ยวอาจารย์มา  แม่...เอ้ย เร็วๆ กูจะดูดอีกตัว"  เสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากบริเวณรั้วโรงเรียน  "เนี่ย พวกเธอทำงานกันเสร็จรึยัง ไหนๆ มามาเราช่วยนะ เดี๋ยวก็ไม่ทันส่งครูกันพอดี พวกที่นั่งกินขนมมาช่วยกันหน่อยสิ"  จบเสียงนั้นก็มีเสียงโวยวายตามมาของคนกลุ่มใหญ่  "เอาๆ รอแป๊บนึงกำลังอร่อยอยู่พอดี"


 


อีกครู่ใหญ่ๆ  เสียงหนึ่งก็แว่วเข้ามาภายในบริเวณ  "อ้าว  พวกเธอยังไม่กลับบ้านกลับช่องกันอีกเหรอ ทำอะไรกันอยู่ล่ะเนี่ย  ขยันกันจริงๆ ไม่เหมือนไอ้พวกนั้น  วันๆ เอาแต่แอบงีบ หนีเรียนบ้างล่ะ ชอบเตะฟุตบอล แล้วยังขับรถซิ่งอีกต่างหาก  ไม่รักดีเหมือนพวกเธอ  ขยันจริงๆ นะพวกนี้"   หลังจากสิ้นเสียงนั้นไม่นาน ทุกๆ คนต่างก็ทยอยกลับบ้านของตนเอง


 


ฟ้ามืดลงเรื่อยๆ  เด็กสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้านและทบทวนบทเรียนในวันนี้  "ขยันจริงๆ นะลูก น่ารักจริงๆ เลยลูกแม่"  เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง "เดี๋ยวอ่านหนังสือเสร็จแล้วมากินข้าวกินขนมกับแม่นะลูก"  เธอคนเดิมกล่าวอย่างอ่อนโยน


 


ถัดไปในชุมชนเดียวกันไม่ไกลจากบ้านหลังดังกล่าวนัก  "นังลูกคนนี้วันๆไม่ยอมทำอะไร เอาแต่กินกับนอน ไม่เหมือนลูกบ้านนั้นเลยนะแก"  


 


"ฮัลโหล น้อง...เหรอจ๊ะ ทานข้าวรึยังเอ่ย แหม พี่คิดถึงจังเลย %-) ^@-@= + * & $ พรุ่งนี้ไปดูหนังกันนะจ๊ะ... ก็พี่อยากดูนี่นาเห็นว่าเรื่องนี้สนุกนะ"


 


"ต๊าย นังตะขบ สายเดียวตัวนี้ซื้อจากไหนน่ะ เริ่ดมากเลยนะเธอ กิ๊บเก๋มาก ไปเร็วๆเข้าเดี๋ยวเกิดรถติดจะไปไม่ทันแดกเหล้านะ ชั้นนัดเพื่อนๆไว้ตอนสามทุ่มนะแก จะเหล่หนุ่มให้มันส์เลย"


 


"คุณแม่คะเดี๋ยวพรุ่งนี้ หนูคงกลับบ้านค่ำหน่อยนะคะ ต้องทำรายงานกลุ่มกับเพื่อนๆที่โรงเรียนค่ะ"


 


"แกไม่รีบกลับบ้านเหรอ นี่จะสองทุ่มแล้วนะ ยังมาเดินเที่ยวช้อปปิ้งอยู่อีก เดี๋ยวที่บ้านก็เป็นห่วงตายหรอก ... ไม่เป็นไรหรอกแก ชั้นน่ะเรียนพิเศษพึ่งเสร็จ ขอเดินเที่ยวหน่อยพักผ่อนสมองน่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรนี่หว่า"


 


"โอ้โหแก ซื้อเสื้อผ้าไปกี่บาทเนี่ย หลายพันแล้วนะ แกจะเอาไปใส่อวดใครวะเนี่ยมากมาย มันจะรวยไปแล้วนะหล่อน รวยมากก็เอาเงินมาเลี้ยงเพื่อนบ้างดิ ... "


 


"เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูช่วยคุณยายใส่บาตรนะคะ รีบนอนนะคะ เดี๋ยวหนูดูโทรทัศน์สักครู่ก็จะขึ้นไปนอนค่ะ"


 


"พ่อครับ แม่ครับ ผมจะไปทำงานต่างจังหวัดกับชมรมนะครับ ไปประมาณสี่ห้าวัน เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝากนะครับ"  เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กและเยาวชน ในชุมชนหนึ่งดังอยู่เสมอในช่วงเวลาเช่นนี้


 


และแล้วช่วงเวลาเหล่านี้ก็วนเวียนอยู่เรื่อยมา จนบัดนี้


 



 


ห้องประชุมใหญ่ขนาดที่จะสามารถบรรจุคนได้ไม่ต่ำกว่า ๓๐ คน มีคนนั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับกิจกรรมที่เรียกว่างานประชุมอยู่ไม่เกิน ๑๕ คน ท่านเหล่านั้นคงกำลังคิดและทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อย เพราะหากดูหน้าตาที่เคร่งเครียด และจากการแต่งกายก็คงจะพอเดาฐานะกันได้ ใส่สูท ผูกเนกไท ดูดี๊ดี มีระดับกันทุกคน อ้อ ก็แน่ละซิ ท่านเหล่านั้นคือผู้แทงอันทรงเกียรติของประชาชน(ผู้แทงที่ถูกอุปโลกน์ ขึ้นมา) นี่นา (ท่านอ่านไม่ผิดหรอกครับ เขาเป็นท่านผู้แทง)


 


"นี่คุณ ผมว่าวัยรุ่นสมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยผมเลยนะ มันไม่รักนวลสงวนตัวกันเลย เฮ้อ นี่แหละถึงมีข่าวเด็กขายตัวให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ"  ผู้แทงหักโหม กล่าวกับที่ประชุม


 


"ใช่ๆ ผมเห็นด้วยเลย เนี่ยสูบบุหรี่กันเกร่อเมืองไปหมด แล้วนี่ต่อไปก็คงตายด้วยมะเร็งปอดกัน" ผู้แทงฮึกเหิม กล่าวเสริม


 


"ดั๊นว่านะฮะ พวกนี้นี่นอกจากจะชอบสูบบุหรี่ แล้วยังชอบดื่มด้วยฮ่ะ จะเรียกว่า ทั้งดูด ทั้งดื่มก็ว่าได้นะฮะ แหม พอดื่มเสร็จก็เสียตัวให้ผู้ชาย มีอะไรกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งหญิงชายเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยจะมีคนที่ห่วงใยสังคมเลยนะฮะ แบบนี้ต้องจับให้หมด เอาเข้าสถานพินิจไปฮ่ะ จะได้เรียนรู้ซะบ้าง" ผู้แทงสาวเหินหาว กล่าวบ้าง


 


"พวกคุณก็ว่ากันเกินไป เด็กดีๆมันก็มีนะคุณ ที่เค้าทำงานพัฒนากันน่ะ แต่พวกเราต้องส่งเสริมให้เยอะกว่านี้" ผู้แทงหิวโหย กล่าวยกย่องเยาวชนส่วนหนึ่ง


 


"ผมเห็นด้วยกับคุณหิวโหยนะ" ผู้แทงหูหิ้ว กล่าวบ้าง "แต่ลำพังงานของพวกเราก็เยอะจะตายอยู่แล้ว เราจะส่งเสริมกันยังไงดีล่ะ ประเทศเรามีเรื่องมากมายให้แก้ ทั้งโจรปล้นฆ่า น้ำมันแพงขนาดนี้เราจะส่งเสริมเยาวชนกันไปทำไม" ผู้แทงหูหิ้ว กล่าวเหมือนจะหาคำถามจากที่ประชุม


 


"แหมคุณ ก็คนพวกนั้นน่ะจะเติบโตขึ้นมาแทนคนรุ่นเราๆน่ะสิ เค้าจะได้มาพัฒนาประเทศเราต่อไปในอนาคต เพราะพวกเรานับวันก็ยิ่งจะแก่ตัวลงไป จริงมั้ย" ผู้แทงยกยอ กล่าวอย่างมีน้ำหนัก


 


"แล้วเราจะทำกันอย่างไรล่ะ พวกนั้นถึงจะหันมาใส่ใจประเทศของตัวเองบ้าง เห็นแต่ไปเดินห้าง ดูหนัง แล้วไหนจะฟังเพลงเสียงดังจนหูแตกกันไปแล้ว ยังไม่สนใจสุขภาพของตัวเองอีก ดื่มแต่เหล้า พวกสูบบุหรี่ก็มากขึ้นทุกวัน ทุกวัน" ผู้แทนหลายๆ คนหยักหน้าเห็นด้วยกับท่านรองสุปั๊ด ที่เสนอความคิดเห็น


 


"แหม แหม ชั้นว่าเราน่าจะกำหนดค่านิยมที่พึงประสงค์ให้เด็กและเยาวชนไปเลยนะฮะ แล้วส่งเสริมแนวคิดนี้ไปเลยฮ่ะ ว่าเด็กและเยาวชนนั้น มีดี และไม่ดี ดังนั้นต้องทำแต่ความดี และเป็นคนดีนะฮะ ถ้าทำนอกเหนือจากค่านิยมของเราก็จะกลายเป็นคนไม่ดีไป และดั๊นเชื่อว่าถ้าเราส่งเสริมค่านิยมอันนี้ เด็กและเยาวชนจะต้องหันมาทำความดีกันแน่นอน แน่นอนล่ะฮ่ะ และต้องเป็นกลุ่มส่วนใหญ่แน่ๆ ส่วนเล็กส่วนน้อย จะเลวต่อไปก็ช่างมันเถอะฮ่ะ เราก็ทำให้มันเสร็จๆ ไปซะดีมั้ยฮะ" ผู้แทงสาวเหินหาว กล่าวอย่างมั่นใจในตัวเอง


 


ที่ประชุมผู้แทงประชาชน ประชุมต่ออีกสักประเดี๋ยวหลังจากขัดเกลาเนื้อหาให้เป็นที่ต้องตาต้องใจของคนกลุ่มใหญ่แล้ว ก็ปิดการประชุม  เตรียมยื่นเรื่องเสนอเข้าสู่คณะรอมอตอ และสภาผู้แทงต่อไป เพื่อประกาศเป็นวาระสำคัญแห่งการดำเนินนโยบายด้านเด็กและเยาวชน  (ที่ผ่านการระดมความคิดอย่างสั่วๆ)


 


ทุกคน พยักหน้าหงึกหงัก เห็นด้วยกับที่ อนาคตว่าที่คุณหญิงเหินหาวกล่าวกัน และได้กำหนดเป็นนโยบายของชาติ  


 


หมายเหตุ  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ณ ประเทศอันไกลโพ้นในซอกหลืบของขุนเขา จนไม่สามารถระบุตำแหน่งบนแผนที่โลกได้


 



 


กลับมาที่ประเทศของเรา กลุ่มเด็กและเยาวชนหลากหลายกลุ่มกิจกรรม กำลังทำกิจกรรมกับเพื่อนของเขาอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ เต็มความรู้และเต็มความสามารถ น่าส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง   เนื่องจากวัยเด็กและเยาวชน เป็นวัยที่มีพลัง มุ่งมั่น สร้างสรรค์ ตั้งใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าอยากเห็นสังคมนี้ดีขึ้น อยากเห็นเพื่อนๆ มาร่วมกันพัฒนาตนเอง และสังคมที่ตนเองอาศัย และหลายคนเชื่อว่า เพื่อนบางกลุ่มก็มีพลังมากมาย หากในอนาคตเขาเหล่านั้นก้าวพลาดพลั้งผิดไป จะไม่สามารถเรียกช่วงเวลาแห่งความสุขกลับมาได้อีก จึงมีกำลังและแรงใจการทำงาน


 


 


บนความมุ่งมั่นและตั้งใจนี้ มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องทั่วไป หากแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ให้สังคมรับรู้ในวงกว้าง เท่านั้นเอง


 


จากสิ่งที่ได้พบเห็นในการทำงานของเพื่อนเยาวชนในประเทศขวานทองนี้ สิ่งหนึ่งที่เราเคารพ และยกย่องเพื่อนของเราอยู่เสมอนั่นคือ การทำกิจกรรมด้านแนวคิด การมีส่วนร่วม จิตอาสา พัฒนาสังคม โดยสามารถก้มน้อมยอมรับในความแตกต่างและหลากหลายของความถนัดในกิจกรรมแต่ละด้านของเพื่อน จำแนกตามความสนใจของเพื่อน ที่แม้จะต่างเชื้อชาติ ภาษา ภูมิประเทศ ผิว/ชาติพันธุ์ ศาสนา วัฒนธรรม ความแตกต่างไม่ได้สร้างความแตกแยกแก่เขาเหล่านั้นแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มอรรถรสแห่งมิตรภาพของเพื่อนให้แน่นแฟ้น ยิ่งขึ้นไปอีก    


 


สิ่งที่เกิดจากความแตกต่างแต่ไม่แตกแยกนั้นได้สร้างสิ่งที่เรียกว่าเครือข่ายเพื่อน ที่ทำกิจกรรมพัฒนาทั้งสังคมและตนเองขึ้น โดยพื้นฐานแห่งการพัฒนาตนเอง พัฒนาคนรอบข้าง และพัฒนาสังคม มันเป็นการยืนยันความเป็นตัวตน ความมีอยู่ของเขาได้เป็นอย่างดีพอๆ กับที่พวกเขาได้ใช้เวลาว่างเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง คนรอบข้าง และบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง แต่ก็นั่นแหละครับ มีน้อยคนนักที่จะมองเห็นพวกเขาเหล่านั้น หรือมองเห็นแต่อยู่ไกลๆ จนไม่อาจรู้ได้ว่า จุดเล็กๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่นั้นถูกเรียกว่า กลุ่มเยาวชน


 



 


ณ ปัจจุบันวันนี้  มีผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งกำลังมองเห็นปัญหาด้านการไม่รักษา ดูแลสุขภาพ การใช้เวลาว่างที่ไม่เกิดประโยชน์ของเยาวชนบางกลุ่ม (กลุ่มใหญ่)  ซึ่งการใช้เวลาไม่เกิดประโยชน์นั้น เวลาถูกนำไปใช้ในการกินเหล้า ฟังเพลง ร้องเพลง เที่ยวสถานบันเทิง หรือเงินที่หมดไปกับบุหรี่ สิ่งเสพติด และการพนัน


 


ณ ปัจจุบันนี้ เช่นเดียวกัน ที่ต้องขอเสนอแนะแนวทางแก่ผู้ใหญ่ใจดีที่พยายามจะส่งเสริม ชี้ช่อง และสนับสนุนให้เยาวชนหันมาใช้เวลาว่างให้เป็น  ก่อเกิดประโยชน์แก่ตนเองและคนรอบข้างซึ่งผมเองก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี และขอเสนอแนะไว้ ณ ที่นี้ว่า ขอความกรุณาอย่าตัดสิน ว่าอะไรดี หรือไม่ดีเลย ขอเพียงแค่คำว่าดี และ ดีมาก จะได้ไหม เพราะผมเชื่อว่าเด็ก เยาวชนทุกคนเป็นคนดี และเป็นคนดีกว่าได้ ยกเว้นว่าจะวิกลจริตไปเสียก่อน


 


หากเพียงแต่วิถีของเด็กและเยาวชน ทุกวันนี้เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งทุนนิยม และกระแสแห่งการตลาด ที่ผู้ใหญ่ต้องระมัดระวังว่าเด็กและเยาวชน จะก้าวพลาดท่าเสียทีแก่กลอุบายการขายที่ไม่สนองรับกับการคืนสิ่งดี ๆ สู่สังคม   หากเพียงแต่ท่านผู้ใหญ่ต้องส่งเสริมมากๆ โดยให้เด็กและเยาวชนรู้จักพินิจพิเคราะห์และสังเคราะห์ได้ด้วยตนเอง  ด้วยการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการมีส่วนร่วมในระดับต่างๆ อย่างกว้างขวางและแท้จริง ไม่หมกเม็ด ด้วยความจริงใจ ที่จะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้เห็นคุณค่าของการที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อที่จะสามารถพัฒนาคนอื่นรอบตัวได้อีก


 


นอกเหนือจากนั้นยังจะต้องส่งเสริมการเปิดพื้นที่ให้กับเด็ก เยาวชน อีกด้วย ไม่ใช่พื้นที่ขายของตามตลาดนัด หรือ พื้นที่มอมเมาบนห้างนะจ๊ะ แต่เป็นพื้นที่แห่งการมีส่วนร่วมของเด็ก เยาวชน พื้นที่ในการทำกิจกรรม พื้นที่ในการศึกษาหาความรู้ พื้นที่ในการออกกำลังกาย (หลายแห่งไม่ยอมให้ใช้ เพราะกลัวว่าหญ้าจะตาย อย่าให้เอ่ยเลย ว่าอยู่แถวดินแดง) พื้นที่ในการทำคุณงามความดี และที่สำคัญหากผู้ใหญ่สามารถ ยกย่องและส่งเสริมได้อย่างถ้วนทั่ว ก็จะเป็นการดีต่ออนาคตของประเทศนี้มิใช่น้อย


 


ผมหวังว่าโอกาสในการสร้างค่านิยมที่ดีๆ เหล่านี้ คงเกิดขึ้นทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่เพื่อรังสรรค์สังคมนี้ให้ดีขึ้น อย่าให้มีแต่เด็กและเยาวชนเลยครับที่เป็นที่พึงประสงค์ของผู้ใหญ่  ขอให้มีผู้ใหญ่ที่เด็กและเยาวชนพึงประสงค์ด้วยก็จะเป็นการดีไม่น้อย


 


ก็ในเมื่อทุกวันนี้ผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กๆ แล้วหรือยัง ???


 


ใครก็ได้ช่วยตอบที...