Skip to main content

คณะแสงดาวศรัทธามั่น:ตอน คนพันธุ์พิเศษ

คอลัมน์/ชุมชน

 


 


 


ยามเย็น ฟ้ากำลังจะมืด…คณะแสงดาวนั่งอยู่มุมหนึ่งในที่โปร่งลมเย็นสบาย หัวหน้าคณะถือจอกไม้ไผ่ สมาชิกสาวทั้งสองกำลังอร่อยกับผัดพริกแกงปลาหมึกกับผัดสะตอ หนุ่มแว่นกลมนั่งนิ่ง ๆ เหมือนจมอยู่กับความฝัน ส่วนหนุ่มน้อยร่างใหญ่ยืนนิ่งเหมือนเสาหิน


 


ทุกคนมองไปที่จุดเดียว มุ่งตรงไปที่ประตูห้องใหญ่ที่เปิดอยู่


           


----------------


 


มีเสียงบรรยายว่า หลังจากคลื่นสึนามิผ่านไปแค่นับเดือนเท่านั้น ผ่านไปแล้ววันคืนที่ผู้คนร่วมกันเศร้าโศก บัดนี้…


 


มีการแย่งชิงผืนแผ่นดินเกิดขึ้น…ผืนดินที่ผู้คนจำนวนมากซบหน้าอยู่ตรงนั้น ก่อนที่จะถูกแบกออกไปคนแล้วคนเล่า


 


ผืนดินนี้มีเจ้าของ ถูกจับจอง แต่ผู้เป็นเจ้าของทำอะไรไม่ได้  เพราะคนอยู่เก่าไม่ออกไป ครั้งนี้ต้องขอบคุณคลื่นสึนามิ ที่เปิดประตูสู่ให้เรา


           


หญิงหนึ่งพูดว่า  ได้โปรด พวกฉันอยู่มานานแล้ว ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เราทำพิธีไหว้ตายายของเราทุกปี พรุ่งนี้ก็เดือน 4 แล้ว หลายบ้านเตรียมข้าวของ ทั้งแป้งเครื่องหอม เต่า ไก่ และเหล้า พ่อหมอก็เตรียมพร้อม ไหว้กันที่ลานรอยเสาบ้านของเรานั่นแหละ 


 


 "เข้าไปไม่ได้  บอกว่าเข้าไปไม่ได้  พูดไม่รู้เรื่องหรือไง  นายข้ามีเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยรัฐบาลมานานเกือบสิบปี สิทธิ์ขาดอยู่ตรงนี้ ไม่นานเจ้านายข้าจะมาไถกลบ ลบเรื่องราวความเศร้า จะสร้างสิ่งยิ่งใหญ่"


 


"นายถือเอกสารสิทธิ์ของรัฐบาล แต่พวกเราอยู่บนผืนดินของพระเจ้า… ที่นี่คือแผ่นดินของพระเจ้า"


 


หญิงหนึ่งร้องไห้เข้ามา ขอฉันเข้าไปหาลูกน้อยด้วยเถิด  ฉันฝันว่า ลูกฉันอยู่ตรงนั้น ลูกฉันมาเรียกหา


 "ไปไม่ได้ บอกแล้วว่า ที่มีเจ้าของ เป็นผู้มีสิทธิ์ตามกฏหมาย"


 "ฉันแค่จะเข้าไปหาลูก ถ้าฉันได้ลูกของฉันแล้ว ฉันจะไม่เอาอะไรเลย"


 


************


 


มีแสงประหลาดวูบวาบอยู่ตามที่ต่าง ๆ ก่อนจะรวมตัวตกลงมาบนพื้น เป็นรูปเป็นร่างแต่ดูบอกไม่ออกว่าเป็นอะไร คล้ายครึ่งคนครึ่งก่อนหิน หรือจะเรียกว่าก้อนหินกางแขนก็ได้


 


ผู้คนกรูเข้ามา…


เราเป็นกลุ่มคนพลัดถิ่น


มีเสียงบรรยายว่า  ใช่แล้ว พวกเขา เขาเป็นคนไทยแต่ไม่มีสันชาติ อยู่ในเขตแดนไทยพม่าที่จังหวัดระนอง พวกเขาตกสำรวจแต่ไม่มีใครต้องการไม่มีค่าอะไรเลย   แต่ถ้าเป็นที่ดินตกสำรวจใครก็อยากได้และรีบไปเอามาเป็นของตัวเอง จากนั้นก็พยายามทำให้ถูกต้อง


 


เราเป็นกลุ่มบ้านเช่า ไม่มีในสาระบบให้ความช่วยเหลือเพราะไม่มีหลักฐานว่ามีบ้านอยู่ที่นี่


เรา…อยู่ในที่ดินของป่าไม้ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขาประกาศทับที่เรา


เราถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดินคนอื่น ที่ดินเอกชน พวกเขาปิดล้อมเราเข้าไปไม่ได้


          


*************


 


หญิงหนึ่งกล้าหาญ เดินตรงเข้ามา   ฉันขอตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของพวกเขา ฉันรู้มาว่าอาจไม่ถูกต้อง ในการครอบครอง


 


ฉันอยู่มานาน ตายายของฉันอยู่มาก่อนเป็น 100 ปี เราไม่เคยขออะไร จับปลาในทะเล ปลูกผักบนดิน ฉันจำได้ มีคนบอกว่า พวกหาแร่ในทะเลหาจนแร่หมด กลับมาหาบนบกแถวบ้านเรา อยากหา อยากขุดก็เอาไปเถอะ เพราะเราไม่อยากได้แร่ มันกินไม่ได้ เราหากินในทะเล ปลาปู กุ้งหอย แล้วทำไมอยู่มาวันหนึ่งบ้านเรากลายเป็นของเขา


 


 "ฉันรู้ว่าเขามีจริง แต่ไม่ถูกต้อง ได้มาอย่างไม่ชอบธรรม มีคนบอกฉันว่า เอกสารสิทธิ์ออกก่อนที่จะหมดสัมปทานแร่ เป็นไปได้อย่างไร"


 


มีเสียงตอบรับพร้อม ๆ กันว่า ใช่…เป็นไปได้อย่างไร


 


"ซึ่งความจริงแล้วเมื่อหมดสัมปทาน เขาต้องคืนให้รัฐและต้องดูแลจัดการชายฝั่งให้ดีด้วย แต่นอกจากไม่คืนแล้ว ยังขอเอกสารสิทธิ์ได้อีก"


 


มีเสียงตอบรับพร้อม ๆ กันว่า ใช่..อำนาจรัฐเผด็จการกับนายทุน


 


หนุ่มหนึ่งคลานเข้ามา ข้าแต่ท่าน เราผู้เศร้าโศก มาขอความเป็นธรรม


 "เจ้าพวกชาวเล เอาไว้ก่อน" เสียงตอบกลับมา


 "ข้าเป็นไทยใหม่แล้ว เขาเรียกพวกข้าว่า ไทยใหม่"


 "นั่นแหละชาวเลเอาไว้ก่อน  พวกเจ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดคลื่นยักษ์ เจ้าหนีขึ้นภูเขาทันเป็นส่วนใหญ่  ทำไมเจ้าไม่บอกคนอื่นให้รู้ตัวด้วย เจ้าวิ่งไปแต่พวกเดียว"


 


"ขอโทษเถิด พวกข้าได้ชื่อว่าโง่  ใครเล่าจะเชื่อ  ข้าก็แค่สงสัยว่ามันมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในทะเล"


 


หญิงชราก้มลงกราบปากคอสั่น ไม่เอาสิทธิ์อะไร ขอให้ได้อยู่ พูดไปใครเชื่อบ้าง หน้าหาดเป็นของนายทุนมีเอกสารสิทธิ์กว่า 100 ไร่ พวกเราอยู่กันมา 200 ปี ไม่มีอะไร


 


มีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้น ใครบอกพวกเจ้า  ถ้าเจ้าหวังพึ่งพวกพันธุ์อื่น ก็อย่าหวังพึ่งข้า พวกมันเดินทางมาถึงแล้ว 


 


**********


 


"เขาหมายถึงพวกเราหรือเปล่า" สาวผมหยิกหนึ่งในคณะแสงดาวถามขึ้น


 


"ไม่หรอกเขาหมายถึง เอ็นจีโอ " เสียงตอบเบา ๆ


"เป็นเรื่องจริงหรือ ไม่น่าเชื่อ"


"นี่มันเรื่องจริงนะครับ…ที่เราเห็นเป็นเรื่องจริง…เราจะทำอย่างไรกัน" หนุ่มร่างใหญ่ตื่นตระหนกเหมือนไม่เคยพบอะไรแบบนี้มาก่อน


 


"คนพันธุ์พิเศษ"



"เราแบ่งกลุ่มกันดีกว่า ใครสนใจกลุ่มไหนไปอยู่กับกลุ่มนั้น"  หนุ่มที่ทำท่าครุ่นคิดและจริงจังพูดขึ้น เขาหงุดหงิดที่เพื่อนร่วมคณะทำท่าเชื่องช้า สองสาวนั้นก็มีความสุขกับการกินอาหารทะเล


 


****************


 


 มีเสียงประกาศว่า  เรามีคณะหนึ่งเดินทางมาจากเมืองเหนือ มาร่วมรับรู้ปัญหาของพวกเรา พวกเขาอยู่ด้านหลัง มากัน 6 คน เป็นนักเขียน คณะแสงดาวศรัทธามั่น อ้ายแสงดาวนำทีมมา เชิญอ้ายแสงดาว


 


แสงดาวเดินไปข้างหน้า


 


พี่น้องครับ …อ้ายว่า การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมจะไม่โดดเดี่ยว อ้ายจะอ่านบทกวีให้ฟังดีกว่า


 


 


๏ คม เข้ม ขลัง พลังแกร่ง                           ชีวี


คือเพื่อนพร่างรุจี                                                   เด่นด้าว


พิสุทธิ์ใส ณ ปฐพี                                                  พรั่งพร้อม  หทัยเฮย


คือคนงามแกร่งอะคร้าว                                          เปี่ยมล้นลาวัลย์ ฯ


เป็นรากเหง้าหยั่งแล้ว                                 ชีวา


รู้ รักโลก รักลีลา                                                   หยั่งรู้


เย็นเกื้อดั่งสายธารา                                               เอื้อหล้า  งามเอย


คือคนคือเพื่อนผู้                                                   กอบกู้เกียรติคน ฯ



 


 


เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับที่อ้ายแสงดาวกล่าวคำว่า ไอเลิฟยู


 


           


 


 


 


                    


 


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------