Skip to main content

ช่วยด้วย

คอลัมน์/ชุมชน

เนื่องจากผู้เขียนเป็นชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนจริง ๆ จึงรับรู้ทุกเรื่องที่เกิดกับชุมชน แต่ก่อนแต่ไร ชาวประมงพื้นบ้านในละแวกดอนหอยหลอด ไม่ค่อยจะยุ่งกับใคร พวกเขาทำมาหากินกันอย่างสงบ และเมื่อเงินที่มาจากฟากฟ้า ( กองทุนหมู่บ้าน ) ลงมาให้เราเป็นหนี้กันชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไปกลับกลายเป็นคนที่มีหนี้สิน ( มีเครดิต )


กองทุนก็เป็นหนี้ ธกส . ก็กู้ เงินนอกระบบก็กู้ สหกรณ์ก็กู้ กู้จนไม่รู้ว่าจะหมุนเงินมาใช้หนี้ยังไง


วัน ๆ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องทำมาหากิน คิดเพียงเรื่องหาเงินมาใช้หนี้ก็หมดจิตหมดใจจะทำมาหากินกันแล้ว และ ทั้ง ๆ ที่หนี้เดิมยังไม่ทันหาย และยังหาทางกลับไปเป็นคนไม่มีหนี้ไม่ถูก วันนี้มันกำลังจะมาหาเราอีกแล้ว


โดยมีคนมาปลุกปั่นให้ชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้ปลดหนี้ ธกส . ผ่านกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร มันเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ลอยน้ำมา และชาวบ้านพร้อมใจกันที่จะกระโดดเกาะเพราะทุกคนเข้าตาจนกันหมดแล้ว ฟางเส้นนี้จึงเป็นความหวังสุดท้ายที่จะสามารถพาพวกเขาหลุดพ้นภาระหนี้สินไปได้ พอมีคนมาบอกว่า จะมีเงินกู้อีกก้อนหนึ่ง และเงินก้อนนี้จะเป็นเงินที่มาปลดหนี้ให้กับผู้ที่มีหนี้อยู่กับ ธกส . โดยชาวบ้านจะเสียดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 บาทต่อปี ชาวบ้านที่เป็นหนี้และกำลังหาทางออกไม่ได้ต่างพากันสนใจด้วยความหวังที่จะหลุดพ้นหนี้สิน


พอมีคนมานัดแนะว่าต้องไปประท้วงเรียกร้องจากรัฐบาลโดยการเชิญชวนผ่านหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ( หลายครั้ง ) โดยมีข้อกำหนดว่าทุกคนที่ไปจะต้องโพกผ้าเหลือง และผู้ที่ไปจะได้รับการช่วยเหลือก่อนคนที่ไม่ได้ไป โดยมีแกนนำมานัดแนะกันเป็นอาทิตย์ ๆ รวมทั้งนัดรถบัสมารอรับแต่ละหมู่บ้าน ( บริการเต็มที่ ) และกำหนดวันออกเดินทางในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2547 เวลา 7.00 น บางหมู่บ้านยกกันไปทั้งหมู่บ้าน จนเกือบจะเป็นหมู่บ้านร้าง ตอนแรกก็รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คนบ้านเราเขาพัฒนาแล้ว รู้จักไปประท้วงหน้าทำเนียบกลับเขาด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีปรากฎการณ์อย่างนี้เกิดเลยในอดีต


และยิ่งตกใจหนักก็คือ รถที่พาชาวบ้านไปไม่ได้ไปประท้วงที่หน้าทำเนียบอย่างที่ถูกชักชวน แต่กลับพาไปที่เมืองทองธานี เพื่อให้ชาวบ้านไปร่วมงาน " เหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว " งานที่รัฐบาลจัดขึ้น พลังฮึกเหิมที่ชาวบ้านตั้งใจจะไปประท้วงรัฐบาลมลายสิ้น เมื่อได้ฟังคณะรัฐมนตรีบรรยายถึงสรรพคุณอันดีงาม ที่รัฐบาลได้ทำมาแถมยังมีของเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือกลับบ้านมาอีก พร้อมทั้งคำสัญญาว่าจะได้รับความช่วยเหลือทุกอย่างหากชาวบ้านเดือดร้อน


 นี่มันอะไรกันนี่


ชาวบ้านถูกหลอกให้ไปฟังผลงานของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย แล้วใครละเป็นตัวการมาหลอก ( คำสั่งใคร ) แล้วรัฐธรรมนูญที่เขียนข้อบังคับเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ วันนี้อำนาจมันช่างยิ่งใหญ่และแพร่กระจายมาถึงบ้านฉันแล้ว


 วันนี้คนบ้านฉันถูกหลอก ใครจะช่วยได้ กกต . ไปไหน ทำไมไม่มาช่วยชาวบ้านบ้าง เพราะก่อนไปชาวบ้านเริ่มไม่ชอบพรรคไทยรักไทย แต่พอไปงานกลับมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องเลือกพรรคนี้เพราะแสนดีทุกอย่าง


ผู้เขียนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะกลุ่มราชการ นักธุรกิจ และองค์กรปรกครองส่วนท้องถิ่น ล้วนภักดีกับรัฐบาล ประชาธิปไตยบ้านเรากำลังชำรุดหนัก ผู้เขียนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรคงได้แต่ร้องตะโกนว่า


 " ช่วยด้วยๆๆๆๆๆๆๆ …….."