Skip to main content

บูรณาการเรื่องชั่วร้ายของกระทรวงวัยรุ่น

 


 


กระทรวงศึกษาธิการมีแผนงานเกี่ยวกับปัญหาวัยรุ่นในปัจจุบันออกมาเช่นกัน   ตามข่าวเห็นมีการตั้งคณะทำงาน  หาข้อมูล  สัมภาษณ์เชิงลึก  จัดลำดับความสำคัญ  วางแผนแก้ไข  เป็นขั้นเป็นตอนและเป็นระบบ


 


สรุปปัญหาวัยรุ่นเรียงตามลำดับความสำคัญคือ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร  บุหรี่  สุรา  ยาเสพติด  ความรุนแรง  การพนัน  การลักขโมย   


 


อ่านดูแล้วคล้ายๆ จะไม่มีอะไรใหม่  ไม่วิจัยก็เดาได้  แต่ก็เอาใจช่วยเพราะเป็นวิธีทำงานที่ถูกต้องและเหมาะสม  คือใช้หลายคนช่วยกันคิดและกำหนดจังหวะก้าวอย่างระมัดระวัง


 


ตามข่าวเห็นว่า จะมีกิจกรรมหลากหลายเพื่อแก้ไขปัญหา ได้แก่ การจัดค่ายเยาวชนพัฒนาครอบครัว   ปลูกฝังจริยธรรมและศาสนา   จัดระเบียบวินัย   สร้างสื่อที่เหมาะสมแก่เยาวชน   สร้างบุคคลแม่แบบ


 


อ่านแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่อยู่ดี   ได้ยินมาหลายรอบแล้ว   แต่ก็เอาใจช่วยเพราะที่กล่าวมาก็ถูกทุกข้อ    หากทำได้ทุกเรื่องพร้อมๆ กัน  ปัญหาวัยรุ่นก็ควรจะเบาบางลง


 


คำว่า "วัยรุ่น"  เริ่มเป็นคำศัพท์ที่พ่วงความหมายเชิงลบติดตัวไว้ด้วย    พูดคำว่าวัยรุ่นทีไรมีบรรยากาศเซ็งทุกที    ผู้รู้จำนวนมากบอกว่า อย่าแปลกใจเลยเพราะสำหรับบ้านเราแล้วมันน่าเซ็งจริง    นับเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ปัญหาวัยรุ่นบ้านเราถือว่าร้ายแรงแซงหน้า


 


หากใช้คำว่า "เยาวชน" มักจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่า   พูดว่าจัดค่ายเยาวชน เราจะรู้สึกว่าหน่อมแน้ม กว่าจัดค่ายวัยรุ่น   อย่างไรก็ตาม  เหล่านี้เป็นเพียงการเล่นคำ   ความจริงก็คือเยาวชนบ้านเราไอคิวต่ำครึ่งประเทศและกระทำเรื่องชั่วร้ายมากมาย   โดยทฤษฎีแล้วเยาวชนจำนวนมากจะต้องกลายเป็นยุวอาชญากรไม่ช้าก็เร็ว


 


ปัญหาวัยรุ่น   เรื่องชั่วร้ายของวัยรุ่น  จะเรียกว่าอย่างไรก็หนีไม่พ้นเรื่อง เพศและความรุนแรง    ความไร้วินัยและความฟุ้งเฟ้อ    ร่ายยาวออกมาก็จะได้เกิน 10 ข้อคล้ายๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการทำไว้    หากแก้ไขทีละข้อคงจะเหนื่อยตาย


 


ที่น่ากลัวที่สุดคือ กระทรวงศึกษาธิการจะมีคำสั่งไปที่ครูให้แก้ไขทีละข้อๆ หรือไม่   ว่ากันทีละ   โปรเจ็คๆ หรือไม่    ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ทำนายได้ว่าเซ็งกันทุกโรงเรียนทั่วราชอาณาจักร  หรือส่งผ่านคำสั่งไปยังกระทรวงสาธารณสุขทีละโปรเจ็คๆ   เรียกอบรมครู ก. ทีละเรื่องๆ    ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ทำนายได้ว่าเซ็งกันทุกโรงพยาบาลทั่วราชอาณาจักรเช่นกัน


 


หรือส่งผ่านคำสั่งไปยังกระทรวงวัฒนธรรม   หรือผ่านไปยังกระทรวงวัฒนาสังคม  แม้กระทั่งส่งผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทย


 


เรื่องจะน่าเซ็งที่สุดตอนส่งเงินงบประมาณตามไป   เพราะแต่ละกระทรวงในระบบราชการขึ้นชื่อนักเรื่องเงินใครเงินมัน   ต่างคนต่างนำเงินกลับบ้านไปทำโปรเจ็คกันเอง   ด้วยวิธีนี้เดาได้ว่าปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์วัยรุ่นจะมีอย่างน้อย 4 โปรเจ็คจาก 4 กระทรวงแล้วทุ่มลงไปให้ครู 2-3 คนหรือพยาบาล 2-3 คนทำ   หรือในทางตรงข้ามคือ ใครถือเงินใครทำ    มึงถือเงินมึงทำ   กูไม่ได้ถือเงินกูไม่ทำ  งานยาเสพติดในท้องถิ่นต่างๆ เป็นแบบนี้อยู่แล้ว    งานไหนๆ ในราชการก็เป็นแบบนี้ทั้งสิ้น 


 


แม้ว่าปัญหาวัยรุ่นจะมีมากกว่า 10 ข้อ   แต่ถ้าประมวลให้เห็นเป็นปัญหาเพียงหนึ่งเดียวก็คือ เด็กๆ ไม่มีความภูมิใจในตนเอง


 


ความไม่ภูมิใจในตนเองเป็นคำรวมๆ ที่สะท้อนถึงความไม่มีตัวตน   ไม่มีความมั่นคงทางจิตใจ  ไม่มีความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง  ไม่นับถือตนเอง  ไม่มีอนาคต  ไม่มีภูมิต้านทานการไหลบ่าของกระแสบริโภคนิยม  


 


 (เรื่องนี้แปลกอยู่  รัฐบาลนั่นเองที่เชื้อเชิญกระแสบริโภคนิยมเข้าบ้าน   แต่รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น     ฟังดูคล้ายๆ เรื่องรัฐบาลขายบุหรี่เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขรักษาโรคที่เกิดจากบุหรี่)


 


แม้ว่าวิธีแก้ไขปัญหาวัยรุ่นจะมีมากกว่า 10 ข้อ   แต่ถ้าประมวลให้เหลือเพียงข้อเดียวก็คือ การฟื้นฟูสถาบันครอบครัว  


 


ครอบครัวคือรากฐานของความมีตัวตนและความภาคภูมิใจในตนเอง    ปัจจุบันสถาบันครอบครัวมีปัญหาตั้งแต่คำนิยาม  กล่าวคือครอบครัวคืออะไร 


 


แม้ว่ามีกระทรวงเป็น 4 เป็น 5 ที่ต้องแก้ไขปัญหาวัยรุ่นรวมแล้วมากกว่าร้อยโปรเจ็ค  แต่โปรเจ็คและเงินงบประมาณเหล่านั้นควรรวมกันได้และทำงานด้วยกัน   ปัญหาวัยรุ่นหลากหลายต้องรวมเป็นหนึ่ง     กระทรวงต่างๆ ต้องรวมเป็นหนึ่ง   เงินบนหน้าตักของใครก็ต้องเอาออกมารวมเป็นหนึ่ง  เรียกว่าเป็นการบูรณาการเรื่องชั่วร้ายของกระทรวงวัยรุ่น