Skip to main content

" สิ่งที่เห็น...ไม่เป็นอย่างที่คิด "

คอลัมน์/ชุมชน


 


ใครชอบละคร...เขาเรียกกันว่าซีรี่ส์สินะ....ใครชอบซีรี่ส์  "รักแปดพันเก้า "  เหมือนฉันบ้างคะ   หกโมงเย็นวันอาทิตย์   ฉันพยายามหลีกเลี่ยงกับสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ที่จะพรากฉันไปจากหน้าจอ  Modern 9 TV. แต่ด้วยการงานที่รัดติ้ว  ทำให้ต้องหักห้ามใจบ้างเหมือนกัน


 


ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นผลงานของค่ายแกรมมี่ ที่แผ่อาณาจักรครบวงจรไปซะทุกอย่างแล้ว (ไม่ฮา)      ภายใต้ชื่อ ซีเนริโอ ที่มีคุณหนูบอย  ถกลเกียรติ วีรวรรณ  กุมบังเหียนอยู่    พร้อมผู้กำกับคู่บารมี  จิรศักดิ์ โย้จิ้ว  ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่องไหน ๆ ที่ผลิตโดยค่ายนี้ล่ะก็  เดาได้เลยว่าต้องเป็นฝีมือกำกับของพี่นก คนนี้แน่ ๆ    และนั่นก็คงเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ฉันรู้สึกว่า ละครเอ็กแซ็กท์กี่เรื่อง ๆ  กลิ่นไอจึงคล้ายกัน


 


ฉันติดตาม  รักแปดพันเก้า  มาจะสองปี  เห็นความเป็นไปของทุกคนจนรู้สึกประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ กันไปแล้ว  นุ่น  (บี-น้ำทิพย์)  ยังเป็นผู้หญิงขี้เหงาอยู่เหมือนเดิม แต่เมื่อสูญเสียแม่ไปแล้ว นุ่น ก็กลายเป็นผู้หญิงขี้เหงาที่รู้จังหวะเวลาของตัวเองว่าควรเหงาเมื่อไหร่ หรือกับใคร  ฉันชอบจัง และที่ชอบอีกอย่างก็คงเพราะบทนี้วางตัวนักแสดงได้เหมาะสม   บี-น้ำทิพย์   ทำให้ทุกคนเชื่อว่า เธอเป็นนุ่นจริง    ผู้หญิงที่ดูเหงา  เศร้า คล้ายหัวอ่อน  อ่อนไหว แต่บทจะแกร่งขึ้นมาก็ผิดความคาดหมายของทุกคน   บี ทำให้ นุ่นเป็นผู้หญิงขี้เหงาด้วยแววตา และทุกครั้งที่มุมกล้องจับเข้าไปให้เห็น ฉันซึ่งเป็นคนดูก็รู้สึกเหงาจับหัวใจเช่นกัน  คล้ายตัวละคร   กี้-กิรณา  ใน " พรายปรารถนา "   ที่เธอเล่นคู่กับ อู๋-ธนากร


 


ส่วนหนึ่งของ รักแปดพันเก้า ที่ฉันชอบมากถึงมากที่สุดคือ   ทีมเขียนบท ที่มี พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์, พฤกษ์ เอมะรุจิ, ตรึงตา โฆษิตชัยมงคล   ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างแยบยล   ถูกใจฉันในหลายตอน  แต่ก็มีที่ไม่ถูกใจเพราะรู้สึกอย่างแรงว่าหมดมุข  อย่างตอนเคราะห์หาม..ยามรัก เมื่อ 21 สค. ก็ออกอาการหมดมุขชัด ๆ    มีอย่างหรือ  ให้อิทธิ์กับนุ่น วิ่งไล่กันราวกับหนังอินเดีย ที่พระเอกนางเอกตอนจีบกันต้องวิ่งข้ามเขาเป็นลูก ๆ    เฮ้อ  เหนื่อย 


 


หรือจะเป็นตอนของใคร  เมื่อ 28 สค.  ฉันดูว่ามันจะเกินจริงไปซะจนไม่เชื่อ  คล้อยตามไม่ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง ชุดนอนชุดเดียวจะก่อให้เกิดสงครามเมืองทรอย ปานนั้น  เฮ้อ 


 


แต่ที่ถูกใจก็หลายอยู่นะ    อย่างตอน ไว้ใจ เมื่อปลายเดือน กค.  เปิดประเด็นด้วยการที่ เจ๊กับจุ้นมาช่วย  นุ่น ทำความสะอาดห้องแม่นุ่น   จุ้นทำสร้อยของแม่นุ่นตก และรีบเก็บเข้ากล่องนำไปไว้ที่ห้องด้วยท่าทีพิรุธ  ทันใดนั้นเอง  จุ้น ก็หยิบสร้อยลงในกระเป๋ากางเกง  คนดูรวมทั้งฉันด้วยตัดสินไปแล้วค่ะว่า จุ้นขโมยของ เพราะเนื้อเรื่องที่เปิดมาว่าเจ๊ทวงหนี้จุ้น  หักเงินเดือนจุ้นจนแทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว  นั่นคงทำให้จุ้นตัดสินใจขโมยของ   ยังค่ะ ยังไม่จบ   คนเขียนบท ก็ยังตอกย้ำความคิดของคนดูด้วยการให้จุ้นหาทางไปร้านทองให้ได้  ต้องเอาทองไปขายเอาเงินมาใช้หนี้แน่ ๆ   เลวจริง ๆ เลย ฉันอินไปกับละคร  ..............


 


พอเจ๊จับได้ จุ้นก็หน้าซีดปากสั่น ปฏิเสธให้ลั่นว่าเปล่าขโมยนะ   แต่เพราะเข้าใจว่าตัวเองทำกรอบพระแตกก็กลัวความผิดเลยจะเอามาซ่อมให้ดีก่อนแล้วค่อยเอาไปคืน   โดยหารู้ไม่ว่ากรอบพระแตกอยู่แล้ว   เจ๊ก็ไม่ฟังความใด ๆ ทั้งสิ้น โมโหเลือดขึ้นหน้า ด่าว่าจุ้นอย่างรุนแรง ใครห้ามก็ไม่ฟังเพราะหลักฐาน พยานแวดล้อมต่าง ๆ ก็เห็นกันอยู่ตำตา ใครจะเชื่อว่าจุ้นไม่ได้ตั้งใจขโมย (ตอนที่ดูละครอยู่ฉันเชื่อนะว่าจุ้นขโมยจริง ๆ ) จนอิทธิ์ทนไม่ไหวต้องบอกเจ๊ให้หยุดว่าจุ้นซะทีเพราะ "สิ่งที่เห็นไม่ใช่อย่างที่เราคิดเสมอไปนะเจ๊ "  โอย.........คนเขียนบท  เจ๋ง ค่ะ 


 


ประโยคเดียวแทนเรื่องราวได้หมดเลย ไม่ว่าจะเรื่องของทัศน์กับทรายที่กำลังเข้าใจผิดกัน   เรื่องของฟ้ากับแทนและคุณทรงพลที่ก็ยังคลางแคลงใจกันอยู่  หรือแม้แต่เรื่องของจอนกับพี่ธีเอง   ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะทุกคนมองเหตุการณ์ที่เกิด  สรุปผลและเข้าใจ อย่างที่ตาเห็น  โดยลืมมองไปถึงเรื่องราวที่แท้จริง  ต้นตอของเหตุการณ์นั้น ๆ และที่สำคัญ  ทำไมเราถึงได้ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจในคนใกล้ตัวของเรานะ  ก็เราน่ะ น่าจะรู้จักและถ่องแท้ในคนของเราดีกว่าใครมิใช่หรือ    


 


ในละคร แม้จุ้นจะเสียใจเหลือเกินที่โดนเจ๊ ซึ่งเป็นคนที่รู้จักจุ้นดีที่สุดกล่าวหาด้วยเรื่องร้ายแรง แต่เจ๊ก็ยังโชคดีที่มีโอกาสงอนง้อ เรียกความสัมพันธ์กลับมาได้   จุ้นในละครก็ดูไม่คิดมาก เจ๊ยกหนี้ให้พร้อมมีขนมปลอบใจ  จุ้นก็พร้อมจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะนั่นคือละคร คือโลกสมมุติ 


 


หากแต่ในโลกของความเป็นจริงเล่า มีสักกี่ครั้งกันที่เราจะได้โอกาสแก้ไขความผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจอย่างเจ๊   หรือหากมีโอกาสแก้ไข แน่ใจหรือว่าความสัมพันธ์ดี ๆ เหล่านั้นจะกลับมาโดยไม่ทิ้งร่องรอยในหัวใจคน ในสังคมนี้รวมทั้งฉันด้วย มีกี่คนกันที่คนใจกว้างอย่างจุ้น


 


ควรไหมที่เราจะต้องถี่ถ้วนกับคนสำคัญทุกคนในชีวิตเรา


ควรไหมที่เราจะต้องรอบคอบ ละเอียดกับทุกย่างก้าวของชีวิต


ควรไหมที่เราต้องมองทุกสิ่งอย่างให้รอบด้านก่อนตัดสินใคร ก่อนตัดสินอะไร  


และควรอย่างยิ่งไหมหนอ ที่จะเอา "ใจ" วาง "ไว้" ในผู้อื่นบ้าง  เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกดี ๆ กับคนดี ๆ ในชีวิตของเราไป  ความไว้ใจสร้างจากวันเวลาของคน ๆ หนึ่งเกือบทั้งชีวิต  อย่าให้สิ่งที่เราเห็นด้วยสายตา ตัดสินวันเวลาเหล่านั้นเลย   


 


ก็อย่างที่อิทธิ์บอก "สิ่งที่เห็น..ไม่ใช่อย่างที่เราคิดเสมอไปนะ..เจ๊"  (เอ่อ...แล้วที่เรียกเจ๊ ๆ เนี่ย  เจ๊อะไรหรือ????)