Skip to main content

อภิปรายทั้งน้ำตา : ตอน ๒



 


 


น้ำตาต่อมา เป็นน้ำตาแห่งความน้อยใจ


 


เมื่อครู่ท่านประธานเห็นแล้ว ภูเก็ตเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็นลำดับหนึ่งของไทยติดอันดับต้น ๆ  ในการเก็บภาษีรองมาจากกรุงเทพที่เป็นที่หนึ่ง กรุงเทพเป็น ๕๔๖,๐๐๐ ล้าน ที่สองเมืองชล ๕๘,๐๐๐ ล้าน  เชียงใหม่ตั้งเป้าให้ได้ ๔,๒๘๔  ล้าน เก็บได้น้อยกว่าภูเก็ตด้วยซ้ำภูเก็ตตั้งเป้าปีหน้า ๔,๓๓๔ ล้าน


 


ท่านประธานทราบไหม งบกลางผู้ว่าซีอีโอให้ภูเก็ตเป็นอันดับบู้บี้  ท่านประธานรู้จักรางวัลบู้บี้ไหม รองบ๊วยของประเทศ  ๒๕๒ ล้านบาท


 


จังหวัดอื่นเขาได้หลายร้อยล้าน เช่น ที่เชียงใหม่ได้สี่ร้อยล้าน  งบประมาณประจำปีก็ได้เกือบอันดับสุดท้าย  แล้วนี่จังหวัดในเขตอันดามัน  กระบี่ พังงา ภูเก็ต  เมื่อไรจะมีงบในการซ่อมแซมสิ่งที่พังล่ะครับ  ผมขอยกตัวอย่างอนุสรณ์สึนามิให้ท่านประธานดู.......


      


นี่ครับ สิ่งที่ไม่มีการปรับปรุงเพราะไม่มีงบประมาณ  เราไม่อายเขาไปทั่วโลกหรือครับ       ผมอายครับ พอไปต่างประเทศ จะชวนเขามาเที่ยว  เขาถามว่าเป็นอย่างไร ทุกอย่างเหมือนเดิมหรือยัง   ผมไม่กล้าตอบว่า เหมือนตอนไหน เหมือนตอนสึนามิมา หรือเหมือนก่อนสึนามิ


 


น้ำตาที่สามเป็นน้ำตาแห่งความเศร้าใจ  เพราะสิ่งที่รัฐบาลเคยบอกว่าจะทำสัญญาณเตือนภัย จะมีทุ่นลอยน้ำ ไม่มีครับในงบประมาณ 


 


คนภูเก็ตไม่กลัวผี แต่กลัวคนผีๆ ครับ ที่ ไปสร้างหนังผีหลอกชาวบ้าน  กลัวหมอผีที่เที่ยวไปบอกว่าจะมีคลื่นสึนามิอีก พอแผ่นดินไหว ก็ทำนายว่าจะมาถึงภายในสองชั่วโมงบ้าง ระวังรอยเลื่อนบ้าง


 


แล้วที่คุยในวันที่ ๒๖ ธันวา ปีที่แล้วที่บอกว่าทำได้สัญญาณเตือนภัยไม่กี่สตางค์ ขอความร่วมมือระหว่างประเทศไม่ถึงปีก็เสร็จ แล้วนี่เก้าเดือนแล้ว ลืมแล้วหรือ  ท่านประธานครับ ๑๐ เดือนมาเราได้อะไร  ได้ป้ายไม้ฉำฉา ติดตั้งแต่สนามบิน ขู่นักท่องเที่ยวให้กลัว มีป้ายสุสานไม้ขาวโชว์นักท่องเที่ยวตั้งแต่ กม.แรกที่เข้าภูเก็ต


 


ไม่มีทางได้เห็นเออรี่วอนนิ่ง ซิสเต็ม  ที่จะเตือนล่วงหน้าครับ  ท่านประธานดูในงบประมาณจะตั้งไว้โน่น ปี ๕๐


 


เพราะฉะนั้นใครรับปากว่าจะเห็นทุ่นเตือนภัยระหว่างประเทศในปีนี้ ปีหน้าโกหกทั้งสิ้น ดูถูกอย่างแรง  เพราะมีแต่ลมปาก ดูเหมือนคนภูเก็ตเหมือนนกวายุภักษ์ กินลมเป็นอาหาร


 


อย่าลืมฝากท่านประธานรัฐบาลแก้ปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจ  ปลายปีนี้ยังมีความหวัง หลายคนยังอยากมาเมืองไทยยังประทับใจในการช่วยเหลือของชาวไทยทั้งประเทศ  ขอให้จัดเที่ยวบินไปให้ภาคใต้บ้าง อย่าตัดเที่ยวบิน ขณะนี้เที่ยวบินไปอันดามันโดนย้ายไปทางเหนือ  เครื่องบินไม่พอกับนักท่องเที่ยวแล้วครับฝากให้รัฐบาลแก้ไขด่วน


 


หลายโครงการมีแต่ผักชีโรยหน้าเมื่อนายกฯ ไปเยี่ยม ผมถามชาวบ้านบางเนียง บ้านน้ำเค็มเมื่อวานฝนตก ถนนมีทำบริเวณชายหาดไม่มีท่อระบายน้ำ น้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านเดือดร้อน


 


ถ้าไม่ช่วยกันแก้ไขด่วน การท่องเที่ยวของไทยตายอย่างแน่นอนครับ


  


น้ำตาที่สี่  น้ำตาแห่งความเจ็บใจ


 


ผมพาท่านประธานไปอีสานบ้าง  ไทยรักไทยบอกกับชาวบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอีสานครับว่า จะมีวัวล้านตัว  ผมดูงบประมาณและฟังกระทรวงเกษตรชี้แจงแล้ว ว่าไม่ได้เป็นตัวแล้วครับได้เป็นน้ำเชื้อแทน


 


ท่านประธานทราบไหม ส.ส.อีสานตอนนี้ไม่กล้าพบชาวบ้าน ท่านประธานดูนี่ครับ……  ตอนเลือกตั้งมีใบสำรวจจากกระทรวงเกษตร ถามชาวบ้านว่าครอบครัวไหนอยากมีวัวแก้จนบ้าง  บังเอิญตรงกับนโยบายหาเสียงของไทยรักไทยคือโคล้านตัว  ไทยรักไทยเลยกวาด สส. เรียบวุฒิในเขตอีสาน  ตอนนี้เขาก็เลยบอกพวกเราให้ช่วยดูหน่อยว่า วัวแก้จน ล้านตัวนั้นเป็นน้ำเชื้อหรือเป็นตัว  ผมดูงบประมาณแล้ว สงสัยจะเป็นน้ำเชื้อซะมากกว่า  ชาวอีสานบอกว่าอยากได้เป็นตัว  ไม่อยากได้นำเชื้อมาป้ายวัว


 


ปัญหาในขณะนี้ก็คือ พอ สส.ไม่กล้าลงพื้นที่เกษตรกรของผมพอเดือดร้อนก็ไม่มีคนดูแล   ล่าสุดเขาเดือดร้อนเรื่องปุ๋ยครับ


         


ท่านประธานทราบไหม ว่าเกษตรกร ชาวนาชาวไร่ขณะนี้ไม่มีเงินไปซื้อปุ๋ยแล้ว  ปีที่ผ่านมา เงิน คชก.คณะกรรมการให้เกษตรกรกู้ไปซื้อปุ๋ย ๒,๐๐๐ ล้าน ขอยืมเก้าเดือนคืน หนี้สูญน้อยมาก เพราะเกษตรกรไม่เบี้ยว  ตอนนี้เกษตรกรต้องกู้เงินนอกระบบไปซื้อปุ๋ย เดือดร้อนทั้งประเทศ เพราะรัฐไม่มีเงิน


 


ผมทราบได้อย่างไร ว่ารัฐไม่ให้เงิน นี่ครับหลักฐานรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการดินและปุ๋ยวันที่ ๑๗ มิถุนายา ๔๘  ต้องขอขอบคุณท่านประธานกรรมการเกษตรกร  คุณอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ที่ให้ข้อมูล เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกร  สรุปว่าเงินซื้อปุ๋ยไม่มีเงินให้  อนุมัติในหลักการแต่ไม่อนุมัติวงเงิน  แล้วนี่จะแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรอย่างไรครับ


 


น้ำตาสุดท้ายสำคัญครับ คือน้ำตาแห่งความเสียใจ


 


เสียใจที่รัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาสิ่งที่วุฒิสภาเคยอภิปรายงบประมาณในปีที่แล้ว ปีนี้ก็ยังไม่แก้ไข เช่น เรื่องของการศึกษา ครูยังขาดแคลน ยังต้องวิ่งสอน ยังต้องทำแต่รายงาน มีแต่ผู้ออกคำสั่งไม่มีครูผู้ปฎิบัติ อนาคตเด็กไทยแย่แน่นอนถ้าไม่มีการปรับปรุงเรื่องของครูขาดแคลน 


 


หมอก็ยังขาดแคลน หมอลาออกนับพันคนนับตั้งแต่มีโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค  หมอไปอยู่เอกชน ผลตอบแทนดีกว่า งานน้อยกว่า ไม่มีการให้งบในการพัฒนาหมอ ยาก็ไร้คุณภาพเพราะไม่มีงบเพียงพอ งบการศึกษาในคณะแพทย์ศาสตร์ยังไม่ได้รับ อนาคตการแพทย์ยังมืดมน สวนกับนโยบายเมดิเคิลฮับ หรือศูนย์การแพทย์


 


รัฐบาลขาดการเป็นผู้ฟังที่ดี โบราณเขาสอนไว้ คำวิจารณ์ของคู่แข่ง ดีกว่าคำชมของมิตร   ระยะหลังใครคิดตรงข้ามรัฐบาล มักโดยมองว่าเป็นขาประจำ  สื่อโดนปิดปาก ปิดความเห็น


 


วุฒิสภาเคยให้ความเห็นเรื่อง อีลิด การ์ด ลองสเตย์ รัฐบาลก็ไม่แก้ไข เดินหน้าใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือยโดยไร้จุดยืน 


 


วุฒิสภาได้อภิปรายเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ให้ระวังการใช้อำนาจการผูกขาดทำกำไรสูงสุด  แล้วสิ่งที่แปรรูปออกไปก็เป็นเช่นนั้น เช่น ปตท.ยังคงใช้การผูกขาดคิดค่าผ่านท่อแบบเกินจริง  กำไรจากการคิดค่าผ่านท่อปีละเป็นแสนล้าน  แล้วรัฐบาลไม่คิดแก้ไข กลัวว่าจะเป็นการกระทบต่อตลาดหุ้น  ทั้งๆ ที่บอกว่าแปรรูปแล้วต้องให้เน้นการแข่งขัน แต่กลับปล่อยให้ใช้อำนาจผูกขาดไปคิดกำไรเกินจริง


 


ค่าก๊าซก็ต้องแพง ค่าไฟฟ้าก็ต้องแพง พอ กฟผ.เข้าตลาด ก็ใช้อำนาจผูกขาดสายส่งทุบหัวประชาชนอีก  พอประปาเข้าตลาด ก็ใช้อำนาจผูกขาดท่อประปา ขึ้นราคากับประชาชนอีก สรุปว่าการแปรรูปเข้าตลาด ยังไม่ได้เน้นเรื่องการแข่งขัน แต่เน้นเรื่องการทำกำไรสูงสุด


 


เพื่อใครครับ สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น ท่านประธานคงเห็นแล้ว  หุ้นมติชน หุ้นบางกอกโพสต์


เขาใช้นอมินี  คือตัวแทนฝรั่งเป็นคนซื้อ  ไม่มีใครรู้เลยว่าขายฝรั่งจริงหรือไม่ เพราะนอมินี แปลว่าตัวแทน หรือร่างทรง


 


ที่บอกว่าห้ามนักการเมืองซื้อหุ้นรัฐวิสาหกิจไม่ใช่แล้วครับ  หุ้นที่บอกว่าเป็นของต่างชาตินั้น มีบางส่วนเป็นของนักการเมือง  น่าเสียใจ น่าร้องไห้ไหมครับ น่ากลัวไหมครับถ้านักการเมืองทำเช่นนั้นจริง  ปฎิเสธก็ไม่มีใครเชื่อ เหมือนที่บอกว่าอากู๋ซื้อมติชน ใครก็ไม่เชื่อ


 


ต่อไปครับ  เสียใจที่รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหาคอรัปชั่น  ลำไยหายไปห้าหมื่นตัน  ข้าวก็หาย กาแฟก็หาย ไก่ก็เป็นไก่ลม ชดเชยไก่ไป ๗,๐๐๐ ล้าน โดยหลายแห่งมีแต่วิญญาณไก่   คอรัปชั่นมีข่าวก็เงียบหาย เคยจับได้ไหม รัฐบาลต้องเป็นตัวอย่าง มิเช่นนั้นตอนนี้ระบาดไปที่ท้องถิ่นแล้ว แล้วพี่น้องประชาชนไม่เสียใจได้อย่างไร


 


ผมต้องฝากให้รัฐบาลช่วยดูแลทุกมิติแก้ไขเช็ดน้ำตาแห่งความช้ำใจ น้อยใจ เศร้าใจ เสียใจในที่ผมพูดในสภา


 


ท่านประธานครับ ผมมีเวลายี่สิบนาทีในการอภิปรายในสภาที่มีการถ่ายทอดสดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในตำแหน่งหน้าที่ สว.ภูเก็ตที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกของไทย เพราะปีหน้า เดือนเมษา เราก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง


 


ขอฝากท่านประธานให้รัฐบาลคิดถึงบ้านเมืองให้มาก อย่าเอาแต่หาเสียงจนขาดความพอดี ขาดจิตวิญญาณแห่งเศรษฐกิจพอเพียง


 


ท่านประธานอ่านข่าวโรงเรียนในฝันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไหมครับ ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องฆ่าตัวตายเพราะโรงเรียนติดหนี้ ไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้


 


เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นสิ่งที่ผมอยากฝากให้รัฐบาลอย่าหลงลืม !


 


อย่าเอาแต่คิดไหม่ทำไหม่ ขอให้คิดดี ทำดี อย่างที่พระองค์ท่านทรงให้สติ ก่อนจบผมขอให้สติแก่นักการเมืองทุกคนไม่ใช่แต่รัฐบาล เพราะจะมีนักการเมืองรุ่นหลังจะมาในสภาอีกมาก


 


ผมอยากให้คนดีๆ เข้ามามากๆ และไม่ลืมจิตวิญญาณที่จะทำความดีเพื่อประชาชน ไม่ใช่เอาแต่เกาะเก้าอี้แน่น โดยไม่ฟังเสียงประชาชน


 


ข้อเตือนสตินี้เป็นของขงเบ้งติดไว้ที่บ้านไว้ ชนิดที่ให้ผู้คนผ่านมาเห็นตลอดเวลาว่า


"ภูเขาไม่สำคัญที่ความสูง แต่สำคัญที่มีเทพสิงสถิตอยู่หรือไม่   หากมีผู้คนก็นับถือ


แม่น้ำไม่สำคัญที่ความลึก สำคัญว่ามีมังกรสิงสถิตหรือไม่  ถ้ามีผู้คนก็ยำเกรง


บ้านไม่สำคัญที่ความใหญ่โตอัครฐาน สำคัญอยู่ที่มีนักปราชญ์อยู่หรือไม่ ถ้ามีฮ่องเต้ผ่านมาก็ทรงแวะ"      


 


สรุปได้ในที่นี้ว่านักการเมืองไม่สำคัญว่าจะมีตำแหน่งใด เป็นรัฐมนตรี เป็นประธานสภา เป็นประธานกรรมาธิการหรือไม่  ไม่สำคัญ   สำคัญที่มีคุณธรรม มีจิตใจช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้อ่อนแอ  ผู้ตกทุกข์ ฟังเสียงประชาชน มีความสามารถ มีกึ๋นหรือไม่  ถ้ามี ท่านเป็นขวัญใจปวงชนตลอดกาลอย่างแน่นอนครับ