Skip to main content

เด็กชายหอยนางรม : บนโลกใบขาดๆ เกินๆ

คอลัมน์/ชุมชน

เด็กใหม่ในเมือง


 


ช่วงที่ผมกำลังนั่งเขียนบทความชิ้นนี้อยู่ เป็นช่วงที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ชื้นแฉะที่สุดช่วงหนึ่งของปีเลยทีเดียว อันเนื่องมาจากฝนที่ขยันตกลงมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย  บวกกับข่าวสารร้ายๆ


 


ผมจึงเลือกหนังสือที่ให้บรรยากาศหม่นๆ เหมือนบรรยากาศช่วงนี้มาพูดถึงเสียเลย


 


ผมคิดถึงหนังสือเรื่อง The Melancholy Death of Oyster Boy & Other Story หรือชื่อพากย์ไทยว่า "เด็กชายหอยนางรม" ผลงานของทิม เบอร์ตัน – ผู้กำกับหนังที่เพิ่งมีผลงาน Charlie and The Chocolate Factory ออกสู่สายตาผู้ชม ให้เสียงภาษาไทยโดย ’ปราย พันแสง (ตรงนี้ต้องสารภาพกับท่านผู้อ่านว่าผมอ่านงานเขียนของคุณ ’ปรายไม่ได้เอาเสียเลย...อ่านแล้วน้ำตาลในเลือดมันขึ้นสูงพิกล)


 


 


 


(ภาพจาก http://design.in.th/phpBB/viewtopic.php?topic=4958&forum=11&11)


 


หนังสือเล่มที่ว่าออกมาในรูปแบบของบทกวีประกอบภาพ ที่พาผู้อ่านเข้าไปรู้จักกับโลกอันบิดเบี้ยว และตัวละครประหลาดๆ ของทิม ทั้งเด็กชายหอยนางรม ที่ถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองฆ่าเพื่อนำเนื้อหอยไปเพิ่มพลังทางเพศ, เด็กชายมอมแมมที่ทั้งชีวิตไม่เคยได้พบกับความสะอาดบนตัวเลย หรือเด็กชายมัมมี่ที่สิ้นใจเพราะเด็กๆ คิดว่าในหัวของเด็กชายมัมมี่น่าจะมีขนมอยู่ในนั้น...บรรดาเด็กๆ เลยจัดการหวดกบาลเจ้าเด็กชายมัมมี่ด้วยไม้เบสบอลเสียเลย


 


แม้ว่าโลกใน "เด็กชายหอยนางรม" จะดูหดหู่เหลือเกิน แต่ทิมก็ไม่ลืมใส่มุข (เนื่องด้วยผู้เขียนชอบคำว่า "มุข" ที่สะกดด้วยตัว ข. ไข่ ดังนั้นผมขออนุญาตไม่เชื่อฟังราชบัณฑิตยสถานนะครับJ) ลงไปในเรื่องด้วย...แต่ถึงกระนั้นมุขในเรื่องนี้ก็เป็นมุขแบบตลกร้าย อาทิเช่น


 


"ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ ที่ซานตาคลอสให้ตุ๊กตาหมีแก่เจมส์


ช่างไม่รู้เลยหรือว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา


เจมส์เพิ่งถูกหมีใหญ่ตะปบตาเหวอะไปข้าง"


 


ผมค่อยๆ นั่งอ่านเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ในรอบแรก (ต้องบอกท่านผู้อ่านก่อนนะครับว่าผมเองไม่ใช่แฟนหนังของคุณเบอร์ตันอย่างเหนียวแน่น เพราะเท่าที่จำได้ผมเคยดูหนังฝีมือเขาอยู่เรื่องเดียว คือ Sleepy Hollow  ซึ่งก็นานมากจนผมแทบจำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากบรรยากาศทึมๆ ของตัวหนังเท่านั้น) ด้วยความทึ่งในจินตนาการอันพิสดารพันลึกของเบอร์ตัน ที่สามารถสร้างตัวละครพิลึกกึกกือหลายๆ ตัวขึ้นมาได้


 


แต่บรรดาตัวละครเหล่านั้น ที่แม้ว่าดูภายนอกจะแปลกประหลาดขนาดไหนก็ตาม แต่ทุกตัวกลับมีในสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนมี


 


สิ่งที่ว่านั่นก็คือความ "พร่อง" นั่นเองครับ


 


ตัวละครแทบทุกตัวในหนังสือเล่มนี้ต่าง "มี" หลายๆ สิ่งที่พิเศษกว่าคนอื่น แต่ไอ้เจ้าบรรดาสิ่งพิเศษทั้งหลายเหล่านั้นกลับเป็นตัวที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นถูกกั้นออกจากสังคมมนุษย์ปกติ บ้างถูกล้อเลียน บ้างถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง


 


ตัวละครแทบทุกตัว "ขาด" เพื่อนและคนที่จะคอยเอาใจใส่ดูแล ซึ่งแม้ว่าเราๆ ท่านๆ ทุกคนอาจไม่ขาดเพื่อน แต่เราทุกคนก็คงมีสิ่งที่ตัวเอง "ขาด" ไป และไม่อาจเติมเต็มได้ตามลำพัง หรือบางครั้ง...ก็อาจไม่มีใครเติมเต็มมันได้


 


ผมเปิดไปที่ภาพสุดท้ายของการ์ตูนชุดนี้ เป็นภาพของเด็กชายหอยนางรมใส่หน้ากากรูปหน้ามนุษย์ปกติ ถือถุง trick or treat อยู่ที่ประตูหน้าบ้านใครสักคน พร้อมด้วยคำบรรยายว่า


 


วันฮัลโลวีน,


เด็กชายหอยนางรมตกลงใจ จะออกไปเล่นเยี่ยงมนุษย์


 


ข้อความนั้นคงต้องการบอกว่า สิ่งที่จะช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ขาดๆ เกินๆ ได้ดีที่สุด คงเป็นความเข้าใจในสภาพที่เป็นอยู่ของตัวเอง และหาความสุขเท่าที่ตัวเองจะสามารถมีได้ด้วยกำลังของตัวเอง


 


มันคงเป็นเช่นนั้นกระมัง J