Skip to main content

หนังสือลามก??

คอลัมน์/ชุมชน


 การได้มีโอกาสทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องคนรักเพศเดียวกัน ทำให้ฉันพบเจอกับเรื่องขำๆ เยอะมาก  ล่าสุด ฉันทำหนังสือรวมเรื่องสั้นหญิงรักหญิงและชายรักชาย คือ She 2 "ดอกไม้แย้มกลีบ" และ He 1 "ถนนสายปรารถนา" ทำเสร็จแล้วก็ต้องหาที่วางจำหน่าย ฉันก็โทรไปหาฝ่ายจัดซื้อของร้านหนังสือใหญ่ยักษ์แห่งหนึ่ง


"หนังสืออะไรหรือคะ" เธอผู้นั้นถาม


"รวมเรื่องสั้นเกี่ยวกับประเด็นเกย์และเลสเบี้ยนค่ะ" ฉันบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงธรรมดาตามประสาเลสเบี้ยนธรรมดา


 "เป็นเรื่องลามกอนาจารหรือเปล่าคะ" ตัวแทนร้านหนังสือถามอย่างตรงไปตรงมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจสมเป็นผู้หญิงทำงานรุ่นใหม่ยิ่งนัก


 แต่ฉันกลับชะงักไปเล็กน้อย แม้จะเตรียมใจไว้แล้วก็ตามสำหรับคำถามแปลกๆ ที่จะต้องเจอ แล้วก็นึกไปถึงชุดความรู้เกี่ยวกับเกย์เลสเบี้ยนในหัวเธอ


 เกย์, เลสเบี้ยน = เซ็กส์, สำส่อน,ลามก ฉันเดาว่าคงประมาณนี้แหงๆ


 "เปล่าค่ะ เป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เขียนเกี่ยวกับประเด็นเกย์เลสเบี้ยนเฉยๆ ค่ะ"   ฉันอธิบายเสียงเฉยๆ อย่างเข้าใจ ว่าคนทั่วไปก็มีความคิดต่อเกย์เลสเบี้ยนอย่างนี้แหละ ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหรอก


 "แล้วภาพประกอบล่ะคะ มีภาพลามกอนาจารหรือเปล่า"  เธอยังถามต่อไปอย่างเชื่อมั่นว่าต้องมีสิ่งลามกอนาจารอยู่ตรงไหนสักแน่ๆ ในหนังสือเล่มนี้


 "ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย เป็นภาพธรรมดาค่ะ"  ฉันเฝ้าอธิบายต่อไปด้วยใจอันอดทน พลางบอกตัวเองไปด้วยว่าใจเย็นๆ


 


การได้ทำกิจกรรมประเด็นนี้  นอกจากจะพบเจออะไรแปลกๆ ขำๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้พบแล้ว ยังเป็นการฝึกจิตใจให้มั่นคง เยือกเย็นอีกด้วย


 "คือต้องแจ้งให้ทราบนิดนึงนะคะว่า ร้านหนังสือของเราเป็นร้านหนังสือสีขาว  จะไม่รับวางหนังสือที่มีเรื่องลามกอนาจาร หรือที่มีคำหยาบคาย นโยบายของร้านเราคือการนำความรู้สู่สังคมไทย"  เธอบอกสโลแกนของบริษัทเธออย่างฉะฉาน  ท่าทางจำแม่นขึ้นใจมาก


"โห…นี่แหละค่ะ ใช่เลยค่ะ หนังสือสองเล่มนี้ตรงกับสโลแกนของร้านเลยค่ะ เพราะจะช่วยทำให้สังคมเข้าใจว่าเรื่องเกย์เลสเบี้ยน มันไม่ได้มีแต่ลามกอนาจารค่ะ"  ได้ที ฉันรีบนำเสนอเมกกะโปรเจ็คที่แสนภาคภูมิใจ แต่ไม่วายเหน็บเธอไปนิดหน่อย จะได้เยือกเย็นยิ่งขึ้น


 "งั้นต้องส่งหนังสือมาให้ดูก่อนนะคะ ถึงจะแจ้งให้ทราบได้ว่าจะรับวางหรือไม่"  เธอบอก น้ำเสียงกร่อยลงจากตอนแรกเล็กน้อย ไม่ทราบว่าทำไม


"ได้ค่ะ เดี๋ยวจะส่งไปให้ดู" ฉันจดชื่อ ที่อยู่บริษัทตามที่เธอบอกเอาไว้ บ่ายนี้เดี๋ยวจะรีบจรลีไปส่งอีเอ็มเอสให้เธอ  จะได้ทราบแต่เนิ่นๆ ว่าจะรับหนังสือของฉันขายมั้ย  เผื่อยังไงจะได้เตรียมไปเจรจากับร้านค้า สายส่งอื่นๆ เอาไว้ด้วย


แล้วเวลาเนิ่นนานก็ผ่านไป รอแล้วรอเล่าจนรอไม่ไหวเลยโทรกลับไปถามเธอ ปรากฏว่าหนังสือของฉันมีคำหยาบคายหลังปก เลยทำให้วางจำหน่ายในร้านของเธอไม่ได้


"มึงกลัวชู้ทอมมึงตายใช่ไหมอีบัว  อีอัปรีย์ กูจะไปดูหน้ามันอีกสักที จะไปถอดกางเกงให้มันดู จะดูสิว่ามันจะว่าไง…มันอยากเป็นนักไม่ใช่หรือผู้ชายน่ะ…" (จากเรื่องสั้นชื่อสาวบัว  เขียนโดยราชา’วดี)


 คำหยาบที่ว่านั้น ได้แก่ คำว่า มึง, กู, อีอัปรีย์ นั่นเอง


แล้วก็นึกถึงหนังสือของเพื่อนที่มีชื่อเล่มว่า "คืนนี้ไม่มีอารมณ์" ซึ่งทางร้านก็ไม่รับวางจำหน่ายเช่นกัน อันเนื่องมาจากชื่อปกดังกล่าว


แล้วมันก็ทำให้ฉันนึกไปถึงประเด็นการบริจาคเลือดของคนที่เป็นเกย์เป็นเลสเบี้ยน  เพราะมันมีอะไรคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย


 


นั่นก็คือ ถ้าเกย์หรือเลสเบี้ยนคนไหนอยากบริจาคเลือดนัก  ก็อย่าได้บอกกับศูนย์ที่ไปบริจาคว่าคุณเป็นเกย์หรือเป็นเลสเบี้ยน มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน โกหกได้จงโกหกไป


หรือก่อนไปบริจาค เป็นหญิงรักหญิงก็ควรเริ่มไว้ผมให้ยาว  ฝึกแต่งหน้าแต่งตา สวมกระโปรง ใส่ส้นสูงเอาไว้แต่เนิ่นๆ  เป็นชายรักชาย ก็อย่าได้วาดนิ้วก้อยกรีดกรายให้ใครจับพิรุธได้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะไม่รับบริจาคเลือดของพวกคุณ  ถ้าแพคเกจที่ห่อหุ้มไม่ตรงตามเพศที่ถือกำเนิดมา


สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่ากรณีการบริจาคเลือด หรือหนังสือเกย์-เลสเบี้ยน บอกย้ำกับฉันอีกหนว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับภาพ "ภายนอก" จริงๆ


สถานที่รับบริจาคเลือด ไม่มีเวลามาตรวจดูว่าเลือดของใครเสี่ยง/ไม่เสี่ยง ก็เลยใช้วิธีการไม่รับบริจาคเลือดจากคนที่ (เขามีอคติ) มีพฤติกรรมทางเพศเสี่ยง (ซึ่งจำเพาะแต่หญิงรักหญิงกับชายรักชายเท่านั้นที่เสี่ยง) และสำหรับร้านหนังสือนั่นเล่า ก็ใช้วิธีการพิจารณาคัดเลือกหนังสือแบบรีบๆ เร็วๆ ไม่ต่างกัน หน้าปกมีภาพโป๊มั้ย ชื่อเล่มส่อไปในทางเซ็กส์หรือเปล่า มีคำหยาบที่จะทำให้ได้อ่านได้ยินแล้วชีวิตจะต้องล้มเหลวแน่ๆ หรือไม่


เนื้อหาจะดี มีคุณค่าสักแค่ไหน ไม่ใช่เรื่องต้องสนใจแล้ว


หรือถ้าเห็นเป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับคนรักเพศเดียวกัน ก็จะคิดแค่ว่าต้องเป็นหนังสือลามกอนาจารเท่านั้น


สังคมไทย นอกเหนือจากจะล้มเหลวกับการทำความเข้าใจความหมายของคำว่า "เพศ" ที่ไม่ได้มีความหมายแค่การมีเพศสัมพันธ์  และการเป็นคนรักเพศเดียวกัน ไม่ได้หมายถึงคนรัก (การ) ร่วมเพศแล้ว ยังเป็นสังคมที่สนับสนุนให้คนพูดเท็จอีกด้วย