"ผู้หญิงกับการเรียนรู้ร่วมกันในเรื่องเพศ"
คอลัมน์/ชุมชน
เกิดเป็นหญิงคุยเรื่องเพศแสนลำบาก จริงไหม...
คุณผู้อ่านซึ่งกำลังอยู่ในวัยสาว หรือวัยสาวกว่า เคยรู้สึกสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตทำนองนี้บ้างไหม เช่น
"ตอนที่เกิดอารมณ์เพศแล้วอยากช่วยตัวเอง แต่รู้สึกผิด จะทำไงดี"
"จะบอกแฟนอย่างไรว่ายังไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์"
"รู้สึกชอบผู้หญิงด้วยกัน ผิดปกติหรือเปล่า"
หรือคุณเคยกังวลใจไหมว่า "ผู้ชายจะรู้ไหม ถ้าคุณเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว"
หรือคุณเคยรู้สึกกลุ้มใจมากๆ ว่า "ฉันจะท้องไหมนะ เพราะมีเพศสัมพันธ์กับแฟน แต่ไม่ได้ป้องกัน"
ไม่ว่าคุณจะเคย หรือไม่เคยมีความสงสัย กังวลหรือเกิดคำถามกับเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน แต่ทว่าวันหนึ่งคุณอาจจะต้องคุยเรื่องเหล่านี้กับใครสักคนที่ใกล้ชิด ซึ่ง "เขา" คนนั้นอาจจะเป็นน้องสาว ลูกสาว ลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงาน แฟน หรือคู่รัก
คุณคิดว่าตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไร...
-----------------------------------------------------------------
เมื่อพูดถึงเรื่อง "เพศ" คุณนึกถึงอะไร?
คำตอบที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเมื่อได้ยินคำถามนี้ คือ คิดถึงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ คิดถึงลีลาท่าทาง และคิดถึงอวัยวะเพศหญิงชาย
ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ผู้หญิงเกิดความรู้สึกว่า การคุยเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าอาย ลามกอนาจาร และเป็นเรื่องส่วนตัว จึงไม่สมควรที่จะนำมาพูดคุยกันในที่สาธารณะ เพราะเรื่องเพศถูกจำกัดเฉพาะให้เป็นเรื่อง "ใต้สะดือ" และเป็นเรื่องที่ผู้ชาย (และผู้หญิง) ใช้เฉพาะการเล่ากันอย่างสนุกสนานและเพิ่มเติมรสชาติในวงสนทนา
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง "เรื่องเพศ" มีความหลากหลายของวิถีเพศและสัมพันธภาพทางเพศ มีทั้งในมิติวิทยาศาสตร์การแพทย์ สังคม ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
เรื่องเพศจึงเป็นการเรียนรู้ของมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย
ยกตัวอย่างข่าว "เมียหลวง จี้คดีเมียน้อยซัดกรด" น.ส.นิรัญญา หนูเหมือน หรือขวัญ สาวโรงงานผลิตถุงมือยางอยู่ที่ จ.ระยอง ถูกเมียน้อยของสามีใช้น้ำกรดสาดหน้าจนตาบอดเสียโฉม เข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วย เพราะตำรวจไม่สนใจตามคดี ส่วนสามีก็หนีไป (ไทยรัฐ หน้า ๑ วันที่ ๒๑ ก.ย.) คุณคิดว่าข่าวนี้เป็นเรื่องเพศหรือไม่ และเกี่ยวกับผู้หญิงอย่างไร
ข่าวนี้มีผู้หญิงที่เกี่ยวข้อง ๒ คนและผู้ชายที่เป็นสามี ข่าวทำให้ภาพของผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยช่างสุดแสนโหดร้าย
แต่เพราะอะไรผู้หญิงคนนี้จึงต้องมาเป็นเมียน้อย เธอรู้สึกอย่างไรถึงต้องลงมือสาดน้ำกรดเมียหลวง ผู้ชายที่มีส่วนในความสัมพันธ์รักสามเส้าหนีหายไปไหน ข่าวนี้จะส่งผลอย่างไรกับผู้หญิงที่อยู่ในสถานภาพเมียน้อยคนอื่นๆ และถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะเมียน้อย หรือเมียหลวง คุณคิดว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร
สังคมไทยเราให้คุณค่ากับการกระทำของผู้หญิงกับผู้ชายในเรื่องเพศไม่เท่ากันโดยเฉพาะเรื่อง "ความสัมพันธ์นอกสมรส" เพราะการที่ผู้ชายมีเมียหลายคน สังคมมักจะให้การยอมรับและยกย่องว่าเป็น "ขุนแผน"หรือ "คาสโนวา" แต่ถ้าผู้หญิงทำพฤติกรรมอันเดียวกันกลับถูกตราหน้าว่าเป็น "กากี" หรือ "วันทอง"
ด้วยวิธีคิดเช่นนี้จึงส่งผลให้บ้านเมืองเรามี "เมียน้อย" เต็มไปหมด แต่ "ผัวน้อย" ไม่ค่อยได้เกิดหรือนานๆ จะได้ยินสักที (ที่เขียนเช่นนี้มิใช่เพื่อเรียกร้องการมีผัวน้อยเพื่อการเท่าเทียมดอกนะ)
แม้ว่าสังคมไทยจะยอมรับเรื่องการมีเมียน้อยว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่กลับน่าแปลกใจว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายกลับไม่เคยได้เรียนรู้วิธีการจัดการเมื่อคนใดคนหนึ่งต้องการที่จะ "ยุติความสัมพันธ์" ด้วยการพูดคุยกันด้วยความซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตนเอง และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นและเคารพความต้องการของผู้อื่น แทนการตัดสินใจเลือกใช้ความรุนแรงต่อกันดังข่าวนี้ และข่าวฆาตกรรมอำพรางอื่นๆ ตามข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์รายวัน
ดังนั้น หากว่าผู้อ่านที่มีลูกหลานอยู่ในวัยเยาวชน (หรือเป็นเยาวชนเอง) ที่สนใจว่าจะพูดคุยกับลูกหลานในเรื่องเพศ ขอแนะนำเว็บไซต์เพศศึกษาเพื่อเยาวชน www.teenpath.net ซึ่งอาจทำให้คุณแปลกใจว่า "เรื่องเพศ" มีความหลากหลาย (จริงๆ) บางสิ่งในเรื่องเพศที่เราไม่สามารถทำได้เด็ดขาด แต่คนอื่นเขากลับทำได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ในขณะเดียวกัน บางอย่างที่เราทำจนเป็นเรื่องปกติมากๆ คนอื่นเขาอาจจะมองว่าทำไปได้ยังไง เบี่ยงเบนผิดปกติ ผิดธรรมชาติไปซะงั้น บางทีคุณอาจได้พบคำตอบบางอย่างที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองและคนรอบข้างใกล้ตัว
หากคุณมีเรื่องเล่า หรือมีความคับข้องใจเรื่องเพศอย่างไร ส่งความคิดเห็นของคุณมาได้ที่เว็บไซต์นี้ แล้วเราจะได้มีโอกาสเอาความคิดเห็น ความคับข้องใจที่ผู้อ่านเล่ามา มาคุยกันเพิ่มเติมและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้อ่านต่อไป