เรื่องของเรากับเส้นผม (บังภูเขา)
คอลัมน์/ชุมชน
ถ้าจะให้พูดถึง The Brothers Grimm หนังแฟนตาซีที่สร้างสรรค์โดยเทอร์รี่ กิลเลี่ยม สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่า คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้น่าจะคิดถึงก็คือ Gimmick ของผู้กำกับที่มีการนำเอานิทานก่อนนอนที่เคยได้ยินได้ฟังกันตอนเด็กๆ อย่าง หนูน้อยหมวกแดง, เจ้าชายกบ, ซินเดอเรลล่า ฯลฯ มาโยงเข้ากับเรื่องราวของหนัง ที่ถึงแม้จะดูทุลักทุเลและขาดความ "เนียน" ไปสักหน่อย แต่ก็ทำให้ย้อนนึกกลับไปถึงตอนที่รบเร้าให้แม่เล่าให้ฟังได้เหมือนกัน
แรกเริ่มเดิมที The Brothers Grimm เป็น Project ของผู้กำกับที่คิดจะนำเรื่องราวของสองพี่น้องตระกูลกริมม์อย่าง เจค็อบ ลัดวิก คาร์ล กริมม์ และ วิลเฮล์ม คาร์ล กริมม์ เจ้าของนิทานสอนใจที่เด็กๆ ทั่วโลก (น่าจะ) รู้จักมาสร้างเป็นหนัง แต่ที่สุดแล้วเขาก็ทำได้แค่หยิบเอานิทานบางเรื่องของสองพี่น้องมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในหนังเท่านั้น
The Brothers Grimm ฉบับสมบูรณ์ที่ปรากฏสู่สายตาผู้ชมนั้นเป็นเรื่องของ 2 พี่น้องนักต้มตุ๋นที่หาเลี้ยงตัวเองด้วยการเดินทางไปในหมู่บ้านหนึ่งๆ เพื่อปราบปีศาจร้ายที่พวกเขาเป็นคน set ฉาก รวมทั้งตัวละครขึ้นมาเองทั้งหมด แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็ต้องรับบทผู้มีวิชาอาคมขึ้นมาจริงๆ เมื่อทางการฝรั่งเศส (ซึ่งเข้ามายึดครองเยอรมันในตอนนั้น) บังคับให้พวกเขาต้องไขปมปริศนาที่เกิดขึ้นในป่าอาถรรพ์ ณ หมู่บ้านต้องคำสาปโดยมีชีวิตของพวกเขาเป็นเดิมพัน 2 พี่น้องจะทำอย่างไร? เมื่อต้องมาเจอปีศาจร้ายที่ไม่กำมะลออย่างที่ผ่านๆ มา พวกเขาจะรอดชีวิตหรือไม่? แล้วอะไรกันแน่ที่อยู่ในป่า ฝากให้คุณๆ หาคำตอบจากตัวหนังแล้วกันนะคะ
มาถึงตรงนี้ เรื่องราวที่อยากจะหยิบยกมาชวนคุยก็คือ เรื่องของนิสัยใจคอรวมทั้งความสัมพันธ์ของตัวละครหลักอย่างวิลและเจค 2 พี่น้องที่มีทัศนคติและความสามารถที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
วิล กริมม์ ผู้พี่ เป็นจอมต้มตุ๋นที่ไม่เชื่อเรื่องเทพนิยาย, เรื่องราวเหลือเชื่อตลอดจนเรื่องของปีศาจและภูตผี เขาไม่เคยเชื่อว่า เรื่องราวที่พิสูจน์ไม่ได้เหล่านั้นจะเป็นเรื่องจริงขึ้นมา จริงอยู่เขารักน้องอย่างสุดหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มองว่า น้องชายของเขาตกอยู่ในห้วงแห่งความเชื่ออันงมงาย ดังนั้น ในสายตาของวิล น้องชายของเขาอ่อนไหวเกินกว่าจะตัดสินใจในเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับชีวิตของทั้งคู่
เจค กริมม์ คนน้อง เป็นนักฝันมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเชื่อในเรื่องของแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ไปจนถึงมนต์มหัศจรรรย์ต่างๆ และไม่ว่าจะเดินทางไปหมู่บ้านไหน เขาจะนำหนังสือที่เต็มไปด้วยเรื่องราวผ่านจินตนาการของเขาเองเดินทางไปด้วยเสมอ และสิ่งที่เขาฝันอยากจะได้จากวิล พี่ชายก็คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจให้เขาสามารถจัดการกับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาด้วยตัวเอง
ปมปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องที่รักกันมากคู่นี้จึงเป็นเรื่องของการไม่เชื่อมั่นในตัวน้องชายของวิล และเรื่องของความต้องการการยอมรับของเจค นั่นเอง
จุดอ่อนในความสัมพันธ์ของทั้งคู่สร้างความอึดอัดใจให้กับคนดูได้ไม่น้อย ซึ่งท้ายสุดแล้วหนังก็คลายปมออกอย่างหมดจด โดยตอนหนึ่งของหนังสร้างบทเรียนให้วิลล์ได้รู้ว่า ความเป็นนักฝันของเจคนั้นไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระเสียทีเดียว และเพราะเขาลองเชื่อในแนวทางแก้ปัญหาของเจคในครั้งนี้ จึงทำให้ทั้งเขาและเจครอดตายแถมยังคลายปริศนาป่าลึกลับได้อีกด้วย
งานนี้ 2 พี่น้องได้ทั้งขึ้นทั้งล่องคือ นอกจากจะพยุงชื่อเสียงความเป็นผู้ทรงเวทย์ได้แล้ว ยังทำให้ทั้งสองเข้าใจกันมากขึ้นอีกด้วย
วิลล์ พี่ผู้ห่วงใยน้องก็เข้าใจในที่สุดว่า น้องชายของเขามีความสามารถ (คนละอย่างกับเขา) มากพอที่จะแก้ปัญหาใดๆ ที่เกิดขึ้น โดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปอุ้มหรือพยุงน้องไว้ตลอดเวลา
ส่วนเจค นอกจากจะมีความมั่นใจว่าโลกแห่งจินตนาการที่เขาปักใจเชื่อนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตจริงของเขาได้แล้ว เขายังรับรู้อีกว่า การที่วิลล์ไม่เชื่อในความคิดเห็นตลอดจนการตัดสินใจของเขานั้นเป็นเพราะเหตุผลเดียวที่เขาเองก็หาเหตุผลใดๆ มาแย้งได้ลำบากเหลือเกิน ก็ด้วยเหตุผลของวิลล์นั้นคือ ความรัก ตัวเดียวเลยจริงๆ
บางทีปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ก็เป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขา หากเราไม่เบิกตาเบิกใจมองมันด้วยสายตาแห่งความเข้าใจก็ยากเหลือเกินที่จะผ่านพ้นมันไปได้ ซึ่งสายตาแห่งความเข้าใจนั้นก็ยืนอยู่บนบรรทัดฐานของความเชื่อใจ, เชื่อในความศักยภาพและความสามารถของอีกฝ่าย, เชื่อในความถนัดและแนวทางในการแก้ปัญหาของแต่ละคน...ยังมีอย่างอื่นอีกมากมายจิปาถะ
http://lelievre.olivier.free.fr/image/the_brothers_grimm.jpg
อยู่ที่ว่า...เราจะเปิดใจเชื่อในตัวอีกฝ่ายได้แค่ไหน
...ยังไงก็อย่าปล่อยให้หลายสิ่งหลายอย่างสายเกินไป ลองเชื่อในตัวใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเองสักครั้ง ไม่แน่ว่า ปัญหาความสัมพันธ์ที่คุณกำลังเผชิญอยู่อาจคลี่คลายได้โดยง่ายแสนง่าย
----------------------------------------------------------------------------------