Weekly Music Review (1) Enlighten : เพื่อชีวิตรสฮาร์ดคอร์
คอลัมน์/ชุมชน
"เดี๋ยวนี้ไม่มีเพลงเพื่อชีวิตใหม่ๆ ให้ฟังเล้ย..."
ผมได้ยินบรรดาคอเพลงเพื่อชีวิตบ่นประโยคที่ว่านี้มานานหลายปีดีดัก...น่าจะตั้งแต่หลังจากการปรากฏตัวของพงษ์สิทธิ์ คำภีร์เห็นจะได้ และบรรดาเสียงบ่นนี่แหละ ที่พาคำถามอีกคำถามมาด้วยว่า "เพลงเพื่อชีวิตตายแล้วเหรอ"
มองในด้านหนึ่ง...มันก็คงจะจริงนะแหละครับ เพราะว่าเพลงถ้าเราจะมองงานเพื่อชีวิตในช่วงหลังๆ มานี้ เราก็ไม่พบว่ามีเพลงหรือศิลปินหน้าใหม่ๆ ที่ขึ้นมาสร้างความฮือฮาให้กับวงการเพลงได้ รวมทั้งบรรดาศิลปิน "ขาใหญ่" ทั้งหลาย (ผมหมายถึงศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนานนะครับ ไม่ได้หมายถึงศิลปินที่มีขนาดของขาใหญ่โตเกินมนุษย์แต่ประการใดJ) ก็ไม่สามารถรักษามาตรฐานของชื่อเสียงได้เหมือนแต่ก่อน
แต่ถ้ามองอีกด้าน...เราจะพบว่าเพลงที่มีเนื้อหาเข้าข่าย "เพื่อชีวิต" (สะท้อนสังคม, ให้กำลังใจ) มันก็อยู่ปะปนในกระแสเพลงร่วมสมัยอยู่นะแหละ แต่ด้วยเหตุผลทางแนวดนตรี หรือเหตุผลทางภาพลักษณ์ก็สุดจะคาดเดา ทำให้เพลงหรือศิลปินเหล่านั้นไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็น "เพื่อชีวิต"
อย่างเช่นอัลบั้มที่ผมจะหยิบมาประเดิมใน "Weekly Music Review" ในคราวนี้...
ผมกำลังพูดถึงอัลบั้ม Enlighten ของ Ebola ครับ...
(ภาพจาก http://www.warnermusic.co.th)
Ebola เป็นวงดนตรีในสายเมทัล ที่สร้างชื่อโดยเริ่มจากการเป็นวงดนตรีในแวดวงเมทัลใต้ดินมาก่อน (ถ้าจำไม่ผิด วงดนตรีวงนี้เคยร่วมงานกับคุณวสันต์ สิทธิเขตต์ ในอัลบั้ม "รัฐสภาตายแล้ว" ของคุณวสันต์มาก่อน) ก่อนค่อยๆ สั่งสมฝีมือและฐานความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะมีโอกาสทำงานกับสังกัดวอร์นเนอร์มิวสิคในอัลบั้ม "+pole-" อัลบั้มชุดที่แล้วที่พวกเขาปรับเพลงของเขาให้ฟังง่ายขึ้น (จากเดิมที่ร้องโดยใช้วิธีการ "สำราก" ก็ลดวิธีนั้นลงไป และเพิ่มส่วนของการร้องแบบปกติเข้ามามากขึ้น และเนื้อเพลงที่แต่เดิมวงนี้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ ก็หันมาใช้ภาษาไทยแทน) ทำให้เข้าถึงผู้ฟังได้มากขึ้น
อัลบั้ม Enlighten เป็นงานที่เดินตามรอยของอัลบั้มชุดที่แล้วอย่างชัดเจน เพราะสิ่งที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงในชุดที่แล้วนั้นปรากฏอย่างเด่นชัดขึ้น เช่น เสียงร้องแบบสำรากก็ถูกลดบทบาทเป็นเพียงตัวเสริมในเพลง และดนตรีก็ลดระดับความแรงของเพลงลงไปบ้าง (แต่ถ้าเทียบกับเพลงในตลาดกระแสหลัก เพลงของอีโบล่าก็ยังนับว่ายังเป็น "ของแข็ง" อยู่ดีนะแหละ ซึ่งวัดได้จากปฏิกิริยาของพี่ชายของผมที่ธรรมดาพี่แกฟังแต่ "คลื่นสีเขียว" ของค่ายเพลงแถวๆ อโศก...แกเดินผ่านมาแถวๆ ที่ผมกำลังฟังอัลบั้มชุดนี้พอดี...ปรากฏว่าแกทำหน้าหงุดหงิดเหมือนคนท้องผูก พร้อมๆ กับบ่นพึมพำอะไรก็ไม่รู้อยู่นานสองนาน J)
ในส่วนของเนื้อเพลงนั้น น่าจะทำให้อัลบั้มนี้เปลี่ยนชื่อเป็นอัลบั้ม "พลังแห่งชีวิต" ได้เลย...ถ้าทางวงเขาคิดจะเปลี่ยนนะครับ ;-)
ที่ผมพูดอย่างนั้นก็เพราะว่าเพลงเกือบทั้งหมดในอัลบั้มนี้มีเนื้อหาให้กำลังใจ และปลุกปลอบให้ต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิต ให้ความรู้สึกเหมือนมีเพื่อนหน้าตาโหดๆ มานั่งบิวต์ และให้กำลังใจอยู่แถวข้างๆ ตัวคุณทีเดียว
เพลงที่ตัวผมค่อนข้างชอบ น่าจะเป็นเพลง "กลับสู่จุดเริ่มต้น" ที่เป็นเพลงสำหรับบรรดา "คนขี้แพ้" ทั้งหลาย
"ทำไมฟ้า...สนุกอะไรหนักหนา
เจ็บปวดเท่าไรรู้บ้างรึเปล่า
โชคชะตา แต่อย่าเพิ่งดีใจ
จะบอกฟ้า...ได้โปรดจงจำเอาไว้
ไม่ว่าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ซักเท่าไร
แต่สักวันคงรู้กัน
คนบางคนเวลาพ่ายแพ้ ไม่เคยจะเดินกลับไปจุดนั้น เริ่มต้นอีกครั้ง
ไม่ว่าใครก็เคยพ่ายแพ้ แค่เดินกลับไปที่ตรงจุดนั้น เริ่มมันอีกครั้ง"
ผมฟังอัลบั้มนี้ทั้งอัลบั้มด้วยความรู้สึกคำนึงถึงเสียงบ่นที่ผมพูดเอาไว้ที่ข้างต้นบทความ...
ผมกำลังรู้สึกว่าตราบใดที่มนุษย์ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ผ่านดนตรีได้ ผมก็เชื่อว่า "เพลงเพื่อชีวิต" มันไม่ได้หายไปไหนหรอก
เพียงแค่เราไม่ติดภาพของบรรดาขุนพลเพลงเพื่อชีวิตรุ่นเก่าๆ และเชื่อว่าเพลงเพื่อชีวิตเป็นเพลงแบบไหนก็ได้...เท่านั้นเองครับ
หมายเหตุ : คุณสามารถลองฟังเพลงของอัลบั้มนี้แบบออนไลน์ได้ที่ http://www.icygang.com/jukebox/album_detail.php?album_id=231 ครับ