Skip to main content

รัฐมนตรี คิดได้ แต่ต้องคิดให้ตลอด

คอลัมน์/ชุมชน

 


 


เด็กซิ่ง  เด็กแก็งค์  เด็กมั่วสุม คือสิ่งที่สังคมทุกยุคต่างต้องเผชิญ


 


เด็กซิ่งเมื่อวันวาน วันนี้อาจเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณ หรือเป็นเจ้านายคุณ หรือเป็นรัฐมนตรีของคุณ หรือเป็นอาชญากร ขึ้นอยู่กับว่าสามารถผ่านพ้นวัยนั้นมาได้อย่างไร   ครอบครัว สังคม สามารถประคับประคองให้เยาวชนเหล่านี้ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างคุ้มค่าเพียงใด


 


ความคึกคะนอง ความท้าทายกฎระเบียบต่างๆ ความฮึกเหิมเมื่ออยู่กันเป็นกลุ่ม การใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่มีทางออกอื่นๆ ในการแก้ปัญหา เป็นวิถีชีวิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาเสมอ  เพียงแต่ว่าจะมีโอกาสแบบไหนมากกว่ากันระหว่างอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ชอบซิ่งด้วยกัน หรือในกลุ่มเพื่อนชอบเรียน ชอบอ่าน หรือเพียงแค่รวมกลุ่มดูหนังเดินห้างสรรพสินค้าด้วยกัน จะสังเกตเห็นว่าในสังคมหนึ่งๆ กลุ่มซิ่งจะมีจำนวนน้อยกว่า  ทำให้มองเห็นเด่นชัดและขัดหูขัดตาสังคมเป็นอย่างยิ่ง


 


การออกมาเสนอทางออกเพื่อแก้ปัญหาเด็กซิ่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวัฒนา เมืองสุข นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยินดี เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่กล้าออกมาเผชิญความจริงของสังคม  และเริ่มหาทางออกจากจุดของสถานการณ์นั้น


 


เมื่อเด็กชอบซิ่ง ชอบแข่งความเร็ว แต่ใช้สถานที่ผิดคือไปใช้ถนนที่สัญจรไปมาเป็นที่แข่งรถ ย่อมเป็นปัญหาทั้งของคนขับขี่ยวดยานและสำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างทางที่ต้องพบความน่ารำคาญทั้งเสียง และความหวาดเสียวทางสายตา และบางครั้งต้องพบเห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วย ท่านรัฐมนตรีจึงเสนอทางออกด้วยการจัดหาสนามแข่งรถแล้วเปิดโอกาสให้เด็กเหล่านี้ไปแข่งกันฟรี โดยมีหลักการของการแข่งความเร็วที่ต้องป้องกันอุบัติเหตุ ด้วยการสวมเสื้อผ้าอุปกรณ์ป้องกันอันตราย สวมหมวกนิรภัย มีกฎกติกามารยาทในการแข่งขัน ซึ่งก็ได้ดำเนินการไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการขอให้ภาคเอกชนเจ้าของสนามแข่งรถเปิดฟรีให้เด็กเหล่านี้ไปซิ่งกัน แต่ผลที่ออกมายังไม่เป็นที่พอใจทั้งของสังคมและของเด็กเอง เพราะมันผิดวิสัยของเด็กซิ่งที่ต้องการเพียงแสดงให้เห็นว่าตนเองกล้าเสี่ยง  กระทำการต่างๆ เพื่อสนองอารมณ์ความรู้สึกของตนเองและของกลุ่มเพื่อน การซิ่งรถทำคนเดียวไม่สนุกอยู่แล้ว


 


การคิดได้ว่าเด็กซิ่งต้องการที่ยืนในสังคม และเริ่มหาทางออกด้วยการพูดคุยเจรจาสื่อสารกับกลุ่มเด็กโดยตรงนับเป็นสิ่งที่ดี แต่การจัดหาที่แข่งรถให้ไม่ใช่หนทางเดียวในการแก้สถานการณ์นี้ได้ สิ่งที่สำคัญในเรื่องนี้คือการปรับเปลี่ยนทัศนคติเพื่อเข้าใจชีวิตวัยรุ่น การมีทัศนคติเชิงลบกับเด็กเหล่านี้ย่อมแสดงออกมาเป็นแนวทางแก้ปัญหาแบบลบด้วย เช่น การจัดการแบบรุนแรงกับเด็กเหล่านี้ ทั้งเด็กซิ่ง เด็กแก็งค์ ที่ตำรวจหลายครั้งดำเนินการจับกุมอย่างรุนแรง แม้แต่ใช้การสร้างอาสาสมัครวัยรุ่นด้วยกันออกมาไล่ล่าจับกัน หรือการที่สังคมมองเด็กกลุ่มนี้เป็นตัวป่วน ตัวสร้างปัญหา ทางแก้ที่ดีคือกำจัดให้หมดไปจากสังคมหรือให้พ้นไปจากสายตา เหล่านี้คือการกีดกันเด็กเหล่านี้ให้ออกไปนอกสังคม ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความท้าทายที่จะกระทำการแหกกฎเกณฑ์ของสังคมมากขึ้น


 


การคิดให้ตลอดจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายทั้งท่านรัฐมนตรีและสังคม การพิจารณาหาทางออกโดยอาศัยกฎหมาย กฎระเบียบ อย่างเช่นไม่จับเด็กที่ปรับแต่งเสียงรถให้ดัง แต่ไปจับร้านที่ขายอุปกรณ์ตกแต่งเหล่านี้แทน ก็เป็นความพยายามที่ดี หากผู้มีหน้าที่จับจะไม่รับสินบนจากร้านค้าเหล่านี้จนละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือให้ตำรวจไปคอยไล่จับร้านเหล่านี้ก็ดูจะเป็นภาระที่มากเกินจำเป็นจนมิอาจทำภาระกิจอื่นๆ ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนด้านอื่นๆ ควรต้องมีการสร้างความสำนึกร่วมรับผิดชอบของสังคมด้วยเพื่อการป้องกันและควบคุมปัญหาในระยะยาว


 


ในกรณีนี้พ่อแม่ควรต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหากลูกไปสร้างความเดือดร้อนในสังคม เช่นเดียวกันสังคมคือทุกคนต้องร่วมรับรู้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการมีทัศนคติที่เปิดกว้างว่า วัยรุ่นเป็นทรัพยากรที่สำคัญของสังคม ไม่ว่าจะเป็นลูกของครอบครัวใด เป็นเด็กซิ่ง  เด็กแก็งค์  เด็กเรียน เด็กธรรมดาๆ การร่วมกันสอดส่องสถานที่ หรือถนนที่กลุ่มเด็กเหล่านี้ยึดเป็นแหล่งซิ่ง เพื่อแจ้งให้มีการเฝ้าระวังและป้องปราม หรือทำให้เด็กไม่กล้าใช้ถนนซิ่ง การร่วมการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องของสังคม จะทำให้เด็กซิ่งมีพื้นที่น้อยลงที่จะประชันความเร็ว นี่เป็นเพียงการป้องปราม


 


ขณะเดียวกันต้องมีการรณรงค์ให้สังคมสร้างพื้นที่อื่นๆ ให้เด็กวัยรุ่นด้วย เช่น การปิดถนนบางเส้นในวันหยุด แล้วเปิดโอกาสให้วัยรุ่นมาใช้ถนนนี้อย่างอิสระเสรี จะแสดงออกอย่างไรก็ได้  แต่งตัวอย่างไรก็ได้ เล่นดนตรีเสียงดังขนาดไหนก็ได้ (น่าจะเป็นถนนที่เป็นย่านธุรกิจ ปิดวันเสาร์อาทิตย์) เพื่อให้เด็กซิ่ง และเด็กอื่นๆ มีที่ทางในการแสดงออก เมื่อถูกป้องปรามการใช้สถานที่อื่นๆ ก็ย่อมเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะมาแสดงออกในถนนเส้นนี้ 


 


กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ต้องเป็นเจ้าภาพในการพัฒนาวัยรุ่นให้มีโอกาสแสดงออกมากขึ้น การใช้พลังที่มีเหลือเฟือให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม การจัดโครงการอาสาสมัครเพื่อสังคม โดยรับสมัครวัยรุ่นทั่วประเทศให้ทำงานอาสาสมัครต่างๆ ตามความสนใจ ตามความสามารถ เช่น การไปรับไปส่งผู้ป่วยเรื้อรังไปโรงพยาบาล หรือไปทำธุระส่วนตัว การไปช่วยเหลือผู้พิการ การไปทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ การออกไปสอนหนังสือเด็ก เป็นต้น โดยให้การอาสาสมัครเหล่านี้สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของการได้รับคะแนนในการเรียนได้ด้วย เด็กทุกคนที่ทำงานอาสาสมัครจึงจะจบหลักสูตร ทั้งนี้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคมที่จะรับอาสาสมัครเข้าร่วมงาน หรือให้ฝึกงานด้วย รวมถึงสังคม ครอบครัว พ่อแม่ ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อวัยรุ่น การเปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้ทำงานที่อยากอาสาสมัคร ได้มีชีวิตที่อิสระเสรีในพื้นที่ที่กำหนด


 


นอกจากนี้ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ควรเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการจัดสร้าง จัดหา หรือประสานงานให้องค์กรท้องถิ่น ดำเนินการจัดสร้างแหล่งนันทนาการสำหรับวัยรุ่น สวนสาธารณะสำหรับปั่นจักรยาน เล่นสเก็ต ออกกำลัง จัดเทศกาลแข่งขันต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้มาแสดงออก ทั้งด้านดนตรี กีฬา และการแข่งความเร็วต่างๆ ที่มีการดูแลความปลอดภัยให้ตนเองด้วย เพื่อเริ่มปลูกฝังค่านิยมในการยอมรับและเคารพในตัวตนของตนเอง การดูแลชีวิตของตนเองให้ปลอดภัย การมีส่วนร่วมและตระหนักว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม การได้ใช้พลังความสามารถของตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม หากสังคมเห็นว่าวัยรุ่นทุกคนเป็นคนที่มีค่า ย่อมต้องออกมาช่วยกันดูแล ไม่ว่าเด็กนั้นจะเป็นลูกของตนเองหรือลูกของใคร 


 


ขอเป็นกำลังใจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ยังมีพลังที่จะคิดต่อไปให้ตลอดครบวงจรในการแก้ปัญหาเด็กซิ่ง  และวัยรุ่นอื่นๆ ที่ท้าทายทั้งความสามารถของรัฐมนตรีและของสังคมที่หวังจะเป็นสังคมแห่งสุขภาวะ