"เสียง..คนหลังป้อมมหากาฬ" ฉบับที่ 1
คอลัมน์/ชุมชน
ชุมชนคลองถม ชุมชนลาดพร้าว ชุมชนเพ็ชรคลองจั่น ชุมชนศิริอำมาตย์ ชุมชนโรงสูบแยกเกษตร ชุมชนบางเขน ชุมชนเครือข่ายพระราม3 ชุมชนวัดเทพธิดา ชุมชนเลื่อนฤทธิ์ ชุมชนโรงหวาย ชุมชนหลวงวิจิตร ชุมชนวัดราชนัดดา ชุมชนวัดสระเกศ ชุมชนภูเขาทอง และ........อีกหลายชุมชนที่กำลังจะถูกไล่รื้อ
"ชุมชนป้อมมหากาฬ" เป็นหนึ่งในชุมชนที่ประสบปัญหาการไล่รื้อ เพราะถูกเวนคืนที่ดินจากกรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เรื่องราวการต่อสู้ของพวกเขายาวนานถึง 13 ปี มีบทเรียนหลายต่อหลายบทจากหลังป้อมที่น่าเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจถึงกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และกระบวนการจัดการของราชการท้องถิ่นที่ขาดความเข้าใจในชีวิตของผู้คนที่เป็นพลเมือง
ทั้งนี้ ชุมชนป้อมมหากาฬได้เสนอถึงการทำงานร่วมกันกับกรุงเทพมหานคร หาก กทม. ต้องการคนดูแลความปลอดภัยในสวน ชุมชนจะดูแลให้ หากต้องการคนปลูกต้นไม้ ชุมชนจะปลูกให้ โดยขอแบ่งปันพื้นที่เพียง 1 ไร่เศษจากพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 5 ไร่ การเรียกร้องที่ผ่านมาของชุมชนได้นำมาสู่การเปิดเจรจาหลายครั้ง รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อมาแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชนป้อมมหากาฬ จนมีมติของคณะกรรมการปรองดองที่ระบุว่าจะทำการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ ตั้งแต่เดือนตุลาคม จนกว่าจะแล้วเสร็จ
สิ่งหนึ่งที่ชาวชุมชนอยากจะทวงถามจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน คือ คำสัญญาก่อนได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯ ที่กล่าวถึงการไม่ไล่รื้อชุมชนใดๆ ตลอดวาระ 4 ปี รวมทั้งวิสัยทัศน์ที่ประสานความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ในการจัดการชุมชน ในรูปแบบโครงการบ้านมั่นคง โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการที่อยู่อาศัยเดิม .............................................. จะมีโอกาสเป็นจริงได้หรือไม่??
พี่น้องชุมชนป้อมมหากาฬได้แต่หวังว่า การลงพื้นที่ของผู้ว่าฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เมื่อวันพุธที่ 24 สิงหาคม 2548 ที่ผ่านมาจะทำให้ผู้ว่าฯ เข้าใจถึงวิถีชีวิตผู้คนหลังป้อมมหากาฬมากขึ้น ...และจะไม่กระทำการใดๆ ที่จะเบียดไล่รื้อชุมชนให้ต้องไปเผชิญกับพื้นที่ใหม่ที่ห่างไกลจากแหล่งทำมาหากิน ห่างไกลจากโรงเรียนของลูกหลาน และวิถีชีวิตดั่งเดิมของชุมชน ........พี่น้องชุมชนป้อมมหากาฬรู้สึกขอบคุณจากใจจริงที่ท่านลงมารับรู้ถึงปัญหาด้วยตัวท่านเอง....!!
เพราะเราไม่อยากให้ .....รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิทธิและการมีส่วนรวมของชุมชน ประชาชน และ....อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางด้านวัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจ ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีและทำสัตยาบันเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1999 นั้นเป็นเพียงลายลักษณ์อักษรที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในสังคม
....การจัดการเมืองจึงเป็นเรื่องของทุกคน และเรากำลังเผชิญปัญหาร่วมกัน
ปัญหาของสังคมที่ถูกรุกคืบจัดการในนามของ "ส่วนรวม"