Skip to main content

ผืนดินของเรา ๓ : ดอกไม้ของแม่

คอลัมน์/ชุมชน


ฉันยังจำได้ขึ้นใจ


"เวลาจะปลูกดอกไม้ ให้ใช้หัวใจปลูก มันไม่เกี่ยวกับมือร้อนหรือมือเย็น"


 


แม่เคยพูดแบบนี้ เวลาใช้เสียมขุดลงไปบนผืนดินสีดำให้เป็นหลุม


เมื่อค่อยๆ หย่อนต้นกล้าไม้ลงไป จากนั้น นับวัน นับเดือน


แม่บอกให้รอคอยดอกไม้บาน


ฉันรับรู้ว่ามันมหัศจรรย์ ยามผืนดินตอบรับกับหัวใจของเรา


แม่มีความเชื่อเสมอว่า ดอกไม้คือของงดงาม เครื่องประดับที่ทำให้บ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่


เมื่อครั้งที่ยังก่อสร้างบ้านไม่เสร็จ บนหน้าต่างกระดาษชั่วคราว


มีดอกคุณนายตื่นสาย บานสะพรั่งอยู่ในกระป๋องพลาสติกเก่าๆ แขวนเอาไว้ตรงนั้น


 


บริเวณรั้วไม้ไผ่ ที่พ่อกับแม่ช่วยกันทำกั้นผืนดินเขตบ้าน


แม่ปลูกพวงแสดเอาไว้ เมื่อมันเติบโตเลื้อยไหลออกใบปกคลุมรั้ว


เห็นดอกสีส้ม สลับกับสีม่วงของดอกกระเทียมเถา


ฉันเรียกแบบนี้และรู้สึกว่ามันมีกลิ่นเหม็นเหมือนแหนม แม่เอาแต่หัวเราะ


บอกว่าแค่ออกดอกสวยงามขนาดนี้ ก็นับว่าดีแล้ว


กลิ่นไม่หอมเท่าไหร่ ก็ให้อภัยกันบ้าง


 


ตลอดชีวิตที่เติบโตมา บนผืนดินที่เป็นของเราและเป็นของคนอื่น


ทุกพื้นที่อาศัย แม่ใช้ "ดอกไม้" เป็นเพื่อน  แม่ปลูกดอกไม้เกือบทุกอย่าง เท่าที่หาพันธุ์มาได้


บ้านของเราไม่เคยมีกระถางสวยๆ ที่ปั้นจากดินเผา


ที่อยู่ของต้นไม้ นอกจากผืนดินแล้ว เราใช้กะละมังเก่าๆ ที่มีรอยแตก


ใช้ถังน้ำที่มีรูรั่ว กระป๋องสีที่ขอมาจากบ้านคนก่อสร้าง


ไม่เว้นกระทั่งถุงพลาสติกเหลือใช้ ลังไม้ ลังกระดาษ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนั้นคืออุปกรณ์การจัดสวน


และสวนของแม่ไม่เคยเงียบเหงาหรือว่างเปล่า


 


ฉันเรียนรู้จากแม่เสมอ ว่าฤดูกาลไหน ดอกไม้อะไรที่เราควรปลูก


ชีวิตตลอดปีที่ไม่เคยขาดดอกไม้ ได้เห็นและเรียนรู้การเพาะต้นกล้า ตัดตา ตอนกิ่ง


การผสมดอกกุหลาบให้มีหลายๆ สีในต้นเดียว


แม่ปลูกทั้งพริก ผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ และเพียรขอกล้าดอกไม้จากคนรู้จักที่อยู่ในเมือง


และบางฤดูกาล ฉันได้มองเห็น ดอกปีกผีเสื้อสีสันฉูดฉาด แปลกใจ ตื่นใจ


บานสะพรั่งอยู่ในกะละมังเว้าแหว่งสีซีด


 


ดอกไม้พันธุ์ฝรั่งที่แสนศิวิไลซ์จากที่อื่น งดงามอยู่บนผืนดินเล็กๆ ของเรา


พร้อมแววตาภาคภูมิใจของแม่ แม้จะรู้ว่าดอกไม้ชนิดนี้ มีอายุสั้น ร่วงโรยง่าย


คล้ายความฝันหลายอย่างในชีวิตของแม่ ที่อยู่ไม่นาน


 


นับตั้งแต่แต่งงานกับพ่อ ซึ่งเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ


และห่างเหินจากตาเพราะแม่เลี้ยงของแม่เป็นคนใจร้ายชอบทารุณแม่


แม่ปล่อยชีวิตไปตามฤดูกาล ทำงานหนัก สวมเสื้อผ้าราคาถูก


ดูแลลูกๆ ของตัวเองและลูกติดของพ่ออีกหลายชีวิต


พร้อมๆ กับการปลูกดอกไม้ทุกวัน จวบจนกระทั่งที่แม่ได้ตายจากไป


 


คุณตาแก่ๆ ของฉันถือดอกไม้มาไหว้งานศพ เป็นดอกไม้จันจากซังข้าวโพดที่เขาทำขาย


และหลังจากนั้นไม่นาน สวนดอกไม้ของแม่ก็ถูกรื้อถอนทิ้งเมื่อพ่อแต่งงานใหม่


เป็นวันเดียวกับที่ฉันออกจากบ้านมา และสัญญากับตัวเองว่า สักวันฉันจะกลับมาปลูกดอกไม้ให้แม่


 


.............................................................


 


ผ่านเวลาไปสิบกว่าปีแล้ว


หางนกยูง, ต้นหนวดแมว, แกลดิโอลัส, ดอกหงอนไก่ และหลายพันธุ์พืชไม้


ที่ฉันไม่เคยละสายตาเมื่อได้เห็น บนพื้นที่เล็กๆ ในบ้านเช่าไม่มีผืนดิน


ไม่สามารถปลูกดอกไม้ได้ทุกอย่าง เท่าที่ทำได้คือการปลูกดอกไม้ไว้ในกระถาง


เมื่อรดน้ำทุกวันจนต้นแก้วมีดอก อัญชันเติบโตอวดสีน้ำเงินบนกลีบ


ดอกชบาสีแดงสด ทุกอย่างดูจะพร้อมใจกันบานรับกับวันแดดใส


หลังฤดูฝนหนักที่เพิ่งผ่านพ้นไป


 


ฉันเปิดเพลงเบาๆ ให้คลอเคลียไปกับสายลมยามเช้า


ดอกไม้เหล่านั้นเอนไหวไปมา เหมือนคำเอ่ยทักทายจากใครสักคน


ฉันคิดถึงแม่ และขอบคุณชีวิตวัยเยาว์ ที่ทำให้เรามีของขวัญแก่ชีวิต แม้ยามอาศัยอยู่บนผืนดินอื่น


ฉันเพียงแค่เสียดาย ที่ได้มองเห็นความงามเหล่านั้น


เพียงลำพัง.