Skip to main content

การศึกษามรณะ ตอนที่ 1

บ้านเราเป็นประเทศที่เรียนหนังสือกันถึงตายได้      ไม่ถูกฆ่าตายกลางทางก็ฆ่าตัวตาย       วันหนึ่งๆพวกเราจะส่งลูกไปโรงเรียนทำไมกัน


 


ไม่เพียงยิ่งเรียนยิ่งโง่     แต่เรียนๆ ไปก็ตายได้อีกต่างหาก  เป็นประเทศที่มีการศึกษาประเภทเสียกับเสียจริงๆ


 


กรณีเด็กมัธยมปลายรายหนึ่งฆ่าตัวตายเพราะเกรดไม่ถึง 3  มีประเด็นการศึกษาน่าพูดคุยกันมากมายหลายเรื่องทีเดียว   สมควรที่จะได้พูดคุยกันให้ครบทุกประเด็นเพราะเป็นกรณีตัวอย่างที่รวบรวมหลายๆ เรื่องเอาไว้พร้อมกัน   รวมทั้งเชื่อได้ว่า อีกหลายบ้านก็มีประเด็นต่างๆ เหล่านี้ด้วยเช่นกัน  


 


ที่จะไม่คุยคือทำไมเด็กจึงฆ่าตัวตาย      เพราะผมไม่มีข้อมูลมากพอและไม่อยู่ในฐานะที่ควรทำเช่นนั้น   


 


ก่อนที่จะคุยกันในรายละเอียดของประเด็นต่างๆ ตามที่ปรากฏในข่าว    ย้อนกลับมาที่คำถาม ทำไมพวกเราต้องส่งลูกไปโรงเรียน    เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าอย่างไรพวกเราก็หลีกเลี่ยงชะตากรรมเหล่านี้ไม่พ้น    ทั้งๆ ที่เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ายิ่งเรียนยิ่งโง่กันเกือบทั้งนั้น    มิหนำซ้ำตอนนี้ยังเรียนไปตายไปได้อีกด้วย


 


คำตอบคือ "ถ้าเรียนเก่งแล้วรวยได้"


 


เราไม่ควรหลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ครับ       ถึงแม้ว่ามีความหวังดี     มีความพยายามที่จะบอกกล่าวพ่อแม่อยู่เสมอว่าควรส่งเสริมลูกให้เรียนหนังสือตามความถนัด    เรียนให้มีความสุข     เรียนเพื่อพัฒนาตนเอง    แต่ถ้อยคำเหล่านี้ก็เป็นได้เพียงถ้อยคำประโลมโลกย์    ที่จริงแล้วแต่ละบ้านส่งลูกไปเรียนก็เพื่อให้รวย    โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคนชั้นกลาง


 


ยกตัวอย่างชีวิตของผมเอง       จากเด็กนักเรียนช่วยพ่อแม่ขายของชำกลายเป็นหมอรักษาคน      เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ได้มาเพราะเป็นผู้ชนะในการศึกษา      การเป็นผู้ชนะในการศึกษาทำให้ชนะเดิมพันก้อนใหญ่      สถานะทางสังคม และเศรษฐานะเขยิบสูงขึ้นหลายสิบขั้น    คุณพ่อคุณแม่มีความสุข นอนตายตาหลับ


 


พ่อแม่ที่ไหนจะไม่เอา     พ่อแม่ที่ไหนจะไม่ส่งลูกไปโรงเรียนเพื่อชิงรางวัลก้อนนี้   พ่อแม่ที่ไหนที่รักลูกจะไม่อยากเห็นลูกมีสถานะและเศรษฐานะที่สูงขึ้น    รุ่นต่อรุ่นได้พิสูจน์แล้วว่าไปโรงเรียนก็ต้องชนะ  หากชนะเมื่อไรผลตอบแทนคุ้มมหาคุ้ม    


 


ผมไม่คิดว่าใครมีสิทธิตำหนิความรักของพ่อแม่ในเงื่อนไขการศึกษาเช่นนี้ได้  แต่ชัยชนะนั้นมักได้มาด้วยการทำลายคู่ต่อสู้     สมัยที่ผมเรียนมัธยม ผมสังเกตว่าเด็กเรียนเก่งมักเป็นเด็กที่เห็นแก่ตัว      ไม่ใส่ใจคนรอบข้าง  ไม่ใส่ใจสังคม  ไม่ใส่ใจเด็กที่เรียนไม่เก่ง และไม่เคารพครูที่สอนไม่เก่ง     เด็กเรียนเก่งมักจะสนใจเฉพาะครูที่สอนเก่ง  ชื่นชมและคลั่งไคล้ครูที่มีทิปส์การตอบข้อสอบเด็ด ๆ   นิยมซื้อหาคู่มือสอบดีๆ มาเก็บไว้คนเดียวโดยไม่แนะนำเพื่อน     


 


เด็กเรียนเก่งเหล่านี้แหละครับที่ชนะการสอบเอ็นทรานซ์แล้วร่ำรวยไปก่อนเป็นพวกแรก ๆ


 


เวลาผ่านไปสามสิบปี      การศึกษาในโรงเรียนแทบไม่มีอะไรเหลือ    ใครไม่เรียนพิเศษมีแต่ตายกับตายลูกเดียว     มีกรณีตัวอย่างที่เป็นตัวเป็นๆ ให้ดูได้มากมายว่าการอ่านหนังสือทุกวันอยู่กับบ้านนั้นไม่สามารถทำเกรดได้   อยากได้เกรดสี่ต้องไปเรียนพิเศษ


 


เด็กเรียนเก่งสมัยนี้ยังคงมีพฤติกรรมไม่ต่างจากคนรุ่นก่อน     มักจะเห็นแก่ตัว    ไม่ใส่ใจคนรอบข้าง    ไม่ใส่ใจสังคม    ไม่ใส่ใจเด็กที่เรียนไม่เก่งและไม่เคารพครูที่สอนไม่เก่ง      เด็กเรียนเก่งนิยมเสาะหาครูกวดวิชาเก่งๆ แล้วแอบไปเรียนคนเดียวโดยไม่บอกเพื่อน    ไม่เพียงตัวเด็กจะไม่บอกเพื่อน  คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่บอกเพื่อนด้วย    เข้าตำราสอนลูกให้รวยจริงๆ เลย


 


เด็กเรียนเก่งสมัยนี้มักจะเป็นลูกคนมีเงิน    มีแต่คนมีเงินจึงมีปัญญาส่งลูกไปเรียนพิเศษได้ครบทุกวิชา  คนมีเงินสมัยนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ที่แท้ก็คือผู้ชนะในการสอบเอ็นทรานซ์เมื่อสามสิบปีก่อน


 


ทั้งหมดนี้คือการศึกษาบ้านเรา


 


ถามว่าที่ว่าเก่งนั้นเก่งอะไร      คำตอบคือเก่งทำเกรดสี่และเก่งด้านเห็นแก่ตัว       ถามว่าจบมาแล้วทำอะไรให้สังคมได้บ้าง      คำตอบคือสภาพสังคมที่เห็นๆ กันอยู่    เป็นหลักฐานว่าเด็กเรียนเก่งทั้งหลายที่ระบบการศึกษาผลิตออกมานั้นไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้แก่สังคมมากนัก  นอกจากทำให้ครอบครัวตัวเองรวยขึ้น


 


ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้โครงสร้างการศึกษาที่พิกลพิการและในนามแห่งความรักลูกของพ่อแม่ทุกคน


 


สรุปสำหรับวันนี้คืออย่างไรๆ พ่อแม่ที่รักลูกทั้งหลายก็ยังต้องส่งลูกไปโรงเรียน ไปเรียนให้ชนะ      ชนะแล้วฐานะจะได้ดีขึ้นครับ  


 


ตอนต่อไป     ลงรายละเอียดการศึกษากระทำอะไรต่อเหยื่อบ้าง