Skip to main content

จดหมายถึงไอ้ปลา ว่าด้วยเรื่องเพื่อนสนิท (อีกแว้ว…)

คอลัมน์/ชุมชน

 


 


ยี่สิบสี่เศษหนึ่งส่วนหก


 


สวัสดีว่ะปลา


 


แกและเพื่อนๆ ที่ประชาไทเป็นยังไงบ้างวะ ส่วนฉันก็สบายดี แม้ว่าจะจนเสียหน่อย แต่ว่าเรื่องอื่นๆ ก็นับว่าไม่เลวเชียวล่ะ


 


แกอาจจะสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆ ฉันถึงเขียนจดหมายฉบับนี้มาหาแก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วฉันก็เจอแกทางหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว แต่ที่เขียนมาเนี่ยก็เพราะว่าฉันเพิ่งไปดู "เพื่อนสนิท" – หนังที่ทำเอาใครหลายๆ คนอยากไปเรียนมช. กับอยากไปตกจากดาดฟ้าเรือที่เกาะพะงันกันเป็นแถบๆ แถมยังทำให้ใครหลายคนหันมาเขียนจดหมายกันใหญ่ ดูอย่างคุณจันทร์กระพ้อ เจ้าของชุมชนโรงหนังประชาไทแห่งนี้ยังเอากับเขาด้วยเลย


 


ฉันเองก็อดรนทนไม่ได้ เลยเอากับเขาเสียหน่อย.... J


 


และที่ฉันตัดสินใจจะเขียนจดหมายหาแก แทนที่จะเขียนหาคนอื่นในออฟฟิศก็ด้วยเหตุผลง่ายๆ นะ...กูเห็นดากานดาในหนังแล้วคิดถึงมึงว่ะ


 


แต่ที่ฉันพูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าแกหน้าตาเหมือนเขาแน่ๆ (ฉันพยายามใช้วิธีการมองโลกอย่างแง่ดีที่สุด รวมทั้งความพยายามเข้าข้างแกอย่างมากที่สุดแล้ว ก็ยังไม่สามารถมองแกให้คล้ายดากานดาได้เลยว่ะ...ต้องขอโทษแกจริงๆ :-P) แต่ฉันกลับเห็นผู้หญิงที่สามารถตีซี้กับเพื่อนหนุ่มได้แบบไม่ห่วงฟอร์มทั้งที่ตัวดากานดาและตัวแกว่ะ


 


อีกเหตุผลนึง...ฉันขอพูดแบบแมนๆ เลยนะว่าตอนที่ฉันไปใช้ชีวิตแถวๆ ออฟฟิศประชาไทเนี่ย ฉันก็เคยแอบชอบแกในบางห้วงอยู่เหมือนกัน แต่คงจะเป็นโชคดีของทั้งฉันและแกละกระมัง ที่ฉันบังเอิญไหวตัวทัน และมาพบกับแฟนคนปัจจุบันของฉัน


 


แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ฉันก็ยังรักแกอยู่นะ


 


พูดอย่างนี้แกอาจจะงง ว่าฉันก็มีแฟนอยู่แล้ว ทำไมถึงยังกล้ามาบอกรักแกอีก (แถมในขณะที่ฉันพูดอยู่ตอนนี้ "เธอคนนั้น" ของฉันกำลังบิดหูของฉันจนหูฉันกลายเป็นเกลียวไปเสียแล้ว T___T) แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ คำว่า "รัก" มันไม่ได้มีมิติเพียงแค่ความรักแบบชาย – หญิง อันมีแนวโน้มไปสู่การสร้างครอบครัวใหม่ และขยายเผ่าพันธุ์ในอนาคต (จริงๆ ฉันพิมพ์ให้เยิ่นเย้อไปอย่างงั้นแหละ เพราะจริงๆ มันใช้คำว่า "ความรักแบบชู้สาว" ก็ได้ แต่ฉันว่าคำมันไม่สวยเท่าไหร่ว่ะ)


 


ฉันรู้สึกว่า "ความรัก" มันหมายถึงความรู้สึกดีๆ ที่เรามอบให้กับสิ่งรอบข้าง ความรักมันไม่ได้มีมิติแค่เรื่องพรรค์นั้นอย่างเดียว ในชีวิตของเรามันมี "ความรัก" ที่เรียงรายอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด ทั้งรักพ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อนฝูง แฟน พนักงานเซเว่น สภาพแวดล้อม โลก หรือแม้กระทั่งหมาที่บ้านก็เถอะ...แต่อะไรก็ไม่รู้ที่ดลใจให้คนเรามองความรักเพียงแค่เรื่องความรักแบบแฟนเท่านั้น


 


มันเลยทำให้ฉันคิดถึงความเห็นในกระทู้ๆ หนึ่ง ที่ฉันได้อ่านในเวปพันทิป ว่าเขารู้สึกว่าที่ไข่ย้อย – พระเอกของเราตัดสินใจกลับไปหาสาวคนรักใหม่ที่เกาะพะงัน เพราะไข่ย้อยตัดสินใจจะ "เลิก" รักดากานดาแล้ว


 


แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นว่ะ


 


ฉันกลับคิดว่าไข่ย้อยก็ยังคง "รัก" ดากานดาอยู่เหมือนเดิม แต่ว่าเขาเลือกที่จะ "รัก" ดากานดาอย่างเพื่อน ซึ่งน่าจะเป็นความรักที่ยั่งยืน และมีความสุขโดยไม่ต้องคาดหวัง ในขณะที่เรื่องของเขากับนุ้ย – สาวพะงันคนนั้น คงตอบได้ว่าพระเอกของเราคงจะอยู่ในขั้นตอนของการ "เปิดประตู" ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ที่อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าการคิดแบบเกินเพื่อนกับดากานดา ที่ไม่ยักกะสมหวังเสียที


 


ฉันเชื่อว่า เรื่องรักของตัวละครทั้งสามตัวในเรื่อง เป็นความรักแบบที่ทุกคนสมหวัง แม้อาจมีความเจ็บปวดบ้างในตอนแรก แต่ก็เป็นความเจ็บเหมือนกับที่เราไปให้หมอฟันกรอฟันนะแหละ ที่พอเรารักษาฟันหายแล้ว มันก็หายดีแหละ


 


ฉันคงขอจบจดหมายฉบับนี้ดื้อๆ เสียแบบนี้แหละ ฝากความรักไปให้ชาวประชาไททุกคนด้วย ส่วนฉันก็คงยังรักพ่อ แม่ พี่ น้อง คนรักของฉัน และสิ่งรอบตัวฉันอยู่นะแหละ


 


ฉันรักแกว่ะ


ยี่สิบสี่เศษหนึ่งส่วนหก