เพื่อนร่วมชาติของฉัน
คอลัมน์/ชุมชน
ฤดูฝนย่างกรายมาแล้วเพื่อนร่วมชาติของฉัน
มันทำให้เราออกไปตัดยางไม่ได้
และการทำมาหากินได้ชะงักลงแล้ว
ทว่าเม็ดฝนบอบบางได้นำความทุกข์เศร้าและความกลัวตกลงมาด้วย
ชีวิตที่เงียบสงบและการทำมาหากินอย่างปกติสุขจบลงนานแล้ว
การฆ่าได้นำบางสิ่งครอบคลุมภูมิประเทศของเรา
และเปลี่ยน โรงเรียน สถานที่ราชการและชีวิตผู้คนไปเป็นของเล่นแห่งมือชั่วร้าย
ด้วยคมกระสุนและสะเก็ดระเบิดที่มีอำนาจทำลายล้างสูงกว่าที่มันเคยมี
การฆ่าที่เพิ่มจำนวนศพได้แต่ย้ำเตือนเรา
ถึงความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต เมื่อต้องออกนอกชายคาบ้าน
และมีชีวิตอย่างระแวดระวังหวาดผวา...
มันทำให้การนอนหลับลงอย่างปกติ
โดยปราศจากความหวั่นวิตกเป็นเรื่องยากเกินไป
ข้างนอกนั่น ใบหน้าไร้รอยยิ้มเดินสวนกันทุกที่
การตรวจค้นลุกลามเข้ามาในกระเป๋าของฉัน
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เราเพียงทำกันได้
เพื่อนร่วมชาติของฉัน
ดวงตาของเราเศร้าหมอง ดวงใจของเราอ่อนล้า
เมื่อคิดถึงการสบตาผู้เป็นที่รักทุกครั้งที่หันหลังออกจากบ้าน
ความกลัวขยายอนุภาพออกไปไม่จำกัด อาณาเขตของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ
ทหารหาญของเรามีค่าเพียงกองกำลังที่ส่งมาเป็นเป้ากระสุนเคลื่อนที่
กองกำลังผู้เป็นพ่อ เป็นลูกชาย และญาติพี่น้องกับเพื่อนของเรา
ได้แต่ฝากชีวิตไว้กับเสื้อกันกระสุน ยามต้องทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ
ใครจะบอกเราได้ว่า
อีกกี่ชีวิตจะต้องถูกทิ้งขว้างในนามของการเสียสละ
เกียรติยศ และความภูมิใจที่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก!
นั่นใช่ไหม ทางออกที่พวกเราเลือกให้เขา
ใครจะบอกเราได้ว่า ปลายทางของความเลวร้ายนี้จะจบลงที่ใด!?
หรือเรามีชีวิตหายใจอยู่ไปวันวัน...ฟังข่าวการเข่นฆ่า
เท่านั้นหรอกหรือ ที่เราเพียงทำได้
เท่านั้นหรอกหรือที่เราเพียงต่างหวัง
อาวุธปืนของเราถูกส่งมอบให้ทางการ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครเอาไปฆ่าคน
แต่ความเสียหาย ความกลัว และ จำนวนศพมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
ขณะปืนได้เปลี่ยนไปอยู่ในมือครู และ ผู้หญิงในหมู่บ้าน...นั่นเพื่อสิ่งใด
ถ้าไม่ใช่เพื่อฝึกฝน และ เรียนรู้ที่จะควบคุมมันอย่างชำนาญ และ เลือดเย็น ?
เพื่อนร่วมชาติของฉัน
ถามเด็กๆ ของเราเถิดว่า วันที่เสียงระเบิดฟุ้งกระจายขึ้นบนฟ้า
ความสนุกสนานยังรอคอยอยู่ที่สนามเด็กเล่นไหม ?
ถามผู้โดยสารรถไฟเถิดว่า
มั่นใจแค่ไหนว่าขบวนรถไฟที่นำพวกเขาไปสู่ สุไหงโก-ลก
จะไม่ถูกกราดยิงและลอบวางระเบิด...
ถามตำรวจ ทหาร และข้าราชการเถิดว่า มั่นใจแค่ไหน
เมื่อการสบตาผู้เป็นที่รัก ก่อนออกจากบ้าน
จะไม่เป็นการสบตาครั้งสุดท้าย...
แต่อย่าถามถึงความปกติสุข
ที่เตลิดหายไปกับควันปืนและคาวเลือด
มือชั่วร้ายใดไม่อาจลบภูมิประเทศของเราออกจากแผนที่...
เพื่อนร่วมชาติของฉัน เราได้เพียงแต่หวังว่า
สายฝนที่ตกลงมาจะไม่น้ำสายเลือดตกลงใส่ชีวิตของเรา
ขนำจันทร์
ฤดูฝนย่างกรายมาแล้วเพื่อนร่วมชาติของฉัน
มันทำให้เราออกไปตัดยางไม่ได้
และการทำมาหากินได้ชะงักลงแล้ว
ทว่าเม็ดฝนบอบบางได้นำความทุกข์เศร้าและความกลัวตกลงมาด้วย
ชีวิตที่เงียบสงบและการทำมาหากินอย่างปกติสุขจบลงนานแล้ว
การฆ่าได้นำบางสิ่งครอบคลุมภูมิประเทศของเรา
และเปลี่ยน โรงเรียน สถานที่ราชการและชีวิตผู้คนไปเป็นของเล่นแห่งมือชั่วร้าย
ด้วยคมกระสุนและสะเก็ดระเบิดที่มีอำนาจทำลายล้างสูงกว่าที่มันเคยมี
การฆ่าที่เพิ่มจำนวนศพได้แต่ย้ำเตือนเรา
ถึงความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต เมื่อต้องออกนอกชายคาบ้าน
และมีชีวิตอย่างระแวดระวังหวาดผวา...
มันทำให้การนอนหลับลงอย่างปกติ
โดยปราศจากความหวั่นวิตกเป็นเรื่องยากเกินไป
ข้างนอกนั่น ใบหน้าไร้รอยยิ้มเดินสวนกันทุกที่
การตรวจค้นลุกลามเข้ามาในกระเป๋าของฉัน
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เราเพียงทำกันได้
เพื่อนร่วมชาติของฉัน
ดวงตาของเราเศร้าหมอง ดวงใจของเราอ่อนล้า
เมื่อคิดถึงการสบตาผู้เป็นที่รักทุกครั้งที่หันหลังออกจากบ้าน
ความกลัวขยายอนุภาพออกไปไม่จำกัด อาณาเขตของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ
ทหารหาญของเรามีค่าเพียงกองกำลังที่ส่งมาเป็นเป้ากระสุนเคลื่อนที่
กองกำลังผู้เป็นพ่อ เป็นลูกชาย และญาติพี่น้องกับเพื่อนของเรา
ได้แต่ฝากชีวิตไว้กับเสื้อกันกระสุน ยามต้องทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ
ใครจะบอกเราได้ว่า
อีกกี่ชีวิตจะต้องถูกทิ้งขว้างในนามของการเสียสละ
เกียรติยศ และความภูมิใจที่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก!
นั่นใช่ไหม ทางออกที่พวกเราเลือกให้เขา
ใครจะบอกเราได้ว่า ปลายทางของความเลวร้ายนี้จะจบลงที่ใด!?
หรือเรามีชีวิตหายใจอยู่ไปวันวัน...ฟังข่าวการเข่นฆ่า
เท่านั้นหรอกหรือ ที่เราเพียงทำได้
เท่านั้นหรอกหรือที่เราเพียงต่างหวัง
อาวุธปืนของเราถูกส่งมอบให้ทางการ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครเอาไปฆ่าคน
แต่ความเสียหาย ความกลัว และ จำนวนศพมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
ขณะปืนได้เปลี่ยนไปอยู่ในมือครู และ ผู้หญิงในหมู่บ้าน...นั่นเพื่อสิ่งใด
ถ้าไม่ใช่เพื่อฝึกฝน และ เรียนรู้ที่จะควบคุมมันอย่างชำนาญ และ เลือดเย็น ?
เพื่อนร่วมชาติของฉัน
ถามเด็กๆ ของเราเถิดว่า วันที่เสียงระเบิดฟุ้งกระจายขึ้นบนฟ้า
ความสนุกสนานยังรอคอยอยู่ที่สนามเด็กเล่นไหม ?
ถามผู้โดยสารรถไฟเถิดว่า
มั่นใจแค่ไหนว่าขบวนรถไฟที่นำพวกเขาไปสู่ สุไหงโก-ลก
จะไม่ถูกกราดยิงและลอบวางระเบิด...
ถามตำรวจ ทหาร และข้าราชการเถิดว่า มั่นใจแค่ไหน
เมื่อการสบตาผู้เป็นที่รัก ก่อนออกจากบ้าน
จะไม่เป็นการสบตาครั้งสุดท้าย...
แต่อย่าถามถึงความปกติสุข
ที่เตลิดหายไปกับควันปืนและคาวเลือด
มือชั่วร้ายใดไม่อาจลบภูมิประเทศของเราออกจากแผนที่...
เพื่อนร่วมชาติของฉัน เราได้เพียงแต่หวังว่า
สายฝนที่ตกลงมาจะไม่น้ำสายเลือดตกลงใส่ชีวิตของเรา
ขนำจันทร์