Skip to main content

อีลิทการ์ด

ผมขอเล่าในสิ่งที่ผมได้อภิปรายในวุฒิสภาเพื่อเตือนรัฐบาลให้ระวังในโครงการอีลิทการ์ด  และโครงการลองสเตย์ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ยิน กลับเดินหน้าทำโครงการต่อ


 


ก็เลยขอเล่าให้ท่านรับทราบ เพื่อช่วยกันติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หากเกิดความเสียหายอย่างที่ผมเตือนจะได้ไม่โทษกันว่าไม่เตือน


 


คงจะจำได้ถึงโครงการอีลิทการ์ด ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเคยวาดฝันไว้ว่าจะขายสมาชิกให้กับชาวต่างชาติในราคาหนึ่งล้านบาท เพื่อให้บริการสิทธิพิเศษแก่สมาชิกโดยจะมีรถนำ มีการต้อนรับอย่างดี มีคิวพิเศษ มีห้องพักราคาถูก  สามารถมีสิทธิซื้อที่ดินในไทยได้ ตีกอล์ฟฟรี ฯลฯ


 


โดยคาดฝันไว้ว่าจะขายเมมเบอร์ได้ล้านใบ จะมีเงินเข้าประเทศนับล้านล้านบาท


 


ผมเคยติงเอาไว้ตั้งแต่ในกรรมาธิการท่องเที่ยววฒิสภา  และอภิปรายในโอกาส งบประมาณประจำปีว่า โครงการนี้จะไม่สามารถขายเมมเบอร์ได้ตามที่ฝัน และจะทำให้เกิดสูญเสียงบประมาณไม่คุ้มค่าในการลงทุน  เพราะสิทธิในการเล่นในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในเมืองไทยก็มีมูลค่าหลายแสนแล้ว บางแห่งก็เป็นล้าน  และสนามกอล์ฟเหล่านี้ยังต้องเก็บค่าบำรุงสนามเป็นรายปี  ปีละหมื่นบาท  ก็ยังขาดทุนเลย เพราะไม่มีรายได้เพียงพอในการบำรุงสนาม ก็เลยต้องรับแขกจรมาเล่น  จนสมาชิกโวยว่าเป็นเมมเบอร์  เป็นสมาชิกแล้วไม่ได้สิทธิพิเศษ เพราะต้องรอให้ขาจรเล่นก่อน


 


เพราะฉะนั้นการวาดฝันว่าจะขายสมาชิกละล้านบาท แล้วให้บริการเล่นกอล์ฟฟรี   สปาฟรี  นวดฟรีทั้งปี ฯลฯ เป็นโครงการเพ้อฝัน   และถ้าทำไม่ได้ดังโฆษณา จะมีโอกาสโดนฟ้องได้ เพราะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไปโฆษณาว่าเป็นบัตรสมาชิกของประเทศไทย  แถมโม้ด้วยซ้ำว่าเป็นแห่งแรกในโลก


 


การท้วงติงก็ไม่เป็นผลปรากฏว่าต้องใช้งบประมาณไปแล้วหนึ่งพันล้านบาท   แล้วท่านทราบไหมครับว่าบัตรขายได้กี่ใบ   เพียงหนึ่งพันใบครับท่าน  ขายมาสองปีกว่าขายได้เพียงหนึ่งพันใบ ได้เงินมาพันล้าน  แล้วจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือ?


 


ตอนนี้เราต้องเป็นหนี้การให้บริการคนหนึ่งพันคน  ต้องให้เขาใช้บริการฟรีหลายอย่าง    ที่สำคัญแต่ละปีที่เขาใช้บริการ บริษัทพริเวอร์เลจการ์ด หรืออีลิทการ์ด ต้องจ่ายค่าบริการให้เขาอีก


 


สิ่งที่ผมเคยเตือนก็เริ่มปรากฏ  นอกจากขายไม่เข้าเป้าแล้ว ยังต้องมาออกบัตรที่อ้างว่าเป็นรุ่นใหม่  เพราะเพิ่งพบความจริงว่า ถ้าให้เขาใช้บริการฟรีแบบเดิมนั้นขาดทุนป่นปี้แน่    จึงออกบัตรรุ่นใหม่ โดยจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปีด้วย เพราะถ้าไม่จ่าย บริษัทนี้แจ้งแน่และเริ่มปรากฏตามที่ผมคาดเพราะบริษัทนี้ขาดทุนนับร้อยล้านเพราะต้องจ่ายค่าเปอร์เซ็นต์ในการขาย  จ่ายค่าโฆษณา  ค่าใช้จ่าย  ฯลฯ


 


ผมขอเตือนว่า  อย่าได้คิดใช้ทรัพยากรของรัฐไปให้บริการสมาชิกโดยเด็ดขาด  เพราะมีข้อเสนอว่า บริษัทไทยพริเวอร์เลจ การ์ด จะทำโรงแรม จะทำสนามกอล์ฟ ฯลฯ ฝันเฟื่องไปทำธุรกิจ แข่งกับเอกชน ซื่งรัฐธรรมนูญเขาห้ามเอาไว้


 


ผมให้เหตุผลที่คัดค้านเอาไว้ว่า ผมไม่เห็นหน่วยงานของรัฐประสบผลสำเร็จในการบริหารงานแข่งกับเอกชนได้   การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีสนามกอล์ฟ เป็นของตนเอง แต่ปัจจุบันต้องให้เอกชนเช่าไปแล้ว เพราะบริหารงานแล้วขาดทุน คือที่บางพระ  ชลบุรี


 


การรถไฟแห่งประเทศไทยก็มีโรงแรมเป็นของตัวเอง ปัจจุบันให้เอกชนเช่าไปแล้ว ตัวอย่างเช่น ที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ  เพราะฉะนั้น ถ้าการท่องเที่ยวคิดจะทำธุรกิจ โดยอ้างว่าจะมีสมาชิกมากมายมาใช้บริการนั้น เลิกคิดได้  เพราะโครงการอีลิทการ์ดนั้น เป็นโครงการเพ้อฝันเกินจริง


 


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็เห็นตาม ปรากฏว่า ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ลาออก จากการเป็นกรรมการบริษัท อีกหลายคนก็ลาออก เพราะทราบว่าฝันไม่เป็นจริงแน่  ก็ขอเล่าให้ท่านทราบและโปรดติดตามดูว่าบริษัทนี้เขาจะมีอภินิหารอย่างไร


 


ที่แน่ๆ คือ ตอนนี้เลิกคุยแล้วว่าจะมีสมาชิกนับล้านคน  ตอนนี้อ้างแบบข้างๆ คูๆ ว่า มีนักท่องเที่ยวระดับไฮคลาส ระดับสูง มาลงทุนในประเทศไทย สร้างธุรกิจนับหมื่นล้าน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของบริษัทนี้เลย การส่งเสริมการลงทุนนั้นเป็นหน้าที่ของบีโอไอต่างหาก


 


ถ้าจะต้องใช้งบของรัฐเป็นพันล้านไปละเลงอย่างนี้  ทำไมไม่ลองไปถามบีโอไอว่าขอชักชวนนักลงทุนมาอย่างไร


 


อย่ามั่วเอานักท่องเที่ยวกับนักลงทุนมาปะปนกันเลย  ขอให้ตั้งมั่นในหลักการเดิมเถิดว่า ทำไมของบประมาณในการทำบัตรอีลิท แล้วไม่ได้ตามเป้า


 


ทำไมไม่ล้มเลิกโครงการซะ  ก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้


 


สัปดาห์หน้า  โปรดติดตามบริษัทไทยจัดการลองสเตย์  ที่มีแนวคิดที่เราต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิด