ลุงเสริฐ....คนบ้า .ที่...กล้าฝัน
คอลัมน์/ชุมชน
คืนวันอังคาร คือช่วงเวลาที่ฉันจดจ่อหน้าจอ Modern9 TV. เพื่อเฝ้าดูสารคดีชีวิตของผู้คนในสังคมซึ่งในความเป็นจริงแล้วโอกาสที่จะได้เฉียดกรายเข้าไปใกล้ผู้คนเหล่านั้นแทบไม่มีเลย หรือมี แต่เราก็เพียงมองข้ามไป ......
คนค้นฅน ของคนหน้าเหี้ยม สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ในนามทีวีบูรพา กลับเลือกสรรเรื่องราวของผู้คนเหล่านั้นมากระตุกขั้วหัวใจฉันอยู่แทบทุกครั้งที่นั่งเฝ้าหน้าจอ ฉันยังแอบอมยิ้มกับตัวเองทุกครั้งที่นึกถึงท่าทางหัวเราะอ้าปากกว้างที่หาฟันได้น้อยเต็มทีของปู่เย็น เฒ่าทระนง หรือทุกครั้งที่ผ่านร้านขายน้ำเต้าหู้ วาบความคิดก็จะมีเรื่องราวของสองพี่น้องเมย์และเหน่ง ที่แม้วันนี้ทั้งคู่จะสุขสบายจนเลิกขายน้ำเต้าหู้คู่กับปาท่องโก๋ไปแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ไม่เคยลืมภาพวันที่ตนเองร้องไห้จนตาปูดเมื่อรับรู้เรื่องราวของคนทั้งคู่ผ่าน ตอนแม่ไม่ต้องร้องไห้ หรือจะเสียงฉอเลาะผู้คุมเพื่อขอขนมของน้องแอน หยาดน้ำค้างกลางพงหนามขวัญใจชาวคุก ที่วันนี้ไม่รู้เธอเป็นตายร้ายดีอย่างไร เรื่องราวเหล่านี้ ถ้าไม่มีคนนำมาป้อนให้ถึงปาก คนเมืองอย่างฉันจะมีโอกาสลิ้มรสชาติของชีวิตในแง่มุมเช่นนี้ไหมหนอ
คราวนี้ก็เช่นกัน ลุงเสริฐ..คนบ้า หรือกล้าฝัน พาฉันไปร่วมค้นชีวิต ลุงเสริฐ เสรีชนวัยชรา ที่จวบจนค่อนชีวิตมาแล้วก็ไม่เคยแปรเปลี่ยนความเชื่อที่ว่าสังคมนิยมจะนำพาประเทศชาติให้สงบสุขได้
ฉันมิได้ถ่องแท้ในสังคมนิยม ทุนนิยม ซ้ายจัด ขวาจัดหรืออันใด แต่หากวิถีชีวิตของลุงเสริฐที่ง่ายงามจนดูแปลกแยกนั่นต่างหากที่ฉันอยากจะถ่องแท้
ลุงเสริฐดำเนินชีวิตด้วยการขายหนังสือเก่า เฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสังคมนิยมเท่านั้น เสรีชน จิตร ภูมิศักดิ์ เช กูวารา การกอบกู้ประชาธิปไตย และอะไรอื่นทำนองนี้ ลุงเสริฐมีบ้านอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นโกดังเก็บของเก่าหรือที่ทิ้งขยะมากกว่า หากความหมายของบ้านของใครหลายคนหมายถึงสิ่งปลูกสร้างโอ่อ่า ทันสมัย
ทรัพย์สมบัติที่มีค่าภายในบ้านหลังนี้คือกองหนังสือ กองหนังสือ และกองหนังสือ ที่แม้บางอันจะเก่าเก็บถูกมอดปลวกกัดกินไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ไร้ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกนานา
"มันยังมีความภูมิใจ ว่ายังไงก็คือบ้านของเรา" ลุงเสริฐบอกเล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อสมบัติชิ้นนี้
วิธีคิด วิถีชีวิตที่เคร่งครัด ดูกินง่ายอยู่ง่าย เสียจนน่ากลัว ฉันได้เห็นว่าน้ำซุปจากการล้างกระทะทอดไข่ก็อร่อยได้และง่ายดี กุนเชียงที่ใส่ลงไปต้มพร้อมการหุงข้าว เมื่อสุกได้ที่ก็เก็บไว้กินได้หลายวัน แต่ฉันแอบหวั่น ๆ ว่านกหนู แมลงสาบจะยกพลมาเยี่ยมลุงเสริฐบ้างไหมหนอ ลุงเสริฐไม่อาบน้ำแต่ใช้วิธีเช็ดตัวจากน้ำที่เหลือจากการซักผ้า และลุงเสริฐก็ยืนยันหนักแน่นว่าสะอาดดี
ถ้าสังคมนิยมสอนให้คนมีวิธีคิดแบบนี้ การแก่งแย่งชิงดีคงหาได้น้อย มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมดังเช่นหลานสาวลุงเสริฐก็คงรู้จัก และตระหนักถึงคำว่า "พอ"
ใช่ว่าลุงเสริฐแกจะบ๊องอย่างเช่นที่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงพูดถึง จะว่าไปลุงเสริฐก็คล้ายปราชญ์ผู้ทรงภูมิ พูดจาดีมีกาลเทศะ โดยจะเห็นได้จากการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่มาสนใจหนังสือของแก หรือแม้แต่คนอื่นทั่วไปที่แกต้องข้องเกี่ยวด้วยในแต่ละวัน ไม่มีท่าทีของความผิดเพี้ยนที่ตรงไหน หากไม่มองเรื่องการแต่งตัว ซึ่งจะว่าไปก็ดูไม่ต่างจากเด็กแนวในสังคมไทยยุคนี้ ที่สำคัญคนเพี้ยน คนบ๊องที่ไหนกันเล่าจะยอมรับกับตนเองและผู้อื่นอย่างหน้าชื่นตาบานว่าแกเองก็อาจจะไม่ค่อยดี ตามที่คนอื่นมอง หากแกไม่สนใคร และบอกกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า
"ผมก็มีแนวทางของผม คนเราแน่วแน่ ไม่โอนเอน มุ่งสู่ความสำเร็จลูกเดียว สู้จนกว่าจะตาย และเชื่อว่าสังคมนิยมจะช่วยให้ประเทศชาติสุขสงบมากกว่าทุนนิยม"
ถามฉันถึงความรู้สึกที่มีต่อลุงเสริฐ ฉันชื่นชมในความง่ายงามของแกนะ จะว่าไป แกก็ทระนงไม่ต่างไปจากปู่เย็นแม้แต่น้อย เพียงแต่คนละวิถีเท่านั้นเอง ที่สำคัญ ฉันว่าลุงเสริฐและปู่เย็นต่างเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคม ทั้งที่อยู่ในวัยพึ่งพิง แต่ก็ไม่ต้องเป็นภาระให้ใคร ดำรงชีวิตของตนได้และยังดูแลเกื้อกูลกลับคืนสังคมที่ถึงแม้คนทั่วไปจะมองว่ามันเล็กน้อยหนักหนา แต่การไม่เป็นขยะสังคมนั้นก็ยิ่งใหญ่เกินพอแล้ว
ฉันเห็นด้วยที่คนเดินเรื่องหน้าตาเหี้ยมบอกว่า "ชัยชนะของคนเช่นนี้ อาจไม่ได้อยู่ที่การไปโค่นล้มอะไร แต่อยู่ที่การยืนหยัดไม่เปลี่ยนแปลงในเจตนารมณ์ต่างหาก"
แต่ที่ฉันไม่เห็นด้วย ก็ตรงที่ดอกเตอร์พิธีกรคนนั้นบอกว่า "หากพบลุงเสริฐขายหนังสืออยู่ข้างทาง ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ถือว่าช่วยรับรู้ในสิ่งที่ลุงเสริฐต้องการจะบอกกล่าว"
ไม่หรอก หากใครจะซื้อหนังสือของลุงเสริฐก็ด้วยเขาต้องการ และสามารถใช้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนั้นได้จริงๆ
หากเพียงเพราะสงสารหรือเห็นใจในความเป็นสิ่งที่ตกค้างของกาลเวลาอย่างที่คุณเวียงว่าไว้ ฉันก็ว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับคนกล้าฝัน เฉกเช่น ลุงเสริฐ...คนบ้าที่กล้าฝัน