ชวนมารักกัน ตอน 1 รักแบบหมา ๆ
คอลัมน์/ชุมชน
เราต้อนรับครอบครัวหนึ่งเข้าบ้าน ครอบครัวนี้ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกทั้งสอง
ถือว่าช่วยพวกบ้านแตกด้วยกัน เพราะเราก็ไม่ต่างกันต้องย้ายบ้านด่วน และในระหว่างที่เราย้ายบ้าน เราก็สูญเสียสมาชิกที่น่ารักไปสองชีวิต มันเป็นเรื่องเศร้าที่ไม่อยากจะพูดถึง
ในเที่ยงวันที่ร้อนมาก ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งอุ้มลูกทั้งสองเข้ามาก่อน ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน ฉันเอามือไปลูบหัวทักทาย
"ชื่อสมศรีกับสมพร" เธอบอก
สมศรี หน้าหวาน ส่วนสมพรหน้าตาดูตลก ๆ แต่น่ารักเหมือนกัน
หลังจากวางลูกทั้งสองลงบนพื้นแล้ว เธอกับเขาก็กลับไปไปอุ้มพ่อกับแม่เข้ามา
"พ่อชาช่ากับแม่ชะอม" เธอบอกเรา ก่อนหันไปพูดกับชาช่าว่า
"อยู่ที่นี่กันก่อนนะ อีกเดือนจะมารับ"
เธอบอกว่า ต้องย้ายบ้านด่วนเพราะบ้านที่เธออยู่ขายได้แล้ว เธอประกาศขายและขายได้อย่างรวดเร็ว น่าจะเป็นเพราะว่าขายถูกและอยู่ในทำเลที่ดี เธอกับคนรักตัดสินใจย้ายไปอยู่หมู่บ้านจัดสรรเล็ก ๆ ซึ่งตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จ ในระหว่างรอบ้านหลังใหม่ ต้องย้ายไปอยู่หอพักก่อน ดังนั้น ต้องหาที่อยู่ให้ครอบครัวชาช่าชั่วคราว
"เอาเสื้อผ้าของเราทิ้งไว้ที่นี่สักตัวดีกว่า ชาช่าจะได้รู้ว่าเราไม่ไปไหน" เธอหันไปปรึกษาหนุ่มคนรักและเขาก็เห็นดีงาม เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก ปูเป็นที่นอนให้สมพรกับสมศรีนอน
ส่วนเธอถอดเสื้อคลุมออกให้ชาช่ากับชะอม เธอสวมแต่เสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กโชว์สะดือกลับไป
ลูกทั้งสองน่ารักและซุกซนมาก กินเก่งเหลือเกิน ฉันต้มข้าวนิ่ม ๆ ให้พวกมันกินกับไข่ตุ๋น ซึ่งเป็นอาหารอย่างเดียวกับที่ครอบครัวเรากิน เพราะเรายังไม่มีเครื่องครัว สำหรับปรุงอาหาร รวมทั้งไม่มีของใช้อื่น ๆ ด้วย บ้านเช่าหลังใหม่ไม่มีอะไรเลยนอกจากไมโครเวฟ สำหรับอุ่นอาหาร
แม่ชะอม เป็นพันธุ์พูเดิ้ลแท้ ๆ แต่พ่อชาช่าสายพันธุ์มาจากบนภูเขา เป็นของชนเผ่าม้ง เล่ากันว่าแม่ของชาช่าเป็นพูเดิ้ล ถูกนักท่องเที่ยวลืมเอาไว้ที่บนดอย ครูอาสาสมัคร กศน.เลี้ยงเอาไว้ เมื่อโตเป็นสาวก็มีความสัมพันธ์กับหนุ่มในถิ่น และออกลูกมาเป็นชาช่า
ชาช่าเป็นส่วนผสมระหว่างแม่กับพ่อที่ข้ามสายพันธุ์ ทำให้ชาช่าเป็นลูกครึ่งหน้าตาแปลกออกไป ตัวโตกว่าพวกแม่และเล็กกว่าพวกพ่อ ขาสั้นตัวเตี้ย ขนสีทองแซมขาว ตาสีน้ำตาลอ่อนสุกใส ปากแหลมเล็กเหมือนแม่ ปราดเปรียวและแข็งแรง ชายหนุ่มนักพัฒนาขึ้นลงดอย เข้าออกหมู่บ้านบ่อย ๆ เขาเห็นชาช่าน่ารักก็ขอมาให้สาวคนรัก ในขณะที่เธอมีหนูชะอมอยู่แล้ว ทั้งชาช่าและชะอมอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโตในบ้านหลังใหญ่และมีลูกด้วยกัน 7 ตัว
ตอนแรกหญิงสาวจะให้อยู่ร่วมกัน ไม่อยากให้แยกจากกัน แต่เมื่อบ้านหลังใหญ่ต้องขายไป เธอจำใจยกสมาชิกให้เพื่อน ๆ ที่พร้อมจะดูแล เธอบอกว่าก่อนจะยกให้ใครไปอุปการะเลี้ยงดู เธอต้องถามประวัติ ประสบการณ์ ภูมิหลัง และดูความพร้อม ความรักอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องมีเวลาและมีเงินด้วย เพราะพวกเขาต้องกินต้องใช้เหมือนกัน ฤดูหนาวต้องมีเสื้อใส่ ฤดูร้อนต้องมีพัดลม กลางคืนถ้าไม่ให้นอนในบ้านก็ต้องมีกรงมีมุ้ง ถ้าปล่อยให้ยุงกัดจะเป็นพยาธิหัวใจได้ และยังต้องพาเขาไปหาหมอ พวกมันต้องการความรักและการเอาใจใส่
ในที่สุด เธอก็สามารถคัดเลือกได้ตามที่ต้องการ เหลือแต่สมศรีกับสมพร พวกตัวเล็ก ๆ หาครอบครัวได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะฝากไว้ก่อนหรือยกให้ไปเลย แต่พ่อกับแม่ซึ่งแก่แล้วยากที่จะหาใครรับเลี้ยง
ลูกทั้งสองหน้าตาเหมือนแม่ชะอมมาก ขนสีขาวและหยิกติดผิวหนัง ตาสีสนิมคล้ายพ่อ อายุแค่เดือนเดียวตัวเล็กมากแต่ดูแข็งแรง สุขภาพดี
เธอเล่าเรื่องอุปนิสัยของแต่ละตัวว่า ชาช่านิสัยดี พูดจารู้เรื่อง กินอาหารแล้วก็แล้วกันไป จะไม่กินเรื่อยเปื่อย กินเป็นมื้อ ๆ ไป เอาอะไรมาให้ก็ไม่กินอีกแล้ว
ส่วนชะอมกินไปเรื่อย ๆ กินเก่งมาก ถ้ามีให้กินก็กินไม่หยุด แต่ทั้งสองขี้อ้อนเหมือนกัน
ฟังเธอเล่าเรื่องชาช่ากับชะอมแล้วเหลือเชื่อ น่าทึ่งมาก ที่ชาช่ากินอาหารเป็นมื้อ ๆ ไม่กินระหว่างมือ ไม่ว่าจะโยนอะไรให้ เออ...อย่างนี้ก็มีด้วย
ส่วนชะอมเธอบอกว่าขี้อ้อน ไม่คิดว่าจะอ้อนมากขนาดนี้ ทันทีที่ฉันนั่งลง ชะอมจะกระโดดขึ้นมานั่งบนตัก ส่วนชาช่าก็จะชุกหน้าเข้ามาที่มือ
"ไม่สามารถอยู่ด้วยตัวเองได้เลย ชีวิตจะลำบากนะชาช่า ถ้าต้องอยู่ด้วยมือคนอื่นตลอดเวลา" ฉันบอกมัน
ครอบครัวนี้ยึดครองบ้านของเราแล้ว เดินเข้าออกนอกใน พอเราปิดประตูมันก็จะเคาะเสียงดังให้เปิด
"พวกนี้เคาะประตูเหมือนคนเลย" เขาพูดขำ ๆ แต่ลุกไปเปิดประตูให้มันทุกครั้ง
"มันก็น่ารักดีนะพี่นะ ดูลูกมันซิ นอนกินนมแม่มัน น่ารักจัง" ฉันส่งเสริมภาพพจน์ของมันตลอดเวลา "อยู่กันเป็นครอบครัวครอบครัวสุขสันต์ฉันรักเธอเลยนะ"
วันก่อนแม่ชะอมแอบหนีออกจากบ้าน และเข้ากลับมาไม่ได้ ชาช่าวิ่งเข้ามาในครัว เห่า ๆ และวิ่งออกไป ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จึงตามมันออกไปดูพบว่า แม่ชะอมยืนอยู่หน้าประตูบ้าน นับว่าเป็นความรักที่น่าประทับใจ ตั้งแต่ชาช่าเริ่มวิ่งเข้าออกระหว่างหน้าบ้านกับห้องครัวเพื่อขอความช่วยเหลือ
"ช่วยเมียข้าด้วย" เสียงเห่าของมันคงบอกเราอย่างนั้น และเมื่อเปิดประตูให้ชะอมเข้ามา ชาช่าก็เลียหน้าชะอมเหมือนกับจะปลอบโยน ส่วนนางชะอมก็สงเสียงครางฮืด ฮืด
แล้ววันต่อมา แม่ชะอมก็แอบหนีออกไปอีก คราวนี้มันไม่ได้ออกไปยืนอยู่หน้าบ้านเฉย ๆ แต่มันไปยืนอยู่ในรั้วบ้านร้างที่ติดกัน บ้านร้างหลังนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้หนาแน่น เจ้าของบ้านหลังนี้คงจะรักต้นไม้ มีไม้ดอกไม้ใบและต้นไม้ใหญ่อยู่หลายต้น
ประตูรั้วด้านหน้าพังไปแล้ว ไม่รู้ว่าสนิมกินเหล็กจนพังหรือว่ามีคนพังเข้าไปเพื่อเอาของมีค่าในบ้าน ดูจากสภาพคิดว่าคงจะถูกทิ้งไว้นานกว่า 5 ปี กลางคืนจะได้ยินเสียตุ๊กแกร้องเสียงดัง
ชะอมคงจะเข้าทางประตูหน้า แต่จะออกมาทางข้างบ้าน ซึ่งเป็นรั้วก่ออิฐขึ้นมาประมาณ 2 ฟุตด้านบนสูงเป็นรั้วหนาม
ฉันไปยืนเรียกชะอมให้มันกลับออกมาทางประตูหน้า แต่มันก็ไม่ยอม ยังยืนร้องอยู่ที่เดิม ครั้นเราจะเดินเข้าไปในบ้านร้างเพื่อที่จะไปอุ้มมันออกมาก็น่ากลัวเกินไป
"ชาช่าแกไปพาเมียของแกกลับมาเอง" ฉันบอกมัน พร้อมกับไล่ชาช่าออกจากประตูบ้าน แต่มันไม่ได้เข้าไปในรั้วบ้านร้าง มันกลับเดินเที่ยวเล่นกลางถนน
ถ้าเอาชะอมเข้ามาทางนี้ เราต้องถ่างลวดหนามออก และยกตัวมันลอดเข้ามา แต่ในที่สุดเราก็ต้องทำเพราะมันไม่ยอมออกไปทางด้านหน้า
กว่าจะเอาออกมาได้ ลวดหนามเกี่ยวแขนเสื้อ มือถลอก
ชาช่า วิ่งเข้ามา คราวนี้มันคำรามใส่
"นี่ก็รักเหมือนกัน แต่วิธีแสดงออกต่างกัน แบบว่าฉันทำร้ายเธอด้วยความรักหรือเผลอทำร้ายเธอทั้งที่ยังรัก"