Skip to main content

การสำรวจความคิดเห็นของสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

 


 


วุฒิสภาได้แก้ไข ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ.... ในประเด็นที่ห้ามไม่ให้ กบข.ตั้งบริษัทลูกเพื่อลงทุนในกิจการต่าง ๆ


 


กองทุน กบข.มีเงินกองทุน ซึ่งเก็บจากสมาชิก ๑.๒ ล้านคน และมีกองทุนประมาณ ๒๗๐,๐๐๐ ล้านคน  ในปัจจุบัน มีกฎกระทรวงกำหนดให้นำเงินกองทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เช่น ฝากเงินกับธนาคารหรือซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่น้อยกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ของเงินกองทุน  อีก ๔๐ เปอร์เซ็นต์ให้ลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่น  แต่จะลงทุนในหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ ๒๐  


 


 เหตุผลในการของแก้ไข พ.ร.บ.นี้เพื่อขยายโอกาสให้กองทุนมีโอกาสในการลงทุนกว้างขึ้นและให้สมาชิกมีสิทธิ์ออมเงินเพิ่มขึ้น


 


ประเด็นที่วุฒิสภาแก้ไขแล้วทำให้เกิดการไม่แน่ใจว่าสมาชิกของ กบข.จะเห็นด้วยหรือไม่คือการที่ กบข.จะขอตั้งบริษัทลูกเพื่อลงทุนในกิจการต่างๆ


 


ที่ประชุมกรรมาธิการร่วมสองสภา ได้ถกเถียงกันแบ่งเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย


 


ฝ่ายเห็นด้วยก็บอกว่าการให้ กบข.ตั้งบริษัทลูกทำให้เปิดโอกาสในการลงทุน ทำให้ กบข.สามารถทำกำไรมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของสมาชิก


 


ส่วนฝ่ายไม่เห็นด้วยก็บอกว่า กบข.เป็นหน่วยงานของรัฐไม่มีประสบการณ์ในการบริหาร จะไม่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้เกิดการถ่ายเทเงินไปสู่บริษัทลูกเพราะกฎหมายในการกำกับดูแลกรรมการ กบข.ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มี


 


ที่สำคัญคือปัจจุบันหน่วยงานของรัฐไม่ประสบผลสำเร็จในการบริหารงานให้แข่งกับเอกชนได้


 


ในภาคเอกชนนั้นพยายามจ้างองค์กรเอกชนอื่นที่มีความชำนาญไปทำแทนเพื่อลดค่าใช้จ่าย (out source) แต่ในกรณีของ กบข.อยากจะตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารงานเอง ซึ่งน่าจะไม่ถูกต้อง


 


ในที่สุดที่ประชุมจึงขอให้สำรวจความเห็นจากสมาชิกว่าควรจะให้ กบข.ตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารเงินหรือไม่ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดที่จะให้ กบข.ไปตั้งบริษัทลูก และเป็นผู้เสนอความเห็นในกรรมาธิการ โดยให้เห็นถึงความล้มเหลวของการตั้งบริษัทประกันภัยของภาครัฐในอดีตคือบริษัทประกันภัยที่ตั้งโดยสหกรณ์ ซึ่งปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์ยังต้องรับภาระกับการขาดทุนอย่างมหาศาล เพราะสหกรณ์ไม่สามารถบริหารงานแข่งกับเอกชนได้


 


บริษัทประกันชีวิตขณะนี้แข่งขันกันอย่างรุนแรง แม้กระทั่งต่างชาติยังมาเปิดแข่งขันในไทย


 


กบข.น่าจะใช้ให้บริษัทประกันชีวิตมาบริการสมาชิก กบข.ในราคาที่ถูก ไม่ใช่มาทำประกันชีวิตให้สมาชิกเอง ทั้งๆ ที่ กบข.เองไม่มีประสบการณ์ในการทำประกันชีวิตเลย กลับอยากจะขอตั้งบริษัทลูกเพื่อทำประกันชีวิต


 


เหตุผลเหล่านี้ทำให้ที่ประชุมกรรมาธิการร่วมที่มีทั้ง ส.ส และส.ว. ได้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ โดยเกรงว่าสมาชิก กบข.ไม่มีส่วนร่วมในการลงมติดังกล่าวว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการที่จะให้ กบข.นำเงินนับแสนล้านไปตั้งบริษัทลูก  ก็เลยจะมีการทำแบบสำรวจความเห็นกับตัวแทนของสมาชิก กบข. ก็ขอประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกได้บอกตัวแทนในแต่ละจังหวัดว่า ท่านเห็นว่าควรหรือไม่ที่จะให้ กบข.ไปตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารเงินของสมาชิก


 


แล้วท่านแน่ใจหรือเปล่าว่าเงินสะสมของท่านจะไม่โดนถ่ายเทไปโดยไม่รู้ตัวหากเกิดการรั่วไหล


 


บังเอิญผมก็ไม่ใช่สมาชิก กบข.แต่ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้ท่านเพราะไม่อยากให้มีข้อตำหนิได้ว่า เป็นส.ว.แล้วไม่ช่วยดูแลเงินของประชาชน


 


อีกสองสัปดาห์จะมีการรวบรวมความเห็นดังกล่าว แล้วจะมีการลงมติในกรรมาธิการร่วมสองสภาว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ เพื่อส่งให้กับทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป