Skip to main content

ลำนำแห่งขุนเขา

 


 


แดดยามเย็นแห่งเดือนตุลาคมส่องให้ทุ่งข้าวโพดซึ่งลาดลดหลั่นไปตามเชิงเขา  แลดูเป็นสีทองอร่าม มองไปทางใดก็เห็นแต่ทุ่งข้าวโพดแผ่ปกคลุมทั่วเนินเขา บ้างก็เก็บเกี่ยวไปแล้วจนเหลือแต่ซังแห้ง แต่ในบางจุด เหล่าชาวเขาต่างขะมักเขม้นช่วยกันเก็บเกี่ยวก่อนที่มันจะแห้งเหี่ยวและหักคาต้น


 


การเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ และท่วงทำนองแห่งอิริยาบถของเหล่าชาวเขา ท่ามกลางทุ่งข้าวโพดสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับขุนเขา มันเป็นเหมือนลำนำแห่งขุนเขาที่ถูกขับขานผ่านการงานซึ่งแนบชิดกับวิถีชีวิตของพวกเขา


 


อาระ ซึ่งยืนอยู่บนเนินเขาลูกหนึ่งมองเห็นพ่อ แม่และเพื่อนบ้านกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวโพด ทุกคนต่างทำงานอย่างคล่องแคล่วเพลิดเพลินโดยแทบจะไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เติบโตมากับการใช้แรงงานตั้งแต่เล็กแต่น้อย


 


"ใกล้เสร็จแล้วนี่ครับ"  อาระพูดกับแม่เมื่อเดินเข้าไปใกล้


"วันนี้มีคนมาช่วยเยอะ"  แม่ของเขาบอก


 


อาระหักฝักข้าวโพดออกจากต้นและใช้ไม้ไผ่อันเล็กๆ ที่เหลามาอย่างดี ปอกเปลือกข้าวโพดออกอย่างชำนาญไม่แพ้ผู้ใหญ่ เม็ดข้าวโพดเป็นสีเหลืองเข้มเมื่อแกะเปลือกออกมา เรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบสวยงาม อาระลูบคลำฝักข้าวโพดที่เปลือยเปล่าอย่างภาคภูมิใจ ไม่เสียเปล่าที่ตนเองและครอบครัวทุ่มเทแรงงานลงไป


 


ข้าวโพดเป็นที่มาของรายได้หลักของพวกเขา ทุกคนในหมู่บ้านต่างมีรายได้หลักมาจากการขายข้าวโพดทั้งนั้น ส่วนเวลาที่นอกเหนือไปจากการปลูกและเก็บข้าวโพด บางคนก็จะรับจ้างคนเมืองตามแต่เขาจะมาจ้าง บางคนก็ปลูกพืชชนิดอื่น ๆ เช่น ถั่วดิน


 


"ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อนักเรียนเสียก่อน"  แม่ของเขาพูด


"พรุ่งนี้โรงเรียนปิด"


 


อาระโยนฝักข้าวโพดลงตะกร้าใบใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง และเมื่อเต็มตะกร้าแล้ว เขาก็เอาไปเทใส่กระสอบแล้วก็กลับไปเก็บใหม่


 


แม้ว่าอาระจะเรียนอยู่แค่ชั้นประถม 5 แต่ก็ต้องทำงานหนักราวกับว่าเป็นผู้ใหญ่ เจ้าหนูรีบกลับจากโรงเรียนเพื่อไปช่วยครอบครัวเก็บข้าวโพดที่กำลังสุก เจ้าหนูเอาหนังสือเรียนไปเก็บที่บ้าน แล้วก็วิ่งไปยังไร่ข้าวโพดที่อยู่บริเวณเชิงเขาซึ่งโอบล้อมด้วยลำธาร


 


ในระหว่างที่กำลังเก็บข้าวโพด เขาได้ยินเสียงเพื่อน ๆ แว่วลอยมาจากลำธารที่อยู่ใกล้ ๆ ใจหนึ่งเขาคิดอยากจะไปเล่นน้ำที่ลำธารกับเพื่อน แต่ใจหนึ่งเขาก็อยากช่วยครอบครัวเก็บข้าวโพดให้เสร็จเสียก่อนเพราะเหลืออีกไม่มากแล้ว


 


………..


 


อาระเดินขึ้นเนินชันตามเส้นทางกลับบ้าน ขาเจ้าหนูสั่นเบา ๆ เพราะต้องแบกรับน้ำหนักไว้มาก ตะกร้าข้างหลังเขามีฝักข้าวโพดอยู่เต็มจนแทบจะล้นออกมา และพอเขาโยกตัวเพียงเล็กน้อยเพราะเกิดลื่นไถล ฝักข้าวโพดที่เต็มปริ่มตะกร้านั้นก็กระเด็นออกมา อาระมองดูฝักข้าวโพดที่กลิ้งไปข้างทางและตั้งใจว่าจะกลับมาเก็บตอนที่ย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่พ่อของเขาซึ่งเดินแบกข้าวโพดตามมาใกล้ ๆ ก็ก้มลงไปเก็บ


 


อาระหันไปมองคนอื่นๆ ที่เดินอยู่ข้างหลัง  และมองไปยังทุ่งข้าวโพดที่พวกผู้หญิงกำลังเก็บอยู่ซึ่งเหลืออีกนิดเดียวแล้วก็จะเสร็จ  คนเหล่านั้นตัวเล็กนิดเดียวเมื่อมองจากที่ไกล


 


อาระเดินสวนและทักทายกับคนอื่นๆ ซึ่งกำลังแบกข้าวโพดหนักอึ้งเช่นเดียวกับเขา  ในเวลานี้ทุกคนในหมู่บ้านไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บข้าวโพด บางคนไปช่วยเก็บข้าวโพดให้คนอื่นก่อนเพราะของตนเองยังไม่สุก ครั้นเมื่อเวลาของตนเองสุกแล้ว คนอื่นๆ ก็จะกลับมาช่วย ยิ่งถ้าไปช่วยเก็บข้าวโพดให้เพื่อนบ้านมากเท่าใด เพื่อนบ้านก็จะหวนกลับมาช่วยมากเท่านั้น นี่เป็นจารีตปฏิบัติซึ่งยึดถือกันมายาวนาน


 


อาระเดินอย่างระมัดระวังขึ้นบันไดของยุ้งที่เก็บข้าวโพดซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ บ้าน  ขาของเจ้าหนูเกร็งเป็นเกลียวเพราะต้องฝืนน้ำหนักเอาไว้มาก เจ้าหนูก้มตัวเทฝักข้าวโพดลงไปโดยที่ยังไม่ได้ปลดตะกร้าออกจากหลัง ข้าวโพดกลิ้งไปกองรวมกันเป็นกองใหญ่ ฝุ่นผงจากข้าวโพดฟุ้งกระจาย เจ้าหนูมองกองข้าวโพดด้วยความพึงพอใจ มันมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในวันเดียวเพราะมีเพื่อนบ้านมาช่วยกันมากมาย


 


อาระเทข้าวโพดจนเหลือแต่ตะกร้าว่างเปล่าแล้วรีบลงจากบันได เพราะมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนกำลังจะนำข้าวโพดขึ้นไปเก็บรวมกันในยุ้ง


 


"กี่เที่ยวแล้วล่ะ" ใครคนหนึ่งถามอาระ


"สอง" เจ้าหนูตอบ


 


อาระเดินอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปขนข้าวโพดเที่ยวใหม่ ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนนั่งพักเหนื่อยก่อนจะกลับไปยังไร่ข้าวโพด


 


อาระเดินไปร้องเพลงไป อากาศยามเย็นอบอุ่นสบาย ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์สีแดงอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าใดนัก แค่เลยทุ่งข้าวโพดไปหน่อยเดียวเท่านั้นเอง!


 


เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ที่อาระและเพื่อนบ้านทั้งหญิงชายช่วยกันขนข้าวโพดที่เก็บเสร็จแล้วมากองรวมกันไว้ในยุ้งเพื่อรอเวลาที่พ่อค้าคนพื้นราบจะมารับซื้อ


 


"เที่ยวสุดท้ายแล้ว" อาระพูดกับตัวเองเมื่อยกตะกร้าขึ้นสะพายไว้ข้างหลัง ข้าวโพดทุกฝักถูกเก็บหมดแล้ว


 


เหล่าดาระอั้งเดินเรียงกันไปเป็นแถว อาระเดินใกล้กับพ่อและแม่ เม็ดเหงื่อที่ผุดพรายอยู่ทั่วใบหน้าไหลเป็นทางผ่านแก้มและหยดลงสู่พื้นดิน


 


เมื่อมองจากที่ไกล  จะเห็นขบวนแถวของชาวเขาพากันเดินไปตามเส้นทางที่ตัดผ่านทุ่งข้าวโพด มีแสงอาทิตย์ส่องมาจากด้านหลัง


 


การเคลื่อนไหวและอิริยาบถของพวกเขา เป็นเหมือนจังหวะและท่วงทำนองของลำนำแห่งขุนเขาซึ่งเปี่ยมล้นด้วยความมีชีวิตชีวา ดูสง่างาม ทว่าถ่อมตน.