Skip to main content

ชวนมารักกัน ตอน 3 : นอนหงายแล้วทำเป็นตาย

คอลัมน์/ชุมชน

 


ปัญหาใหญ่ที่สุดในขณะนี้คืออาหาร เพราะเราได้ครอบครัวชาช่ามาในช่วงที่ครอบครัวเราค่อนข้างลำบาก หัวหน้าครอบครัวตกงาน ถ้าเขาไม่ตกงาน ครอบครัวชาช่าก็จะสุขสบาย


 


เขามีอาชีพเป็นนักดนตรี  รับจ้างเล่นดนตรีในร้านอาหาร ทุกค่ำคืนจะมีอาหารมากพอที่จะเอามา เลือกเอาได้เลยว่าจะเอาอาหารแบบไหน แค่รอให้พนักงานเสิร์ฟเอาจานมาเก็บก็จะมีอาหารเหลือกลับมา คนกินข้าวนอกบ้านชอบกินของเหลือติดจาน หรือสั่งมาจนเหลือทิ้ง โดยเฉพาะเมื่อมีงานเลี้ยง เราจะเก็บเอามาฝากเพื่อนข้างถนนได้ด้วย


 


ช่วงนี้ร้านอาหารไม่ต้องการดนตรีแล้ว เขาเปิดเพลงจากเครื่องเล่นซีดี บางร้านก็มีคาราโอเกะแทน เพราะเป็นที่นิยม นักดนตรีจึงตกงานกันไปตามๆ กัน


 


ครั้นจะไปเล่นดนตรีเปิดหมวกข้างถนนเหมือนพวกวัยรุ่นก็ไม่ได้แล้ว มันดูไม่ดี เรื่องนี้แกก็คงไม่เข้าใจหรอก ชาช่า


 


การที่เราต้องรักษาความดูดีนั้นมันลำบากอย่างไร  ถึงแกก็เถอะ แกก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ต้องดูดีเหมือนกันจะไปเที่ยวคุ้ยขยะหาของกินอยู่ข้างถนนก็ไม่สมควรใช่ไหม จะเอาเศษอาหารที่คนทิ้งมากินก็ไม่ดี หรือจะไปลักขโมยเขากินก็ไม่ได้


 


เพราะแกไม่ได้ถูกฝึกมาจากครอบครัวที่ขี้โกง แกก็มาจากครอบครัวที่มีศักดิ์ศรีและได้รับการอบรมมาอย่างนี้  คนรักของแก้วตาเขาทำงานเพื่อสังคมเพื่อคนส่วนใหญ่


 


คราวนี้…เราต้องมีการปันส่วนอาหารกัน ชะอมควรกินมากหน่อยเพราะต้องให้นมลูก  ลูก ๆ ทั้งสองก็กินเก่งเหลือเกิน ชาช่าเป็นพ่อควรจะกินแต่พอมีชีวิตอยู่ได้  ไม่ต้องกินให้อิ่มมาก ฉันก็จะกินให้น้อยลง ไม่มีปัญหาอะไรหรอกฉันกินมาเยอะแล้ว   ฉันรู้รสชาติของอาหารดีอาหารอร่อยมาแล้ว ดังนั้น ถ้าเราจะต้องกินอาหารถูกๆ และกินน้อยดูบ้างก็ไม่เป็นไร


 


นี่เป็นข้อตกลงร่วมกัน  ชาช่ารับรู้จากอาหารที่น้อยนิดในจานของมัน  ฉันคิดว่ามันคงไม่ค่อยจะชอบใจนัก เพราะนอกจากมีน้อยแล้ว เจ้าตัวเล็กยังมาเดินวนไปมาเหมือนจะมาดูว่าในจานอื่นมีอาหารอะไรบ้าง


 


ทั้งที่จริงๆ แล้วเป็นอาหารอย่างเดียวกัน สำหรับทุกชีวิตในบ้าน บางมื้อเป็นข้าวต้มใส่หมูสับเล็กน้อย บางมื้อก็เป็นข้าวคลุกไข่ตุ๋น ต่างกันตรงที่มีกระเทียมเจียวโรยหน้า ครอบครัวชาช่าไม่ต้องกินกระเทียมเจียว


 


ฉันก็ได้แต่ปลอบใจบอกมันว่า ไม่นานแก้วตาก็จะมารับพวกแกกลับไปอยู่ที่บ้านจัดสรรหลังใหม่ แกจะได้กินอาหารเป็นกล่อง อาหารที่ทันสมัย เนื้อกระป๋องและอื่นๆ


 


ผ่านไปหลายวันนับเดือน แก้วตาหญิงสาวที่อุ้มพวกมันมาไม่ติดต่อกลับมาเลย เธอคงวุ่นอยู่กับการย้ายบ้านหรือตกแต่งบ้านใหม่


 


"เกิดเขาไม่มารับพวกแกจะทำไงดี" ฉันถามชาช่า มันนั่งคอตกลิ้นห้อย


 


"พวกแกมาอยู่ในช่วงที่เราลำบากแท้ ไม่ค่อยจะมีงานทำ และงานที่ทำก็ไม่ค่อยจะได้เงิน เป็นงานเพื่อส่วนรวม แกไม่รู้ แกไม่เข้าใจหรอก ชาช่า"


 


นางชะอมนอนให้ลูกดูดนมอยู่ใกล้ ๆ เงยหน้าขึ้นมองเหมือนจะบอกว่าเข้าใจ


"งานเพื่อส่วนรวมหรืองานช่วยๆ กัน ครั้นจะไปถามเรื่องเงินหรือแรงงานค่าจ้าง ก็กลัวพวกเขาจะเสียความรู้สึก"


 


ชาช่า เข้ามาเลียมือเหมือนปลอบใจ


             


สมศรี ลูกสาวตัวเล็กเขย่งเท้าเดินสองขาเข้ามาเกาะ ในขณะที่สมพรเอาปากคาบชายกระโปรงดึงไปมา  มันชอบเล่นชายกระโปรงมาก ยิ่งกระโปรงยาวลากพื้นเดินไปไหน มันก็ไล่ตาม


 


พลันฉันคิดขึ้นได้ว่า ฉันจะฝึกเจ้าลูกเล็กให้เป็นนักแสดง เจ้าสมพรตัวอ้วนดูตลกและน่ารัก พุงป่องออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่ไม่ใช่ประเภทสวยงามแน่


 


เอาล่ะ สมศรีมาเต้นระบำกัน เอาจังหวะง่าย ๆ ก่อน หนึ่ง สอง หนึ่งสองสามสี่ วัน ทู ทรี สามสี่ห้าหก  ฉันเริ่มต้นด้วยการจับขาหน้าเจ้าสมศรีชูขึ้น และขยับตัวมันไปมาตามจังหวะสองสามครั้งแล้วหยุดพัก สองสามครั้งแล้วหยุดพัก


 


หลักสูตรต่อไปแกต้องหัดไหว้ สวัสดี สวัสดี แค่จับมือทักทายไม่ได้แกต้องยืนสองขาแล้วยกขาหน้าขึ้นมา สวัสดี สวัสดี


 


ส่วนเจ้าสมพรนั้นไม่ต้องฝึกมาก เอาแค่นอนหงายทำเป็นตาย


 


เรื่องนอนหงายแล้วทำเป็นตาย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะชาช่า  


 


เพราะต้องทำใจให้ยอมรับความไร้ศักดิ์ศรีก่อน จึงจะนอนหงายทำเป็นตายได้