Skip to main content

แด่ความรักที่บ้านแม่โต๋

คอลัมน์/ชุมชน

มุกรื่น


 


ความรักของครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่โต๋เป็นเรื่องที่งดงามมาก


 


- - -


 


บนดอยสูงของจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานที่ที่น่าทึ่งอยู่แห่งหนึ่ง นั่นคือโรงเรียนบ้านแม่โต๋


 


โรงเรียนที่มีครูอยู่แค่สิบกว่าคน มีเด็กอยู่ไม่มาก อุปกรณ์การเรียนไม่พร้อม อาหารการกินไม่ค่อยสมบูรณ์ นักเรียนที่นี่ไม่มีทุนทางวัตถุอะไรเทียบเท่ากับนักเรียนในเมือง


 


แต่ความสุขในชีวิตของพวกเขากลับอาจทำให้ใครบางคนอยากรู้สึกได้อย่างนั้นบ้าง


 


โรงเรียนแห่งนี้มีครูใหญ่ชื่อครูประยูร คำชัย ผู้ชายที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทั้งครูและนักเรียนในโรงเรียน  ครูที่เดินทางไกลไปกับครูหนวดเพื่อไปรับสมัครเด็กเข้าเรียน ซึ่งเด็กบางคนมีบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนเกือบร้อยกิโลเมตร


 



ภาพจาก  http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3892984/A3892984.html


เด็กๆ ต้องอยู่กินนอนในโรงเรียนระหว่างที่เรียนหนังสือ โดยพักอยู่เรือนนอนร่วมกับเพื่อนๆ   เด็กผู้หญิงช่วยกันทำอาหาร เด็กผู้ชายช่วยกันเลี้ยงสัตว์ เด็กที่นี่ ไม่ทะเลาะกัน ข้าวของที่นี่ไม่เคยหาย ครูที่นี่ไม่ถือไม้เรียว ทั้งวันที่นี่มีแต่เสียงหัวเราะ


 


ยามมีนักเรียนป่วยไข้ ความห่วงใยของครูเป็นสิ่งที่นักเรียนสัมผัสได้


ยามที่ปกติสบายดี ครูมีแต่คำพูดห่วงหาอาทร หยอกล้อ ลูบหัว


 


ครูรักเด็ก เด็กรักครู และเด็กรักใคร่สามัคคีกัน


เมื่อครูแดงมีความจำเป็นต้องไปจากโรงเรียน หรือเมื่อครูใหญ่ไม่สบาย ฉันเห็นน้ำตาของเด็ก ๆ


น้ำตาของครู และน้ำตาของฉันเอง


 


- - -




ภาพจาก http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3892098/A3892098.html
           


มีความฝันที่เล่าต่อจากพี่ๆ มาว่า เมื่อเรียนจบม.3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน เด็กที่กำลัง


จะเรียนจบจะได้ไปเที่ยวทะเล


 


เพราะความรักของครูใหญ่ที่คิดว่า เด็กบ้านแม่โต๋เป็นเด็กที่อยู่ต้นน้ำ ครูจะพาไปดูที่ปลายน้ำ


 


ทันทีที่ถึงและรู้ว่าเป็นทะเล  เด็กๆ ดีใจกับผืนน้ำที่อยู่ตรงหน้า นี่คือทะเลที่รอคอยมานาน วิ่งหัวเราะร่า กรีดเสียงอย่างไม่สนใจใคร


 


เป็นความสุขที่ไม่มีจริตเจือปน


 


แววตาของเด็กที่บ้านแม่โต๋นั้น ฉันจะบอกยังไงดี ทั้งมีแววสนใจ ทั้งแจ่มใส ทั้งซื่อ ทั้งประหม่าและอายอยู่ในนั้น


 



ภาพจาก  http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3892984/A3892984.html


 


ฉันดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า การเติบโตมีเรื่องของการยอมแลกความเป็นเด็กและมีเรื่องน่าเหนื่อยหน่ายของการเป็นผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลัง


 


เด็กๆ ที่นี่กำลังบอกฉันว่า ความทรงจำดีๆ จากเรื่องในอดีตเป็นสิ่งน่าหวงแหน และความสุขอยู่ในทุกวันที่มันเป็นอยู่  เพราะพอเวลาผ่านไป เราโตขึ้น อายุมากขึ้น เราอาจไม่มีเวลานึกถึง หรือรู้สึกกับบางเรื่องเหมือนตอนเมื่อเราเป็นเด็ก สิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้เด็กคนเดิมในตัวเรายังคงอยู่ ก็คือการทะนุถนอมรักษาเด็กคนนั้นเอาไว้


 


พิธีอำลาเรียนจบให้นักเรียนชั้นสูงสุดของโรงเรียน มีการมอบใบประกาศนียบัตรจากครูใหญ่ที่ครูอ๋อยว่าเป็นเหมือนใบปริญญา ที่บอกนักเรียนว่าแม้วันข้างหน้าเธอจะไม่ได้เรียนต่อ แต่เธอก็ได้รับปริญญาสูงสุดของโรงเรียนแล้ว


 


ยิ่งตอนผูกข้อมือให้นักเรียน  ไม่มีคำพูดไหนจะดีเท่าการได้ยินครูที่รักฝากเราว่า "รักษาสุขภาพด้วย"


หัวใจเสียสละของครูที่โรงเรียนบ้านแม่โต๋ทำด้วยอะไรนะ  ทำไมยิ่งใหญ่ขนาดนี้  ฉันอยากทำให้คนดีเหนื่อยน้อยลง


 


เมื่อเขียนจบ ฉันบอกตัวเองว่า ฉันเขียนบทความชิ้นนี้ให้ดีได้ไม่เท่ากับเรื่องราวของพวกเขาเลย.


 


หมายเหตุ


เว็บไซต์ภาพยนตร์   www.pigonine.com


 


 


 


สามารถชมภาพยนตร์เรื่องนี้ที่โรงภาพยนตร์ลิโด้ สยามสแควร์ ได้จนถึงวันที่ 27 พ.ย. 48 รอบเวลา 18.30 น. และหลังจากนั้นคืองานเทศกาล British Film Festival 2005 ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ในวันที่ 28 พ.ย. 48 และวันที่ 2 ธ.ค. 48 รอบเวลา 19.00 น.


หรือสามารถร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนการศึกษาให้น้องๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านแม่โต๋ได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ


สาขาสะเมิง เลขที่บัญชี 544-011992-2