Skip to main content

กลุ่มเยาวชนชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพม่า เมล็ดพันธุ์ที่กำลังเจริญเติบโต

คอลัมน์/ชุมชน

 


 


กลุ่มเยาวชนชาติพันธุ์ต่างๆ ในพม่า (Nationalities Youth Forum)  หรือเอ็นวายฟอรัม คือการรวมกลุ่มของเยาวชนชาติพันธุ์ต่างๆ ทั้งหญิงและชายในพม่า  ซึ่งพวกเขาและเธอกำลังบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันที่กำลังเติบโตงอกงามแตกกิ่งก้านใบเป็นอนาคตอันสวยงามประเทศพม่าต่อไป

ตินวู
เจ้าหน้าที่ประสานโครงการเอ็นวายฟอรัม ย้อนรอยอดีตให้เราฟังก่อนที่จะมีการจัดตั้งกลุ่มเอ็นวายฟอรัมว่า นับตั้งแต่พม่าได้รับอิสรภาพจากอังกฤษในปีพ.ศ. 2491 จนถึงทุกวันนี้ พม่ายังเป็นประเทศที่ไม่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเสียที การปกครองโดยระบบเผด็จการทำให้เกิดช่องว่างระหว่างศูนย์กลางและชนกลุ่มน้อย เกิดความไม่เท่าเทียมกันทั้งทางด้านสิทธิและเกิดการเลือกปฏิบัติระหว่างชนกลุ่มน้อยและคนพม่า

"เวลาเราพูดถึงพม่า เรามักจะได้ยินแต่เรื่องราวของรัฐบาล การเรียกร้องประชาธิปไตยของนางอองซานซูจี ซึ่งล้วนแต่อยู่ในส่วนกลาง คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักเรื่องราวของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นในพม่ามากนัก ไม่รู้ว่าตอนนี้กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่พม่าโดยเฉพาะเยาวชนมีปัญหาอะไรบ้าง พวกเราอยากให้สังคมภายนอกและนานาชาติรับรู้เรื่องราวของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพม่าให้มากขึ้น "

...นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการรวมตัวกันของกลุ่มเยาวชนชาติพันธุ์พม่าขึ้นมา

เอ็นวายฟอรัม มีสมาชิกทั้งสิ้น 11 กลุ่ม ประกอบด้วย อาระกัน ชิน คะฉิ่น กะเหรี่ยง คะเรนนี กะหยัน (กะเหรี่ยงคอยาว) ลาหู่ มอญ ปะหล่อง ปะโอ และไทยใหญ่  สมาชิกทั้งหมดมาจากการรวมตัวกันของเยาวชน 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม United Nationalities Youth League (ยูเอ็นวายแอล) และกลุ่ม Nationalities Youth Development Committee (เอ็นวายดีซี) โดยกลุ่มยูเอ็นวายแอลจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมด้านเยาวชนกับการเมือง ส่วนเอ็นวายดีซีจะเน้นหนักไปด้านเยาวชนกับการพัฒนา


 


กว่าทั้งสองกลุ่มจะรวมตัวกันได้ต้องมีการประชุมปรึกษาหารือกันหลายครั้ง เพื่อคำนึงถึงผลดีผลเสียที่จะได้รับในการตั้งกลุ่มดังกล่าว แต่เมื่อที่ประชุมตระหนักดีว่าการตั้งกลุ่มเอ็นวายฟอรัมย่อมมีผลดีมากกว่าผลเสีย ในวันที่ 27 มีนาคม 2546 ทั้งสองกลุ่มจึงตกลงมารวมตัวกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน เมื่อมารวมกลุ่มกันแล้วจึงได้ให้ความสำคัญทั้งกิจกรรมเยาวชนกับการเมืองและเยาวชนกับการพัฒนาโดยอยู่บนพื้นฐานของความปรองดอง ความสามัคคี และความเข้าใจถึงความแตกต่างและเท่าเทียมกัน

สำหรับวัตถุประสงค์หลักของกลุ่มคือการสร้างผู้นำเยาวชนให้กลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศ


ดังนั้น กิจกรรมหลักของกลุ่มคือมุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจแก่เยาวชนทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกิจกรรมที่ทำอยู่ประกอบด้วยการวิเคราะห์โครงสร้างการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้มีการให้ความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและความรู้ดั้งเดิมเช่นเรื่องสมุนไพร กิจกรรมเด็กและสันติภาพ พร้อมทั้งมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างข้อตกลงร่วมกันในด้านสันติภาพ โดยสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนรวมกันด้วยความสามัคคีปรองดอง ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน ยอมรับถึงความแตกต่างของแต่ละกลุ่มชน ไม่มีการแบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติ

ในปี 2548 - 2549 เอ็นวายฟอรัมมีกิจกรรมที่สำคัญคือการพัฒนาชุมชนในพม่าบริเวณชายแดนไทย - พม่า เพื่อให้เยาวชนชาติพันธุ์ในพม่าได้เข้ามาอบรม และนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาชุมชนของตนเองต่อไป เอ็นวายฟอรัมไม่เพียงแต่จะสร้างเครือข่ายและทำกิจกรรมร่วมกันเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์เท่านั้น แต่พวกเขายังได้พยายามเผยแพร่ความรู้ เรื่องราวและปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในพม่าให้สังคมภายนอกรับรู้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำโครงการร่วมกับ CAP (Children As Peacebuilding) เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ความรุนแรงทางเพศ การอพยพของแรงงานต่างด้าว หรือปัญหาโรคเอดส์และร่วมการประชุมด้านสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติ

"งานที่พวกเราทำอยู่มันเหมือนกับเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อวันที่ความฝันของพวกเราจะเป็นจริง นั่นคือเมื่อไรที่พม่ามีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ พวกเขาสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันด้วยความปรองดองและเข้าใจกันแม้จะมาจากต่างชนเผ่า ไม่หวาดระแวงกัน เพราะเมื่อทุกคนมารวมตัวกันก็ล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน และพยายามทำให้สิ่งที่ตนเองคาดหวังไว้เป็นจริง"

ถึงแม้ว่าสมาชิกในเอ็นวายฟอรัมนี้จะมีความหลากหลาย จนหลายคนคิดว่าอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่ด้วยเจตนารมณ์ขององค์กรที่มีข้อความหนึ่งเขียนไว้ว่า "ความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อยในอดีตควรให้หมดไปจากยุคสู่ยุค เยาวชนในรุ่นปัจจุบันควรจะสร้างความเป็นปึกแผ่นและมีบทบาทร่วมกันโดยมีความปรองดองและความเข้าใจเป็นที่ตั้ง"

ตอนนี้พวกเขาได้ร่วมกันทำตามฝัน...เมล็ดพันธุ์เหล่านี้กำลังเจริญเติบโตเป็นต้นกล้าที่แข็งแกร่งและงดงามเพราะได้รับการบ่มเพาะและได้รับการบำรุงเป็นอย่างดี เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สักวันความฝันของพวกเขาและเธอจะเป็นจริง  และจะเหลือร่องรอยฝันให้เยาวชนรุ่นหลังได้ก้าวตามต่อไป


 


(เผยแพร่ครั้งแรกในสาละวินโพสต์ ฉบับที่ 20 วันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2548)