ส.ว.รับเงินเดือนจากรัฐบาล?!

ขอเรียนว่าผมได้รับทราบข่าวมาบ้าง แต่ก็ไม่มี ส.ว.คนไหนมาตอบรับสารภาพว่ารับเงินจริงหรือไม่

แต่สังเกตจากพฤติกรรมในระยะหลังในการอภิปรายในสภา ก็น่าจะเป็นที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการรับเงินกันจริงๆ

เพราะบางเรื่องก็อภิปรายไปเถอะ พูดไปเถอะ ไม่มีผลต่อการลงคะแนนแต่ประการใด   ยิ่งน่าเคลือบแคลงใจมากที่สุดก็คือการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ  ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล  ปรากฎว่าล่ารายชื่อได้ ๑๐๐ รายชื่อพอดี! แต่ไม่พอกับเสียงที่ต้องใช้ตามรัฐธรรมนูญในการเปิดอภิปรายทั่วไป ๑๒๐ เสียงใน ๒๐๐ เสียง

ถ้าจะสงสัยว่าใครรับเงินเดือนจากรัฐบาลไปบ้างแล้ว ก็คงจะเป็นบางคนข้างที่ไม่มาลงชื่อนั้นละ   ต้องไปตรวจดูเอาเองว่าใครเป็นใคร

ขอเรียนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ไม่ลงชื่อในหนึ่งร้อยชื่อรับเงินจากรัฐบาลทุกคนนะ  บางคนผมดูแล้วไม่น่าจะไปรับเงินเดือนแค่ ๕๐,๐๐๐ หรือ ๑๐๐,๐๐๐ บาท   เพราะเขามีเงินมากกว่านั้นเยอะ

ใครไม่ได้รับเงินสินบนจากรัฐบาลอย่าร้อนใจ และขอได้รับคำชมเชยจากผมและพี่น้องประชาชนด้วยใจจริง

และถ้ารัฐบาลไม่ได้ให้ก็อย่าร้อนตัว เงินของใครที่เอามาแจก ส.ว.บางคนนั้นถือว่าเป็นเงินร้อน  ใครรับเงินร้อนไป ตัวก็ร้อนไปด้วย ใครเอาเงินร้อนไปเก็บก็คงจะต้องคิดให้ดี อย่าไปหลงกับเงิน

เหลืออีกไม่กี่เดือนท่านต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.แล้ว จะให้ชาวบ้านเขาด่า หรือเขาชม  ท่านคิดดูเอาเอง พี่น้องประชาชนเขาดูอยู่ ฟ้าดินมีตา   ใครคิดร้ายต่อบ้านเมือง สวรรค์ต้องลงโทษอย่างแน่นอน พระเจ้าจะไม่ปราณี กรรมต้องตามสนอง!

สัปดาห์นี้ได้ข่าว ส.ว.บางท่านไปรับเงินเดือนจากรัฐบาล ผมก็เขียนไม่ออก คิดอะไรก็ตันไปหมดผิดหวังที่ไม่สามารถทำงานได้ตามที่หวัง  รัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว.เป็นสภาพี่เลี้ยงรัฐบาล ไม่ใช่เป็นสภารับใช้รัฐบาล

ถ้าบทบาทของการตรวจสอบ บทบาทในการแต่งตั้ง และถอดถอนบุคคลในองค์กรอิสระพิการ  แล้วรัฐธรรมนูญที่คุยว่าดีติดอันดับหนี่งในสิบของโลกจะเป็นจริงได้อย่างไร

ผมเรียนท่านตามตรงว่า ในสองปีแรก  ส.ว.ชุดแรกนี้ทำงานได้ดีมาก พอปีที่สาม ที่สี่ชักจะเป๋   ยิ่งปีที่ห้า ไม่ต้องพูดถึง อย่าให้เซด! เหมือนเรือจะเทียบท่า  ลูกเรือบางคนไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทำอะไรที่จะมีอะไรที่เหมือนเดิม  ลูกเรือที่เคยมีอำนาจ วาสนา มีเงินเดือน มีลูกน้อง ไปไหนมาไหนสะดวกสบาย   พอหมดจากตำแหน่ง ก็ต้องสูญสิ้นสิ่งเหล่านี้ไป

จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าต้องมีบางคนคงเป็นไปตามข่าวลือ ? เมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้

ก็ขอเล่าจากสภาให้ท่านฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า เลือกใครมาเป็น ส.ว.สมัยหน้าให้ดูให้ดี อย่าเอาร่างทรงของพรรคการเมืองเข้ามา  เขาจะเป็นคนโดนสั่งซ้ายหัน ขวาหัน  พอเป็น ส.ว.ข้างรัฐบาลก็เชียร์สุดตัว ด้าน ส.ว.ข้างฝ่ายค้านก็ค้านสุดใจ

แล้วเราจะมีส.ว.ไปทำอะไร มีแค่สภาผู้แทนราษฎรอย่างเดียวก็พอแล้ว  องค์กรอิสระก็ไม่ต้องให้ ส.ว.เลือกจากบัญชีที่ ส.ส.ส่งมาให้หรอกครับ เพราะส่งแมวมา จะมาให้ ส.ว.แปลงให้เป็นเสือคงไม่ได้  ที่สำคัญพอมีแม่เสือหลงเข้ามา ก็โดนตีความไม่ให้ทำงานอีก

เห็นแล้วเสียดายกับ ส.ส.ร. ที่อุตส่าห์มองโลกในแง่ดี เขียนรัฐธรรมนูญเอาไว้ให้อย่างสวยแต่รูป แต่จูบแล้วไม่หอมเลย

ถึงเวลาหรือยัง ? ที่ต้องช่วยกันร้องกันดังๆว่า ฟังเสียงประชาชนบ้างโว้ย......