รถเมล์สาย 511
คอลัมน์/ชุมชน
1
รถติด คนบนรถเมล์แอบถอนหายใจกันหลายคน เช้านี้ พวกเราผู้ร่วมขบวนรถเมล์สาย 511 ต้องไปทำงานสายกันอีกแล้ว
ฉันโหนราวเหล็กจนเหล็กอุ่น
คนขับรถเมล์ปล่อยมือจากพวงมาลัย แอร์เย็นฉ่ำ เขาเอามือสองข้างซุกใต้ขาและห่อไหล่ ฉันเห็นแล้วยิ้ม เขาเหมือนเด็กๆ เวลาหนาวเลย
เมื่อถึงเวลารถเคลื่อนตัว เขาขับได้นิ่ม สุภาพมาก ไม่มีผู้โดยสารหัวทิ่มหัวตำใส่กัน คงเป็นเพราะเขายังมีหัวใจเด็กๆ อยู่กระมัง รถติดก็ไม่อารมณ์เสีย แต่นั่งนิ่งๆ ซุกมือใต้ขา หนีหนาว
2
วันนี้ คนขับรถเมล์ท่าทางไม่เหมือนเด็ก และขับรถได้สุดโหด ผู้โดยสารถูกเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวา และหัวทิ่มหัวตำใส่กัน พอรถเลี้ยววงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คนขับรถเมล์ผู้รักประชาธิปไตยก็เบรกรถเอี๊ยดกลางวงเวียนเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรม ผู้โดยสารหัวทิ่มหัวตำกันอีกรอบ
"โน่น โน่น ทะเบียนรถมัน XXXX ช่วยจำหน่อยนะ ดูมัน ดูมัน ชนแล้วหนีเรอะ"
แล้วคนขับรถเมล์ก็เปิดประตู เดินลิ่วๆ ไปที่รถอีกคันที่ติดแหง็กตรงทางไปโรงเรียนสตรีวิทย์ ผู้โดยสารไม่มีใครรู้ว่ารถถูกเฉี่ยวแม้แต่กระเป๋ารถเมล์ จึงคาดว่าน่าจะเฉี่ยวเล็กน้อยมากๆ เธอจึงกวักมือร้องเรียกเขา
"ตาพ่วง ! อย่าไปเลย มาดูก่อน ถ้ารถไม่เป็นอะไรมากก็ไปต่อเถอะ"
แต่เขาไม่สนใจ เดินหายไปในฝูงรถติดหน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ ผู้โดยสารได้แต่หันมามองกันตาปริบๆ เนิ่นนานพอสมควรแก่กาล กระเป๋ารถเมล์ก็ยืดอก ตะเบ็งเสียงอย่างสุภาพ
"ผู้โดยสารทุกท่านโปรดเก็บตั๋วรถกันไว้ให้ดีนะคะ"
นี่คือคำประกาศแรกอันเป็นสัญญาณเตือนภัยจากกระเป๋ารถเมล์ผู้มีร่างบึกบึนแล้ว เราแอบอธิษฐานกับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
อ้า วีรชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ช่วยพาเราให้ไปถึงที่ทำงานกันอย่างไม่สายมากด้วยเถิด แค่นี้ก็สายจะแย่แล้ว
แต่คำอธิษฐานไม่เป็นผล คำประกาศหนที่สองตามมาแล้ว
"เอาล่ะค่ะ ผู้โดยสารลงรถเลยค่ะ ทุกท่านสามารถต่อรถคันอื่นได้ทุกคันเลยนะคะ"
กลางวงเวียนที่ใหญ่มาก ทุกคนยืนเรียงแถวคอยต่อรถกลางถนน ฉันหัวเราะขำๆ
เออ ชีวิตแบบนี้มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ