Skip to main content

เหตุเกิดจากเรื่องนม ๆ...

คอลัมน์/ชุมชน

หมู่นี้มีอะไรแปลก ๆ เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับหน้าอกหน้าใจของคุณผู้หญิง เท่าที่ดู ๆ ก็ 3 ข่าวเข้าไปแล้วในเวลาไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นในเพิ่มคัพ ที่ดูรูปสินค้าแล้วน่าอึดอัด สงสารคนใส่อยู่ไม่หยอก เขาบอกในข่าวว่า ให้ใส่ไว้ 14 วัน แล้วจะอึ๋มขึ้น หนึ่งคัพ เช่น จาก คัพ A เป็นคัพ B (โอ้โห...) หรือ ข่าวครีมนวดหน้าอก ที่ Body Paint หน้าอกของสาว ๆ เป็นรูปไข่ดาว หรือ ล่าสุดที่เป็นข่าวครึกโครม คือข่าวตบนมที่ขึ้นหน้าหนึ่งและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก ก็แหม...ไปแสดงการตบอย่างเปิดเผยในส่วนที่พึงสงวนนี่นา



แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ได้มาเขียนบอกว่าจะอยากสนับสนุน หรือ คัดค้านสินค้าพวกนี้แต่อย่างใด เพราะพวกเขา (เจ้าของสินค้า) ก็มีสิทธิ์ที่จะประกาศสรรพคุณของสินค้าของเขา (อย่างมีจริยธรรม ไม่อวดอ้างเกินจริง ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่เป็นข่าว มักจะไม่ชัดเจนว่าอวดอ้างเกินจริงหรือเปล่า) ซึ่งบางครั้งก็ต้องมีการตรวจสอบจากทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น อย. สคบ. แต่ก็มักจะชักช้ากินเวลาหลายเดือนกว่าจะรู้ผล ดังนั้นต้องอยู่ที่วิจารณญาณของผู้บริโภคมากกว่าว่าจะมีความคิดแค่ไหน จะโดนพวกเขาจูงใจให้เชื่อได้โดยง่าย โดยไม่คิด เพราะฉะนั้นตัวเรานี่แหล่ะต้องรู้เท่าทันพวกเขา


เดี๋ยวนี้พวกเขามีวิธีโปรโมทสินค้ากันแบบผู้บริโภคตามไม่ทันทีเดียว โดยเฉพาะการสร้าง สถานการณ์ หรือจัดกิจกรรมแปลกๆ (โดยเฉพาะ กิจกรรมที่คนอยากรู้อยากเห็นอย่างเรื่องเกี่ยวกับนมๆ ที่กล่าวมา หรือ เอาดาราดังๆมาทำกิจกรรม) ทำให้มันเป็นข่าวซึ่งอาจจะตั้งใจหรือเปล่า ก็ไม่อาจทราบได้ แต่หากลงข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งแล้วละก็ จะปลุกกระแสให้คนสนใจสินค้า เป็นที่ฮือฮา แบบที่เรียกกันว่า Talk of the Town ทีเดียว จะ Talk กันในด้านบวกหรือด้านลบก็ไม่รู้ล่ะ รู้แต่พอเป็นข่าวแล้วใครๆ ก็รู้จักสินค้านี้ก็แล้วกัน


ทีนี้พอ Talk กันมากๆ ก็เกิดความต้องการทดลองสินค้า....สินค้าก็ขายได้ขายดีตามไปด้วย แบบที่เรียกว่าเจ้าของสินค้าแทบไม่ต้องเสียค่าโฆษณาทางสื่อต่าง ๆ เลย แค่สร้างสถานการณ์ หรือกิจกรรมที่หวือหวา แหวกแนว นักข่าวก็จะสนใจไปทำข่าว เอามาลงหนังสือพิมพ์กันเอง แถมได้ลง Position ที่ดีมากๆ คือหน้าหนึ่ง เท่ากับได้ Free Media มูลค่าไม่รู้เท่าไหร่


เมื่อปีหรือสองปีที่แล้ว ที่ญี่ปุ่นก็มีป้ายโฆษณากลางแจ้งป้ายหนึ่งเป็นโฆษณารองเท้ากีฬายี่ห้อหนึ่งที่ใช้คนจริงๆ 2 คน ขึ้นไปห้อยลวดสลิงเตะฟุตบอลกับบนป้ายโฆษณาที่สูงประมาณตึกเป็นสิบชั้นในเขตชินจูกุ (ถ้าจำไม่ผิด) ป้ายโฆษณานี้เป็นที่ฮือฮามากจนได้ออกข่าวภาคค่ำเกือบทุกช่องในญี่ปุ่น และดังข้ามประเทศขนาด CNN ก็มาทำข่าวออกอากาศไปทั่วโลก


เห็นไหม ลงทุนค่าโฆษณาแค่ป้ายเดียว แต่ได้ Free Media ทั่วโลกมูลค่ามหาศาล คุ้มจริงๆ แล้วพอเป็นข่าวอย่างเช่นกรณีนี้ ก็จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้าดูน่าเชื่อถือ...ก็ขนาด CNN ยังให้ความสำคัญมาทำข่าว จะไม่ให้น่าเชื่อถืออย่างไรไหว จริงไหม?


ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะบอกว่า สมัยนี้นักโฆษณาประชาสัมพันธ์เขาคิดวิธีโปรโมทสินค้ากันแบบล้ำหน้าไปมากๆ เพราะ ฉะนั้น เราในฐานะผู้บริโภคต้องคิดให้ดี วิเคราะห์ให้มาก อย่าเชื่อตามที่สื่อเสนอ เพราะสื่อเป็นเพียงตัวกลางที่นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ซึ่งตัวเราต้องกลั่นกรองอีกทีว่าดีหรือไม่ อย่าไปตามกระแสที่ว่า ใคร ๆ ก็ใช้กัน ใคร ๆ ก็มีกัน


อีกทั้งขอฝากสื่อทั้งหลายด้วยว่า อย่าได้ตกเป็นเครื่องมือในการโปรโมทสินค้า ให้เจ้าของสินค้าเขาใช้ประโยชน์ของสื่อได้ง่ายนัก ข่าวที่พิจารณานำเสนอนั้นควรเป็นข่าวที่มีคุณค่า และต้องพิจาณาผลกระทบที่จะเกิดกับสังคมด้วย เพราะต้องยอมรับว่าสื่อมีส่วนอย่างมากในการการสร้างกระแสค่านิยมของคนในสังคม อย่างตอนนี้เห็นข่าวเรื่องนม ๆ บ่อย ๆ ก็เชื่อว่าสาว ๆ ก็อยากอึ๋มกันไปกว่าค่อนเมืองแล้ว