Skip to main content

พฤกับพอโมลา

 


 



 


 


 


ภาพนี้  ผมดักจับมาได้  ผมไม่ได้เอ่ยคำขออนุญาตถ่ายภาพ  และไม่ได้จัดวางใบหน้า  สีหน้าแววตาท่าทาง   ผมดักจับมาได้จริง ๆ  ภาพหลังสุดของพฤกับพอโมลา  พ่อกับลูกสาวที่อิงแอบแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน


 


หลังเป็นข่าวฮือฮา  เขาเดินเท้าจากเชียงดาวไปกรุงเทพ  ร่วมกับกลุ่มที่เรียกว่าธรรมชาติยาตรา  จากป่าสู่เมือง  จากป่าก่อถึงป่าซีเมนต์  จากแดนดินนกฮูกบนกิ่งไม้  ถึงนกฮูกในคอกกรงขัง  จากรอยเท้าสู่รอยเท้า  จากก้าวสู่ก้าว  นานเป็นเดือน


 


ออกเดินบอกปากเปล่า  ว่าคนอยู่ร่วมกับป่าได้  ป่าอยู่ในคน  คนอยู่ในป่า  ในป่ามีทั้งลูกหมาลูกคน  ในคนมีทั้งป่าและลูกหมา 


 


คนรายทางมากมายไม่เชื่อ!! ว่าคนกับลูกหมาอยู่ร่วมกันในป่าไม่ได้  ขณะเดียวกันคนรายทางมากมายเชื่อและเป็นกำลังใจให้  พร้อมจะยืนยันบอกต่อ ว่าลูกหมาสามารถอยู่ร่วมกับคนได้แบบไม่เกี่ยงว่าจะเดินข้างหน้าหรือเดินตามหลัง และไม่อายหมาป่า


 


นับเดือน  เขามีพอโมลาจากกลิ่นเสื้อผ้าที่พฤนำติดตัวไปด้วย  สายตาพอโมลาอยู่บนดวงดาวความฝัน  สิ่งที่พ่อทำ  ไม่ได้มุ่งหมายแต่การคิดกระทำแทนคนอื่น  แต่ทำเพื่อลูกด้วย   


 


บนแนวทางคนเล็กๆ ตาเล็กๆ หยีๆ ยียวนอยู่เบื้องหน้าเส้นผมยาวๆ  บนเกือกแตะที่ขาดไปคู่แล้วคู่เล่า


ต้นทุนชีวิตบอกกล่าว เริ่มต้นด้วยการเดิน  เงียบ และพูด 


 


พฤไม่ใช่ลูกของคนรวยเงินทอง  ไม่ใช่ลูกชายนักการเมือง  เขาจึงไม่มีโอกาสเข้าถึงสื่อแบบขยับเขยื้อนไปไหนแล้วมีคนคอยเอาไมค์จ่อปาก  จับจ้องด้วยแสงไฟแฟลช  วิพากษ์วิจารณ์  เรื่องเล็กๆน้อยๆ เสียงพูดเบาๆ ก็ให้กำเนิดเสียงดังเป็นพลุได้  กัมปนาทขึ้นเหนือคนหิวข่าว  และคนผัดซีอิ๊วบนโต๊ะข่าวต้องตีความ  ขึ้นโต๊ะเสิร์ฟผลกระทบถึงคนข้างเคียง 


 


และอาจหมายถึงสัญญาณบางอย่าง   เชื่อมโยงถึงบารมีลมหายใจของพ่อ


 


พฤเป็นลูกชายของคนทำนาทำไร่ตามป่าเขา  ที่ใครเอ่ยชื่อแล้ว   รู้ทันทีว่ามาจากป่าเขา   หลายคนคุ้นหู   ชื่อเสียงเรียงนามในความธรรมดาสามัญ  บอกป่าวร้องบอกสิ่งธรรมดา จนดูไม่ธรรมดา  สิ่งง่ายๆ แต่ไม่ง่ายจริงๆ  เรื่องยากๆ แต่ไม่น่าสนใจ  เรื่องของคนกลุ่มน้อยของชนกลุ่มน้อยอีกที 


 


พะตีจอนิ  โอโดเชา  สนิทแน่นอยู่ในสายเลือด   ตรึงอยู่ในแววตาพฤกับพอโมลา 


 


เขาเห็นพ่อเดินเข้าออกระหว่างหมู่บ้านกับเมือง  พ่อเดินหายเข้าไปในคนแปลกหน้า   คนแปลกหน้ามาเยือนถึงประตูบ้าน  แบบคาดหวังคำอธิบายถึงรายรอบในดงลึก  สู่คน สัตว์ พืช ธรรมชาติ ป่าเขา  ในแง่ของความหมายที่สองตามองไม่เห็น  ต้องเพ่งมองด้วยดวงตาที่สาม สี่ …  จึงจะเห็นความจริง  ความงาม  สุนทรียะ  เหตุผลเชิงตรรกะ  เหตุผลโลกียชน  อภิปรัชญา เหตุผลในร่มเงานักบวชไม่ใส่เครื่องแบบนักบวช 


 


พอเขาออกเดินเท้า  ข้างในเขาร้องเพลงที่พ่อเคยฮึมฮัมล่วงหน้ามาก่อน  อย่างน้อย  เขาตกอยู่ในความสนใจของแสงแดดและกลางคืนนานหลายวัน


 


เขาไปถึงกรุงเทพ  เยี่ยงอีเก้งหลงเข้าไปในเมือง  ดูแปลกหน้าแปลกถิ่น ไม่กลมกลืน ไม่เชื่อง เก้ๆ กังๆ   ก๋วยบนแผ่นหลังไม่อาจสั่นสะเทือนใจชาวเมือง 


 


ก๋วยก็คือก๋วย  ภาชนะที่เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างเตาไฟในบ้านกับทุ่งนาป่าไร่  คำอธิบายในความสำคัญของป่า  และมีคนอยู่ตรงนั้น  ดูจะน่าสนใจน้อยกว่าคำสั่งโซ้ยบะหมี่ข้างถนนกลางเมือง  


 


การเดินทางไกลของเขาได้อะไรบ้าง   คำถามนี้  เขาหัวเราะ  เขามีชีวิตอยู่กับการเดินทางไกลอยู่แล้ว  แค่ก้าวเดินไกลออกไป ไกลออกไป  เท่านั้น  ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้าอยู่แล้ว  ไม่เดินเข้าไปเมืองไปตามถนน  ก็เดินไปตามทางเก้งทางหมูป่า


 


เขากลับบ้าน  แบบลืมว่ากำลังเดินนับระยะทาง


เขากลับบ้าน  ด้วยสัตย์ซื่อต่อปลายตีน 


เขากลับบ้าน  แบบรู้หัวนอนปลายตีน  ไม่เคยเบี่ยงเบนความสนใจเป็นอื่น 


กลับไปทำนาบนภูเขา  หาปลาตามห้วย  เดินทางไปกับลูกน้อย  เขามีชีวิตกลมกลืนกับความเชื่อ  และศรัทธาในการมีชีวิต


 


คนอยู่กับป่า  ต้องอยู่กันให้เห็น  เป็นให้ได้  ไม่ใช่งานนิทรรศการที่จบลงด้วยคำกล่าวเยินยอ  แล้วจากไปพร้อมกับบทสรุปของความสำเร็จในโปรเจ็คงานแสดง


 


วิถีชีวิตไม่ใช่บทบาทนักแสดงเพียงผิวผ่าน  แต่หมายถึงการตรึงร่างลงบนดินแดนอันโอฬาร วิหารทุกข์สุขอันจำกัดจำเขี่ย   


 


ผมดักจับภาพเขาได้ด้วยความรู้สึกเหมือนเจอปีกผีเสื้อป่าดงก่อแดงครั้งแรก  มองแล้วมองอีก  มองปีกสองโอบไออุ่น  บนทางเปลี่ยวทางป่า  ที่ซึ่งคนเดินแบกก๋วยกับแบกลูก  ใช้อวัยวะเดียวกัน


 


แผ่นหลัง