Skip to main content

หมายเหตุบนฝั่งน้ำปิง อะโวคาโด กับ ประตูน้ำ 500 ล้านบาท (จบ)

ผมไม่มีความรู้ปราชญ์เปรื่องเรื่องประตูน้ำ  จึงไม่รู้สึกเห็นดีเห็นงามในทันใด  ยิ่งต้องพยายามเข้าใจให้ได้ว่า  เกิดประตูน้ำก็หมายถึงการรื้อฝาย  ผมก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่  ประตูน้ำเกี่ยวกับฝายได้อย่างไร  แล้วประตูน้ำจะเกี่ยวกับอะโวคาโดได้อย่างไร


 


ยุทธวิธีกินหัวกินหาง  รวบหัวหางกินตรงกลางตลอดตัวหรือเปล่า 


 


ว่ากันว่า  ประตูน้ำหากเกิดขึ้นแล้ว  จะมีอาการโรคลักปิด-ลักเปิดระบาด  หรือพูดให้หดหู่มากกว่านั้น  ก็คือการปิดประตูตีแมว   เพียงแต่เปลี่ยนแมวเป็นน้ำ  คนเสียวไส้ที่สุดก็คือเจ้าของแมว   และเราต้องเสียแมวในที่สุด                                         


 


โรคลักปิด-ลักเปิดเป็นโรคเก่าที่ระบาดขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว  ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า  อยู่ๆก็เกิด  เกิดแล้วไม่มีใครรับผิดชอบ 


มีข้อมูลรู้เห็นหรือใครขอมีส่วนแสดงความเห็นได้น้อยมาก 


ประตูทุกประตูปิดหมด 


วันดีคืนดีน้ำก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่  ไม่รู้ที่มาที่ไปของน้ำ  น้ำเข้าสวน ไร่ นา  มากน้อยแค่ไหน  ต้องรวมตัวกันไปพึ่งพามือกดปุ่มลักปิด-ลักเปิด


 


ประตูน้ำเป็นเรื่องใหม่  เหมือนอะโวคาโด  ค่าใช้จ่ายจนเสร็จใช้งานได้มีรายจ่ายสูงมาก  ต่างกับอะโวคาโด  การเกิดขึ้นของประตูน้ำ  ต้องผ่านการประมูลราคา  ผู้รับเหมารับจ้างคนงาน ค่าอุปกรณ์ก่อสร้าง  ค่าดูแลบำรุงรักษา  ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น


 


ชาวประชาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่มย่ามชะเง้อดูข้อเท็จจริง


 


มีอะไรมากกว่านั้น  เกิดประตูน้ำขึ้นมา  ฝายน้ำล้น หรือฝายหินทิ้งอันเป็นมรดกตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน  ก็จมหายไปกับน้ำทันที  


 


ลบรอบประวัติศาสตร์  หรือว่าโลกดำเนินไปด้วยการไล่ตามลบรอยความเชื่อของตัวเอง  จนไม่เหลือสิ่งใดให้เชื่ออีกแล้ว


 



 


อะโวคาโดก็เช่นกัน  ไม้บงไม้ซาง  ป่าเต็งป่าตึง  ก็ต้องหลีกทางให้  เพื่ออะโวคาโดจะไม่แคระแกร็น  เปลี่ยนรูปร่างเป็นท้อหรือพลัม


 


ถามว่า  ประตูน้ำควบคุมระบบน้ำของชาวบ้านไว้เบ็ดเสร็จใช่มั้ย  ใครรู้ตอบที  ถ้าจะให้ดีต้องอธิบายผ่านมุมมองการใช้อำนาจ และคติชนความเชื่อร่วมด้วย 


เหมืองฝายเป็นเรื่องล้าหลังแล้วใช่มั้ย  หรือใครก็มิควรบังอาจถามคำถามนี้ 


เครื่องหมายบนดินอยู่คู่บ้านคู่เมือง จนกลายเป็นวัตถุโบราณที่ยังมีชีวิต  มีประโยชน์กับชาวบ้านอย่างไม่มีข้อสงสัย


 


เอาเงิน 500 ล้านบาทมาจัดการกับเหมืองฝายให้ใช้งานได้เต็มที่ไม่ดีกว่าหรือ?  ประโยชน์น่าจะตกถึงทั่วทุกตัวคน


 



 


เรื่องหนักๆ อย่างนี้อะโวคาโดบอกว่าเครียด  แค่คิดโครงการสร้างงานไม่ใช่เรื่องยาก  เป็นขนม  คนงานกับเครื่องมือเทคโนโลยีโถมกันเข้าไป  ไม่ช้าไม่นานก็เสร็จ  ดูอย่างไนท์ซาฟารีสวนสัตว์กลางคืน  พืชสวนโลก  หรืออุทยานช้างที่จะตามมา  กระเช้าไฟฟ้าที่วิ่งเต้นด้วยอัตราความเร็วรอบจัด  ให้มันเกิดขึ้นให้ได้เหนือผืนป่าดอยสุเทพ  เสร็จได้ราวเนรมิต แต่ระยะยาวอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง  ไม่รู้


 



 


ฝายกั้นน้ำปิง  เป็นตัวถ่วงความเร็วน้ำ  ทำให้น้ำท่วมเมือง  นั่น เป็นข้อสงสัยอันฉกาจฉกรรจ์  ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า  อาคารบ้านเรือนที่บุกรุกล้ำน้ำปิง  แต่ฝายกลับโดนทะลุทะลวงเป็นด่านแรก  แก้ๆไขได้ด้วยทดแทนประตูน้ำราคา 500 ล้านบาท


 


อะโวคาโดยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นตัวถ่วงเรื่องใดบ้าง  กลับดูเหมือนเป็นตัวแทนผลไม้ล้ำหน้าทันสมัยเสียมากกว่า  ว่าเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่ปลูกงอกงามได้ประเทศอื่นเขา  ส่วนคนจะชอบรับประทานหรือไม่  นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง


 


อะโวคาโดกับประตูน้ำ  จึงดูละม้ายคล้ายกันในเรื่องของใหม่


เป็นฝายต้องร่วมมือร่วมแรง หาไม้  หาหิน  ขุดลอกสายเหมือง  นับถือบูชาผีเหมืองเยี่ยงผู้มีพระคุณยิ่ง   ท่าทีเช่นนี้หลอมรวมใจ  เป็นความรู้สึกร่วมหวงแหน 


ประตูน้ำมาเมื่อไหร่  รถเครน รถขุด รถตัก รถเท รถบรรทุก  เหล่าคนงาน(จ้างแรงงานคนที่หาได้ไม่ยาก) ทุบบึ้มๆๆๆ  ทั้งวันทั้งคืน 


 


อะโวคาโดก็อะโวคาโดเถอะ  ถึงนาทีนั้นต้องหลีกทางให้เจ้ายักษ์ใหญ่ตีนตะเข็บ


ถึงวันนี้  อะโวคาโดเป็นไม้หมุนตามฤดู  มาเพิ่มผลไม้ขึ้นในถิ่นแถบนี้  ดูกลมกลืนกันไปได้  แต่เจ้าประตูน้ำเป็นเช่นนั้นหรือไม่ 


เพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยว  อะไรๆก็ทำได้ทุกอย่าง  ดูราวกับว่าโลกหมุนไปได้ด้วยกลุ่มคนที่คิดจะแตกหักกับธรรมชาติอยู่ร่ำไป


 


ตกลงอะโวคาโดกับประตูน้ำ 500 ล้านบาท  เกี่ยวกันได้บ้างมั้ย  … ไม่อยากเกี่ยวแล้ว  ไม่อยากตอบแล้ว  ขอให้เหมืองฝายโชคดี  รอดพ้นจากวงเงินที่ฟาดมาหนักหน่วงที่สุด  ตั้งแต่เมืองเชียงใหม่ให้กำเนิดเหมืองฝายขึ้นมา


 


เรากำลังเผชิญหน้ากับหนทางทำลายตัวเอง  ทำร้ายตัวเอง กัดกร่อนตัวเอง  ไม่เชื่อศรัทธาตัวเอง และหลอก-หลอนตัวเองอย่างที่สุด