Skip to main content

‘เขย่า’ ก่อนเที่ยว...

คอลัมน์/ชุมชน

ก่อนกินยาบางอย่างเราต้องอ่านฉลากข้างขวด ที่ฉลากนั่นเองมีตัวอักษรระบุว่าอย่าลืม "เขย่าก่อนกิน" ทุกครั้ง

ก่อนที่จะเปิดสินค้าพวกเครื่องปรุงหรือเครื่องดื่มบางชนิด เรามิหลงลืมที่จะ "เขย่าก่อนเปิด" ตามที่มีคำแนะนำไว้ข้างๆ ขวดเพื่อรสชาติที่ดีขึ้นหรือต้องการการ "เขย่าก่อนดื่ม" เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกที่ควร


มีหลายคำเตือนที่คนเราทำตามโดยความคุ้นชินหรือรู้ดีว่าเมื่อลงมือ "เขย่า" อะไรสักอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือผ่านเข้าสู่ชีวิตของตัวเองแล้ว จะทำให้ได้ประโยชน์ตามที่ควรจะเป็นหรือเข้าถึงรสชาติได้มากกว่าการที่เพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ต้องเขย่าเสียก่อน


หันกลับมามองการใช้ชีวิต แม้ไม่มีใครแนะนำหรือมีฉลากตักเตือนให้เราต้องรู้จักการเขย่าตัวเองในบางเรื่องบางจังหวะเวลาของชีวิต เพื่อสีสัน รสชาติของการใช้ชีวิตจะถูกขับเน้นออกมาได้อย่างมีสีสันหรือมีความกระตือรือร้นที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้มากขึ้น แต่ประสบการณ์ในหลายเรื่องราวอาจบอกเราได้ดีว่าการขยับขับเคลื่อนตัวเองให้พร้อมหรือการเปิดใจขยับรับสิ่งใหม่ๆ ล้วนแต่ให้บรรยากาศที่แปลกใหม่และคุ้มค่าน่าทดลองกว่าการที่จะทำอะไรไปตามครรลองปกติที่เกิดขึ้นหรือเป็นอยู่ในชีวิต


ลองคิดดูสิครับ อย่างการที่เราจะเดินทางออกไปท่องเที่ยวที่ไหนได้ในแต่ละครั้ง โอกาสเช่นนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ หรือง่ายดายเสียเมื่อไร กว่าจะหาเวลาที่พอเหมาะที่จะผละจากการงานหรือภารกิจมากมายในชีวิตออกไปได้สักสี่ซ้าห้าวันหรือมากกว่านั้นก็ตามที กว่าจะเก็บหอมรอมริบสะสมเงินทองไว้เพื่อออกเดินทางหรือแม้กระทั่งกว่าจะหว่านล้อมคนรอบข้างให้เชื่อมั่นว่าเราจะเดินทางไปถึงจุดหมายได้ด้วยความสบายใจของทั้งสองฝ่าย (กรณีที่มีอีกฝ่ายรอคอยอยู่ที่บ้าน) หรือชักจูงเพื่อนฝูงคนใกล้ตัวให้ออกเดินทางไปพร้อมกับเราได้ เรื่องทั้งหมดล้วนแต่เป็นการลงทุนลงแรงและใช้ความตั้งใจไปไม่น้อย


บนจุดหมายไม่ว่าจะใกล้ไกลกว่าจะคิดออกหรือคิดตกได้ว่าเราจะเอาแรงใจแรงกายไปทุ่มเทวางลงบนเส้นทางสายใดสายหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งๆ ย่อมต้องผ่านการเอาใจเข้าวัดเข้าแลกมาด้วยกันทั้งนั้น ผมจึงไม่อยากให้ช่วงเวลาที่น่าจะเกิดปรากฏการณ์ที่ดีๆ ในชีวิตและอาจเป็นวันเวลาที่เราเก็บเกี่ยวความสุข ความทรงจำ และเรื่องราวแปลกใหม่มากมายที่อาจจะบังเกิดขึ้นกลับกลายเป็นเรื่องราวที่บางเบาหรือแทบจะไม่มีสิ่งใดให้จับต้องได้ หากว่าเราออกเดินทางด้วยอาการสะลึมสะลือหรือทำตัวอยู่ในขนบเดิมๆ ตามความคุ้นเคยเหมือนวันที่ออกไปทำงานหรือวันที่เดินขึ้นไปดูวิวเล่นๆ บนดาดฟ้าที่บ้านแค่นั้นเอง


แน่นอนว่าเรื่องราว สถานที่ บุคคล อาหาร ภาษาและบรรยากาศรายรอบตัวของเราเมื่อได้ลองไปอยู่แปลกที่แปลกถิ่นบ้าง ย่อมเป็นสิ่งกระตุ้นหรือผลักดันการอยากรู้อยากเห็นในตัวคนเราให้เปิดออกหรือตื่นตัวขึ้นมาได้บ้างโดยเฉพาะหากเมื่อเราได้ลองย่างเท้าก้าวออกไปนอกชายคาเมืองไทย ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ระดับปกติที่ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้สิ่งเร้าต่างๆ จากภายนอกจะพุ่งเข้าหาเราโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัวได้ทัน หากเราไม่สร้างความกระตือรือร้นขึ้นจากภายใน ทำตัวให้พร้อมเพื่อรอรับเรื่องราวจากประสบการณ์การเดินทางด้วยการเขย่าภายในของตัวเองให้ตื่นขึ้น เปิดออก และพร้อมที่จะก้าวเท้าออกไปหรือเดินเข้าหาเรื่องราวมากมายบนการเดินทาง


การเดินทางที่ไม่คุ้มค่ากับเงินทอง เสียดายเวลา หรือสนุกแต่ไม่ถึงระดับที่คาดหวัง มักจะเป็นสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังอยู่บ่อยๆ จากการเดินทางในแต่ละครั้งของเพื่อนฝูงคนใกล้ตัว การเดินทางมิใช่การโยนหัวโยนก้อยเพื่อเสี่ยงทายและคาดหมายว่ามันจะต้องออกมาดีตรงกับใจที่คาดไว้หรือสนุกประทับใจไปเสียทุกครั้ง แต่ในรายละเอียดมากมายกว่าเราจะพาตัวเองไปยืนอยู่ ณ จุดหมายปลายทางที่อยากไปจนไปได้ถึงนั้นหากได้ลองทำตัวให้ถึงพร้อมด้วยความตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า ใช่หรือไม่ว่าเราอาจเก็บรับรายละเอียดที่น่าประทับใจจากการเดินทางได้มากหรือลึกขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา


ออกจะเป็นสิ่งที่เหนือความสามารถของผมที่จะปลุกเร้าหรือส่งผ่านประเด็นให้ใครสักคนเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือความคุ้นเคยเพื่อลองทำสิ่งใหม่หรือลุกขึ้นมาออกแรงเขย่าตัวเองให้กระปรี้กระเปร่าอย่างทันท่วงทีโดยเฉพาะช่วงเวลาก่อนออกเดินทาง


สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอแม้จะไม่ถือว่าเป็นคำเตือนหรือคำแนะนำที่แปะไว้ข้างๆ ตัวได้ว่า ถ้าเป็นไปได้คนเราควรจะหาหนทางที่จะ "เขย่า" ตัวตนภายในของเองก่อนออกเที่ยวดูบ้าง ปล่อยให้ตะกอนของการรับรู้ที่นิ่งซมและถูกปล่อยกองอยู่เนิ่นนานได้ลอยผ่านขึ้นมาสร้างความเข้มข้นให้กับมุมมองและการรับรู้ดูสักครั้งเพื่อที่จะได้ไม่เสียดายเวลาหรือรู้สึกว่าได้ไม่คุ้มเสียเมื่อการเดินทางผ่านเข้ามาแล้วจากเราไป


ตรงนี้ไม่ใช่คำแนะนำที่ข้างๆ ขวด แต่ก่อนออกเดินทางทุกครั้งอย่าลืมเขย่าตัวเองเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของการเดินทาง...