Skip to main content

Bird Volume 1

คอลัมน์/ชุมชน


 


ได้โอกาสที่จะเขียนถึงศิลปินยอดนิยมของเมืองไทยคนนี้เสียที  ในวาระที่ออกเพลงชุดใหม่ ที่กำลังดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองขณะนี้


 


จริงๆ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสาวกธงไชย คนหนึ่งกับเขาเหมือนกัน เป็นสมาชิกตอนพี่เบิร์ดออกเทปชุดแรก หาดทราย สายลม สองเรา ตั้งแต่ยังใส่กระโปรงบาน เสื้อคอซอง จวบจนบัดนี้กว่า 20 ปี ก็ไม่เคยพลาดงานเพลงของพี่เบิร์ดซักชุด  จะย้อนยุคชุด 2501 หรือจะ Rock กระชากวัยขนาดไหนขอให้เป็นพี่เบิร์ดร้องเถอะ...มีหมด แม้ยามเรียนหนังสืออยู่ไกลบ้าน แม่ยังซื้อส่งไปให้ฟัง....ส่วนชุดใหม่ Bird Volume 1 ไม่ต้องห่วง ได้เป็นเจ้าของตั้งแต่วางแผงวันแรก ....ฟังจนตอนนี้ลูกสาววัย 4 ขวบ ร้องโอ้..โอ้ละหนอน้องรอดีดี...ทั้งวัน


 


แต่ที่จะเขียนวันนี้ ไม่ได้มาเขียนถึงความคลั่งไคล้หลงใหลในตัวศิลปินหรอกนะคะ แต่พอมานั่งคิดๆ ดูก็แปลกดี เพราะตัวเองคงไม่ใช่คนเดียวที่มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ยังมีคนไทยอีกหลายๆๆๆๆๆๆคน ที่มีพฤติกรรมเหมือนกัน ก็เลยมานั่งคิดว่า เหตุใดหนอพี่เบิร์ดถึงได้ครองใจแฟนเพลงได้นานขนาดนี้ 20 กว่าปี


 


ไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ  เลยนะคะ ออกเทปทีไร ก็ขายดิบขายดี รับประกันยี่ห้อธงไชยได้ ชุดล่าสุดก็ขึ้นอันดับ 1 ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง แถมสมัยก่อนมี คอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด เล่นแต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่า 10 รอบ


 


นอกจากนี้ ถ้าพูดถึง แฟนเพลงของพี่เบิร์ด ก็เรียกได้ว่ามีทุกเพศ ทุกวัย มีตั้งแต่เรียกพี่เบิร์ด ลุงเบิร์ด หลานเบิร์ด ทุกภาคทั่วประเทศ เหนือ ถึง ใต้  ทุกระดับ ตั้งแต่ ไฮโซ ถึงไฮซ้อ  ลองคิดเล่นๆ  ถ้าเป็นสินค้า ลองคิดดูว่ามีสินค้าไหนบ้างที่บริโภคกันได้ทั่วถึงขนาดนี้ .... ไม่มากนะคะ  ขนาดมาม่า ที่ขายทั่วไทย ยังมีหลายรสให้เลือกตามความชอบ แต่พี่เบิร์ดชุดเดียวขายได้ทั่วไทย 


 


จริงๆ แล้วศิลปินก็เปรียบเหมือนสินค้าของบริษัทเพลงล่ะค่ะ ขออนุญาตวิเคราะห์โดยเปรียบพี่เบิร์ดเป็นตราสินค้าดูนะคะ ว่าสินค้าตราธงไชยมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ ยืนนาน


 


องค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่งของตราสินค้าที่ทำให้สินค้าประสบความสำเร็จ คือ  คุณค่าของตราสินค้านั้นๆ  หรือที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า Brand Equity ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ตราสินค้ามีความแข็งแกร่ง  หากตราสินค้าใดมีองค์ประกอบเหล่านี้แล้ว รับประกันได้ว่าประสบความสำเร็จแน่นอน  ดังนั้น บริษัทผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ในปัจจุบันจึงให้ความสำคัญกับการสร้าง Brand Equity เป็นอย่างยิ่ง


 


มาลองดูว่าพี่เบิร์ดของเรามีองค์ประกอบเหล่านี้อย่างไรบ้าง


1.       การรู้จักตราสินค้า หรือ Brand Awareness ซึ่งการรู้จักจะส่งผลต่อความชอบ และทำให้เกิดพฤติกรรมในที่สุด ตามตำราเขาบอกว่า คนเรามักจะชอบสินค้าที่คุ้นเคยดีอยู่แล้ว ดังนั้น การที่จะทำให้ตราสินค้าใดสินค้าหนึ่งเป็นที่รู้จักแต่อย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องรักษาการรับรู้ในตราสินค้านั้นๆ อย่างต่อเนื่องด้วย  จึงต้องมีการนำเสนอตราสินค้านั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ  พี่เบิร์ดนับเป็นตราสินค้าที่ไม่เคยตกกระแส เป็นศิลปินที่มีกิจกรรมต่างๆ อยู่ตลอดเวลา  นอกจากการออกเทป (นานๆ ที) ก็มีถ่ายแบบ เล่นละคร เป็น Presenter ให้กับสินค้าต่างๆ บ้าง  เท่าที่จำได้ไม่นานมานี้ก็มี ซุปไก่สกัดตรา      แบรนด์ หรือเป็น Presenter การรณรงค์ของรัฐบาลบ้างเป็นครั้งคราว


2.       การเชื่อมโยงได้กับตราสินค้านั้นๆ กับสิ่งต่างๆ รอบตัว หรือ Brand Association ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของสินค้า บริษัทผู้ผลิต บุคลิกภาพของสินค้า ยิ่งผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ รอบตัวให้เข้ากับตราสินค้าได้มากเท่าใด ตราสินค้านั้นก็ยิ่งแข็งแกร่ง เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็นึกถึงแต่ตราสินค้านั้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การนำศิลปินอย่างพี่เบิร์ดไปเชื่อมโยงกับกระแสต่างๆ  เทรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังมาแรง เช่น แนวเพลงฮิบฮอบ อย่างเพลงโอ้ละหนอ...My love หรือสไตล์การแต่งตัวที่เป็นแฟชั่นมาแรง ก็เป็นปัจจัยทำให้ประสบความสำเร็จได้ดีตลอดมา


3.       การรับรู้ในคุณภาพของตราสินค้า หรือ Perceived Brand Quality ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ ก็รู้กันดีว่ายี่ห้อธงไชยอัดคุณภาพมาเต็มห่อ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของการเป็นนักร้อง คือ เสียงดี ที่มีรางวัลการประกวดนักร้องยอดเยี่ยมระดับประเทศรับประกัน สามารถร้องได้ทั้งไทยและเทศ แถมยังเป็น Entertainer บนเวทีที่ผู้ชมไม่เคยผิดหวัง ภาพลักษณ์ก็สวยงาม เป็นขวัญใจของคนไทย รู้จักเคารพนบนอบ มีความอบอุ่นเป็นกันเอง องค์ประกอบในข้อนี้นับว่าสำคัญมากๆ ต่อให้มีแรงโปรโมท อย่างไร ถ้าเนื้อแท้ไม่ดีจริง ก็ไม่อยู่มานานขนาดนี้หรอกนะคะ


4.       องค์ประกอบสุดท้ายที่จะกล่าวถึงก็คือ Brand Loyalty ความภักดีในตรายี่ห้อ เขาบอกว่ายิ่งตราสินค้าใดมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ไม่มีใครมาเลียนแบบได้ จะยิ่งทำให้เหล่าผู้บริโภคเกิดความภักดี ซึ่งพี่เบิร์ดนับเป็นศิลปินที่ไม่มีใครมาเลียนแบบได้ เรียกได้ว่ามีคนเดียวเท่านั้นในประเทศไทย


 


จริงหรือเปล่าไม่รู้นะคะ แต่ส่วนมากคนที่เป็นแฟนเพลงพี่เบิร์ดจะซื้อเทป ซีดี เพราะความเป็นธงไชย ไม่ใช่ซื้อเพราะชอบเพลงนี้จังเลย.... เคยได้ยินเขาพูดกันว่า  เพลงพี่เบิร์ดเนี่ยเกือบทุกบ้านจะต้องมี 1 ม้วน หรือ 1 แผ่น เหมือนเป็นหน้าที่  เมื่อไหร่ออกชุดใหม่จะต้องมีไว้ประจำบ้าน เหมือนยาสามัญประจำบ้านอย่างไรอย่างนั้น เอาไว้ฟัง ชิว..ชิว...


 


แล้วคุณผู้อ่านประชาไทเป็นแฟนเพลงพี่เบิร์ดกันบ้างหรือเปล่า  ลองเขียนมาเล่าให้ฟังได้นะคะว่าเป็นแฟนเพลง หรือไม่เป็นแฟนเพลงเพราะอะไร...หรือ เลิกเป็นแฟนเพลงเพราะอะไร ...ส่วนตัวเองก็คิดว่าถ้าพี่เบิร์ดยังจะร้องเพลงอยู่ ดิฉันก็ยังคงจะซื้อต่อไป  จะยังคงเป็นสาวกธงไชยไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่งล่ะค่ะ