Skip to main content

รู้จักโฆษณาแฝงไหม???

คอลัมน์/ชุมชน


เมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งทางฟรีทีวี  มีพิธีกร 2 ท่าน หญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง และแขกรับเชิญเป็นวงสินเจริญบราเธอร์   ดูก็เพราะชอบวงสินเจริญบราเธอร์นี่แหล่ะ ร้องเพลงเพราะดี  พอแขกรับเชิญร้องเพลงจบ พิธีกรก็เข้ามาพูดคุยกับแขกรับเชิญไปเรื่อยๆ จนตอนท้ายก็วกเข้าประเด็นเรื่อง วงสินเจริญบราเธอร์น่าจะมีนักร้องนำสักคนเป็นผู้หญิง โดยให้พิธีกรหญิงทดลองร้องเพลงดู เธอก็ร้องๆๆ เต้นๆๆ จนหมดแรงล้มพับไปกับพื้น .....


 


และแล้ว แอ่น...แอน...แอ๊น ...โมชิก็มา รู้จักโมชิกันใช่ไหมคะ เจ้าตัว Mascot ของชาเขียวโมชิ  ที่มีคติประจำใจว่า ภารกิจของโมชิคือ ช่วยเหลือมวลมนุษย์ อะไรทำนองนี้แหล่ะ   เจ้าตัวโมชิก็เข้ามาทำหน้าที่ช่วยเหลือพิธีกรหญิง...นี่คือโฆษณาแฝงค่ะ  ในรายการนี้เรียกได้ว่า แฝงมาในรายการที่เราดูอยู่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย  แต่...เท่านี้ยังไม่พอ  พิธีกรชายยังนำกระเช้าชาเขียวโมชิแจกแขกรับเชิญ ....ยังค่ะ ยังไม่พออีก  กล้องยังแพนภาพไปที่ผู้ชมในห้องส่งที่นัดหมายโดยพร้อมเพรียงกันให้ชูชาเขียวโมชิที่ได้รับแจกขึ้นมา  พร้อมเสียงพิธีกรชายพูดถึงคุณสมบัติของชาเขียวยี่ห้อนี้ซ้ำอีก


 


...ดิฉันว่ามากไป...มากไปจริงๆ


 


นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของรายการวาไรตี้ที่ต้องเรียกได้ว่า มีโฆษณาแฝงทุกรายการ และมีในรูปแบบที่ต่างกันไป เมื่อไหร่ก็ตามที่มีป้ายโลโก้ตัวสินค้าปรากฏในรายการอาจจะโดยโจ่งแจ้ง หรือจะเนียนๆ มากับเนื้อหาของรายการก็ตาม  ให้รู้ไว้เลยว่ามันการจงใจให้เป็นโฆษณาแฝงแน่นอน ของฟรีไม่มีในโลก ไม่มีรายการใดโฆษณาให้สินค้าฟรีๆ หรอกค่ะ


 


อย่างในละครก็คงเคยเห็นกันใช่ไหม  เช่น  เวลาพระเอกจะรับโทรศัพท์ กล้องก็ต้องซูมภาพไปที่โทรศัพท์ก่อนที่พระเอกจะรับเพื่อให้รู้ว่าเป็นโทรศัพท์ยี่ห้ออะไร  หรือถ้าจะสั่งน้ำอัดลม นอกจากจะต้องใช้กล้องซูมให้เห็นโลโก้ชัดๆ แล้ว ยังต้องเลือกค่ายด้วย หากเป็นละครค่ายแกรมมี่  พระเอกต้องสั่งโค้กเพื่อชีวิตที่มีรสชาติ  แต่หากเป็นละครค่ายอาร์เอส  พระเอกต้องสั่งเป๊ปซี่ เพื่อแสดงความเป็นคนรุ่นใหม่ หรือในละครบางรักซอย 9 มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่มีการสาธิตแผ่นลอกสิวเสี้ยนยี่ห้อหนึ่งให้ดูกันจะ...จะ   


 


รายการเรียลลิตี้ อย่าง UBC Academy Fantasia ก็เช่นกัน เห็นสินค้าในรายการเต็มไปหมด สังเกตห้องที่เวลานักล่าฝันมารามตัวกันตอนทานข้าวไหม ....มีตู้เย็นอย่างน้อย 3 ตู้ใหญ่ๆ  ตู้หนึ่งใส่เป๊ปซี่ อีกตู้ใส่น้ำทิพย์ ส่วนอีกตู้เป็นตู้เย็น SHARP ที่มีโลโก้ใหญ่มากๆ ติดอยู่กลางตู้ ....แต่ตอนนี้เขารณรงค์ประหยัดพลังงานนะคะ ลดจำนวนตู้ลงบ้างก็คงจะช่วยชาติได้หลายบาท


 


ใน UBC นอกจากจะมีรายการ UBC Academy Fantasia แล้ว รายการทางช่อง INSIDE  ก็ล้วนแต่มีโฆษณาแฝงทั้งสิ้น   เคยดูรายการตะลุยปาร์ตี้ไหม ที่มีพิธีกรพาไปงาน Event ต่างๆ เช่น งานเปิดตัวสินค้า งานแฟชั่นโชว์ รายการนี้นับเป็นรายการที่ทำโฆษณาแฝงให้กับสินค้าต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบทีเดียว เพราะตลอดเกือบ 1 ชั่วโมงที่ดูรายการอย่างเพลิดเพลิน  ผู้ชมจะซึมซับคุณงามความดีของสินค้าผ่านความหรูหราอลังการ ความสนุกสนาน ของงานที่จัด รายการนี้นับเป็นรายการที่มีโฆษณาสินค้าแฝงมาอย่างเนียน....จริงๆ


 


แล้วโฆษณาแฝงมีดีตรงไหน ??


 


ทำไมเดี๋ยวนี้รายการต่างๆ ทำโฆษณาแฝงในรายการกันมากมาย  ไม่เว้นแม้แต่รายการประเภทคุยข่าว ที่เราดูกันทุกเช้า เห็นถ้วยกาแฟสีแดงๆ (ที่พอเห็นก็รู้ว่าเป็นเนสกาแฟ) ที่วางอยู่บนโต๊ะผู้ดำเนินรายการทุกเช้า  นี่ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของโฆษณาแฝง ที่มาในรูปแบบ เอาสินค้ามาวางไว้ในรายการ แถมบางครั้งผู้ดำเนินรายการยังยกถ้วยขึ้นมาดื่มให้เห็นอีก...จากเมื่อก่อนที่เป็นแค่ป้ายโลโก้เฉยๆ ผู้ชมอาจไม่สนใจ ก็เปลี่ยนมาเป็นตัวสินค้าซะเลย เข้ากับ Concept ของสินค้า..อรุณสวัสดิ์ยามเช้าด้วย


 


จริงๆ แล้วฟรีทีวี เขาก็อนุญาตให้มีโฆษณาอยู่แล้ว  ชั่วโมงละ 10 นาที  ซึ่งตรงนี้เป็นรายได้หลักของรายการ  คิดดูนะคะ ถ้าขายโฆษณาได้นาทีละ 2 แสนบาท 10 นาที ก็ได้ 2 ล้านบาทต่อวัน  ซึ่งจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตรายการ ที่เหลือเป็นกำไร แต่หากมีโฆษณาแฝงในรายการ ทางรายการก็จะได้รายได้เพิ่มขึ้นอีก อย่างรายการวาไรตี้ เขาจะขายโฆษณาเป็น Package เป็นต้นว่า โฆษณาในรายการ 1 นาที บวกเป็นผู้สนับสนุนรายการในช่วงแจ๊คพ๊อต คิด 1 ล้านบาทต่อเดือน แทนที่จะได้แค่ 8 แสนบาท ก็ได้ 1 ล้านบาท เพิ่มมาอีก 2 แสนบาท เป็นการหารายได้เพิ่มของรายการ


 


ส่วนในเปย์ทีวี  อย่าง UBC รายได้หลักของเขาก็คือค่าสมาชิก  ห้ามไม่ให้มีการโฆษณาโดยเด็ดขาด ดังนั้น จึงมีรายการบางรายการที่ต้องใช้การโฆษณาแฝงเพื่อเป็นรายได้ให้แก่ทางช่องในการผลิตรายการต่างๆ ออกมาได้คุ้มค่า อย่างช่อง INSIDE ที่เรียกได้ว่ามีโฆษณาแฝงเกือบทุกรายการทีเดียว


 


สรุปแล้วการทำโฆษณาแฝงก็เพื่อ เป็นช่องทางการหารายได้เพิ่มขึ้นของผู้ผลิตรายการ


 


ส่วนในมุมของเจ้าของสินค้าก็มักจะคิดว่าถ้าเป็นโฆษณาทั่วไป  พอเบรกพักช่วงรายการ ผู้ชมก็มักจะเปลี่ยนช่อง ทำให้ไม่ได้ดูโฆษณาที่ออกอากาศ หากเป็นผู้สนับสนุนรายการที่สามารถ ผสมผสานเรื่องราวของสินค้าเข้าไปในรายการได้ (อย่างเช่นชาเขียวโมชิที่เข้ามาช่วยพิธีกรหญิง ตามที่ยกตัวอย่างในตอนแรก) ก็ทำให้ผู้ชมได้ดูแน่ๆ อีกประการหนึ่งโฆษณาทั่วไปที่ออกอากาศเพียงแค่ 15-30 วินาทีต่อครั้ง ไม่สามารถบอกคุณสมบัติของสินค้าที่มีสรรพคุณมากมายได้ทุกอย่าง ดังนั้น เจ้าของสินค้าจึงคิดว่า การเป็นผู้สนับสนุนรายการ ทำให้สามารถแฝงการโฆษณาเข้ามาได้และเป็นช่องทางที่จะบอกสรรพคุณเกี่ยวกับสินค้าได้ดี


 


แต่....การดู หรือการเปิดรับโฆษณาของผู้ชมไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะต้องชอบ และซื้อสินค้าเสมอไป มีงานวิจัยหลายๆ ชิ้น ทั้งในและต่างประเทศสรุปว่า การทำโฆษณาแฝงนั้นให้ประโยชน์แค่เพียงการเปิดรับ และตอกย้ำตราสินค้าเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อความชอบในตัวสินค้าแต่อย่างใด  


 


การจะทำให้คนซื้อสินค้าได้นั้น ความชอบในตราสินค้าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก  เรามักจะซื้อสินค้าที่เรารู้สึกชอบ...โฆษณาแฝงที่พอเหมาะ ไม่ยัดเยียดข้อมูล  สรรพคุณสินค้าจนเกินไป จะสามารถตอกย้ำตราสินค้าได้ดี ในขณะที่โฆษณาแฝงที่มากจนเกินพอดี ให้พิธีกรพูดซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ในรายการจะทำให้ผู้ชมเกิดความรำคาญ และก่อให้เกิดผลลบต่อตราสินค้า (จริงๆ นะ)


 


ผู้ชมสมัยนี้ฉลาดออก แค่เห็นสัญลักษณ์ของสินค้าก็รู้แล้วว่าจะขายอะไร ไม่ต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก หรอก 


 


อย่าเอาเปรียบคนดูเลย  แค่ชั่วโมงละ 10 นาทีก็มากพอแล้ว  


 


อยากดูรายการ....ไม่ได้อยากดูโฆษณา